1. 1. ยุคอารยัน
1.1. พวกมิลักขะ(ชนพื้นเมืองเดิม)เชื่อในดินน้ำลมไฟ +เทพเจ้ามีตัวตนและอยู่ที่เขาพระสุเมรุ(หิมาลัย)
1.2. พิธีบูชา
1.2.1. บวงสรวงด้วยไฟ:ควันลอยไปบนฟ้าหาเทพ
1.2.2. เผาเครื่องสังเวย
1.3. ชาวอารยันมาบุกอินเดีย(นับถือเทพเจ้าบรรพบุรุษ) : ปรับศาสนาให้เข้ากับชาวมิลักขะ
1.3.1. สร้างเทพปกป้อง 4 ทิศ
1.3.1.1. พระอินทร์:สร้างทุกอย่าง
1.3.1.2. พระสาวิตรี:แสงสว่าง
1.3.1.2.1. เทพอัคนี
1.3.1.3. พระวิรุณ:ฝน
1.3.1.4. ยมบาล:ทำลายชีวิต
1.3.2. บูชาเทพเจ้าและบรรพบุรุษ
1.3.2.1. เอาอาหารวางบนพื้น=พลี
1.3.3. สร้างเทพมากขึ้นจึงแบ่งประเภท:โลก อากาศ สวรรค์
1.3.3.1. บูชายัญ
1.3.3.2. ถวายน้ำโสม
1.3.3.3. บทสวด
2. 6. ยุคศูทร
2.1. ต่อเติมมหาภารตะ
2.2. สร้างตำราเรียน=สูตร=เวทางค์:ย่อจากพระเวท
3. 7.ยุคอวตาร
3.1. ศาสนาฮินดูเสื่อมลง
3.1.1. สร้างพระนารายณ์อวตาร
3.1.2. เกิดลัทธิทางศาสนามากขึ้น
3.2. ยุคใช้ความคิดใช้ปรัชญา=ษัททรรศนะ
3.3. คัมภีร์มนูธรรมศาสตร์
3.3.1. กฎหมายของคนอินเดียยุคแรก
3.4. คัมภีร์ภควัทคีตา
3.4.1. พระนารายณ์อวตารเป็นพระกฤษณะ
4. 8. ยุคเสื่อม
4.1. ไศวะนิกาย(พระศิวะ) VS ไวษณนิกาย(พระวิษณุ)
4.2. พระพรหมได้รับความนิยมน้อยจึงเสื่อมลง
4.3. เกิดสัญลักษณ์"โอม"
4.4. คัมภีร์ปุราณะ:ยกย่องเทพเจ้าของตนเอง
5. 10. ยุคภักดี
5.1. ชาวฮินดู VS ชาวอิสลาม : แยกไปเป็นศาสนาสิกข์ ที่แคว้นปัญจาบของอินเดีย
5.2. ชาวอิสลามปกครองอินเดีย
5.3. ศาสนาคริสต์มาเผยแพร่
5.4. ลัทธิภักดี :บูชารูปเคารพ+แบ่งชนชั้น
5.4.1. นับถือพระราม
5.4.2. นับถือพระกฤษณะ
5.5. แม้เทพเจ้าต่างกันแต่มีเทพเจ้าสูงสุดเพียงองค์เดียว
5.5.1. ภักดี=หลุดพ้นจากทุกข์
5.5.2. ไม่ภักดี=ตกนรก
6. 9. ยุคฟื้นฟู
6.1. พระพุทธศาสนา+ศาสนาเชนหายไป
6.2. ศาสนาฮินดูได้รับการอุปถัมป์+เผยแพร่
6.2.1. ปรับปรุงให้มีเหตุผลมากขึ้น
6.2.2. แต่งบทสวดโดยใช้ภาษาพื้นเมือง
6.3. เกิดลัทธิ
6.3.1. ลัทธิภักติ
6.3.1.1. เชื่ออย่างสุดใจขอแค่ความภักดี
6.3.2. ลัทธิศักติ
6.3.2.1. เทพเจ้าหญิง : พระอุมา พระลักษมี พระสุรัสวดี
6.3.2.2. การบูชา
6.3.2.2.1. คัมภีร์ตันตระ
6.3.2.2.2. ในคืนเดือนมืด : มังสะ เมไร มุทรา มันตระ เมถุน
7. 2. ยุคพระเวท
7.1. แบ่งชนชั้น
7.1.1. นักบวช=พราหมณ์=ปุโรหิต
7.1.1.1. เริ่มแบ่งหน้าที่กัน:บูชาเทพ บทสวด จัดพิธี
7.1.1.2. คัมภีร์ฤคเวท:สรรเสริญธรรมะ
7.1.1.3. สร้างเทพองค์ใหม่=พระพรหม
7.1.1.4. คัมภีร์สามเวท:บดสวดพิธีถวายน้ำโสม
7.1.1.5. คัมภีร์ยชุรเวท:อธิบายไตรเพท
7.1.1.5.1. ขาว:ร้อยกรอง
7.1.1.5.2. ดำ:ร้อยแก้ว
7.1.2. นักรบ/กษัตริย์
7.1.3. เกษตรกร
8. 3.ยุคพราหมณะ
8.1. พราหมณ์มีอำนาจทางการเมือง
8.2. แบ่งเป็น 4 วรรณะ
8.2.1. พราหมณ์:ปาก
8.2.1.1. ติดต่อแบบผูกขาดกับเทพเจ้า
8.2.2. กษัตริย์:แขน
8.2.3. แพศย์:สะโพก
8.2.4. ศูทร:เท้า(พวกมิลักขะ)
8.3. คนเปลี่ยนสถานะไปเป็นเทพเจ้าได้
8.3.1. ออกบวชกันเยอะจนเกิดลัทธิใหม่มากมาย
8.3.2. คัมภีร์อารัณยกะ
8.3.2.1. คู่มือการเป็นฤาษี/วานปรัสถ์
8.4. สร้างเทพเจ้าองค์ใหม่
8.4.1. พระศิวะ:ภูเขา
8.4.2. พระวิษณุ:ทะเล
8.5. คัมภีร์อาถรรพเวท
8.5.1. คาถาอาคมมีทั้งบวกและลบ
9. 4.ยุคฮินดู
9.1. ต้องปรับเพราะคนเริ่มไม่เชื่อ
9.1.1. อธิบายพระพรหมชัดเจนขึ้น
9.1.1.1. วิญญาณมาจากพระพรหม
9.1.2. unseen power=เทพเจ้าที่แท้จริง
9.1.3. โมกษะ=การหลุดพ้นจากการเวียนว่ายตายเกิด
9.2. 3วรรณะแรกต้องเข้าเรียน โดยมีพราหมณ์เป็นอาจารย์
9.2.1. ก่อนเรียนต้องทำพิธียัชโญปวีต
9.3. ชาวอารยันเชื่อว่าคัมภีร์ของเขามาจากเทพเจ้า =พระเวท=ศุรติ(ฟังมาจากปากของเทพเจ้า)
10. 5. ยุคอุปนิษัท
10.1. ยุคออกบวช: ผู้คนแสวงหาการหลุดพ้น
10.1.1. บำเพ็ญตบะ
10.1.2. มีลัทธิสำคัญคือลัทธิอุปนิษัท=พราหมณ์
10.2. เกิดศาสนาเชน
10.2.1. พระมหาวีระ
10.2.2. ชีเปลือย
10.3. เกิดพุทธศาสนา
10.4. คัมภีร์อุปนิษัท
10.4.1. ภาคสุดท้ายของพระเวท=เวทานตะ
10.4.2. สอนแค่ 3วรรณะแรก
10.5. เกิดวรรณกรรม
10.5.1. รามายณะ:ฤาษีวาลมิกิ
10.5.2. มหาภารตะ:ฤาษีกฤษณะ