1. เกิดกับนิวนิวเคลียสที่มีจำนวนนิวตรอนมากกว่าโปรตอนนิวตรอนในนิวเคลียสจะเปลี่ยนไปเป็นโปรตอนและอิเล็กตรอน
2. ปฏิกิริยาเคมีที่ได้ศึกษามาแล้ว เป็นการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับเวเลนซ์อิเล็กตรอนของธาตุ
2.1. ปฏิกิริยาฟิชชัน
2.1.1. เกิดขึ้นภายใต้ภาวะที่เหมาะสมจะได้จำนวนนิวตรอนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วทำให้ปฏิกิริยาฟิชชันดำเนินไปอย่างรวดเร็วและปล่อยพลังงานออกมาจำนวนมหาศาล
2.2. ปฏิกิริยาฟิวชัน
2.2.1. ปฏิกิริยาฟิวชันเกิดขึ้นบนดวงอาทิตย์ซึ่งเป็นแหล่งพลังงานที่สำคัญของสุริยจักรวาล
3. การสลายตัวของธาตุกัมมันตรังสี
3.1. การแผ่รังสีแอลฟา
3.1.1. ส่วนใหญ่เกิดกับนิวเคลียสที่มีเลขอะตอมสูงกว่า82และจำนวนนิวตรอนต่อโปรตอนในสัดส่วนที่ไม่เหมาะสม
3.2. การแผ่รังสีบีตา
3.3. รังสีแกมมา
3.3.1. เกิดกับไอโซโทปกัมมันตรังสีที่มีพลังงานสูงมาก
4. ปฏิกิริยานิวเคลียร์
5. การเกิดกัมมันตภาพรังสี
5.1. กัมมันตภาพรังสีเป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติของสาร เกิดจากธาตุกัมมันตรังสี เช่น U-238และTh-232แผ่รังสีออกมาตลอด
5.2. เกิดจากนิวเคลียสในสภาวะพื้นฐานได้รับพลังงาน
5.3. เกิดจากนิวเคลียสที่อยู่ในสภาพสเถียร. แต่มีอนุภาคไม่สมดุล
6. นายภูริณัฐ กมลหรรษา ม.4/4 เลขที่15
7. ครึ่งชีวิตของธาตุกัมมันตรังสี
7.1. ธาตุกัมมันตรังสีจะสลายตัวให้รังสีชนิดใดชนิดหนึ่งออกมาได้เองตลอดเวลา
8. การตรวจสอบสารกัมมันตรังสีและเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับการใช้สารกัมมันตรังสี
8.1. รังสีทำให้โมเลกุลของของสารแตกตัวเป็นไปออนได้เป็นผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่เซลล์ของสิ่งมีชีวิต
8.1.1. ด้านธรณีวิทยา
8.1.1.1. ใช้คาร์บอน-14ซึ่งมีครึ่งชีวิต5730ปีหาอายุโบราณที่มีคาร์บอนเป็นองค์ประกอบ เช่น ไม้ กระดูก หรทอสารอินทรีย์อื่นๆ
8.1.2. ด้านการแพทย์
8.1.2.1. ใช้เพื่อศึกษาความผิดปกติของอวัยวะต่างๆในร่างกายโดยให้คนไข้รับประทานอาหาร
8.1.3. ด้านเกษตรกรรม
8.1.3.1. ใช้ไอโซโทปกัมมันตรังสีในการติดตามระยะเวลาของการหมุนเวียนเเร่ธาตุในพืช
8.1.4. ด้านอุตสาหกรรม
8.1.4.1. ใช้ไอโซโทปกัมมันตรังสีกับงานหลายอย่าง เช่น ใช้ตรวจหารอยตำหนิในโลหะหรือรอยรั่วของท่อขนส่งของเหลว
8.1.5. การเก็บถนอมอาหาร
8.1.5.1. ใช้โคบอลต์-60ซึ่งจะให้รังสีแกมมาที่ไม่มีผลตกค้างและรังสีจะทำลายแบคทีเรียจึงช่วยเก็บอาหารไว้ได้นานหลายวัน