1. ความหมาย
1.1. เริ่มจากทารกคลอดจนถึงรกและเยื่อหุ้มทารกคลอดหมด ใช้ระยะเวลาประมาณ 5-15 นาที แต่ไม่เกิน 30 นาที ทั้งในครรภ์แรกและครรภ์หลัง
2. การประเมินอาการและอาการแสดงของรกลอกตัว
2.1. Uterine sign
2.1.1. มดลูกจะเปลี่ยนแปลงจากแบนเป็นกลมขนาดจะเล็กลง
2.1.2. มดลูกจะหดตัวแข็ง
2.1.3. ตำแหน่งของมดลูกจะสูงขึ้นเหนือระดับสะดือประมาณ 0.5 เซนติเมตร
2.1.4. เคลื่อนไหวไปมาได้ เพราะไม่ได้อยู่ในช่องเชิงกราน
2.1.5. ลักษณะหน้าท้องเป็นสองลอน ส่วนมากลอนบนจะเป็นมดลูกมีลักษณะแข็งและเอียงไปทางขวา เนื่องจากทางซ้ายเป็นลำไส้ ส่วนลอนล่างจะเป็นรกมีลักษณะนิ่ม
2.2. Cord sign
2.2.1. สะดือจะมีการเคลื่อนต่ำของสายสะดือ เนื่องจากรกลอกตัว เคลื่อนต่ำมาอยู่บริเวณมดลูกส่วนล่าง
2.2.2. สายสะดือจะเหี่ยว คลายเกลียว และไม่มี Pulsation
2.2.3. การทดสอบสายสะดือ (cord test) โดยใช้มือกดบริเวณเหนือกระดูกหัวเหน่าและโกยมดลูกขึ้นไปข้างบน สายสะดือจะไม่เคลื่อนตามเข้าไปในช่องคลอดอีก
2.3. Vulva sign
2.3.1. มีเลือด
2.3.1.1. รกเริ่มลอกตัวจากบริเวณขอบล่างของรก เป็นการลอกตัวแบบเมททิวส์ ดันแคน (Matthews Dancan’s method )
2.3.2. ไม่มีเลือด
2.3.2.1. รกเริ่มลอกตัวบริเวณตรงกลาง เป็นการลอกตัวแบบชูสท์ (Schultze’s method)
3. การพยาบาล
3.1. ป้องกันการตกเลือด
3.1.1. ขณะรอรกลอกตัวไม่ควรใช้มือคลึงมดลูก เพราะจะกระตุ้นให้มดลูกมีการหดรัดตัว ทำให้ปากมดลูกปิด (Cervical cramp) ทำให้รกไม่สามารถคลอดผ่านมดลูกออกมาได้
3.1.2. ตรวจดูกระเพาะปัสสาวะให้ว่าง ถ้าพบว่ากระเพาะปัสสาวะเต็ม ควรกระตุ้นให้ถ่ายปัสสาวะ ถ้ามารดาไม่สามารถถ่ายปัสสาวะเองได้อาจพิจารณาสวนปัสสาวะให้
3.1.3. หลังจากที่รกคลอดแล้วควรคลึงมดลูกทุก 15 นาที เพื่อกระตุ้นให้มดลูกมีการหดรัดตัว
3.1.4. ฉีดยาเพื่อป้องกันการตกเลือดหลังคลอด WHO แนะนำให้ฉีดขณะไหล่หน้าคลอด
3.2. ป้องกันการติดเชื้อ
3.2.1. ผู้ทำคลอดควรให้การพยาบาลโดยใช้หลัก Sterile technique
3.3. ให้ความอบอุ่นแก่ผู้คลอด
3.3.1. ควรให้ความอบอุ่นแก่ผู้คลอด โดยหาผ้าห่มมาคลุมบริเวณหน้าอกและแขน หรือปิดแอร์
3.4. การทำคลอดรกและเยื่อหุ้มทารก การทำคลอดรก
3.4.1. Modified Crede’maneuver
3.4.2. Brandt-Andrew maneuver
3.4.3. วิธีการดึงสายสะดืออย่างมีการควบคุม (controlled cord traction)
3.4.4. วิธีดึงสายสะดือ (cord traction)