
1. ผู้ป่วยมีอาการปวดเนื่องจากพยาธิสภาพของโรค
1.1. จุดมุ่งหมาย ลดอาการปวด
1.2. เกณฑ์การประเมินอาการปวดทุเลาและผู้ป่วยสามารถนอนหลับพักผ่อนได้วันละ 6-8 ชั่วโมง
1.3. กิจกรรมการพยาบาล 1.ประเมินระดับความเจ็บปวด 2.ประเมินปัจจัยที่ทำให้ผู้ป่วยปวดมากขึ้น 3.จัดท่าให้ผู้ป่วยรู้สึกสบายและให้บริเวณที่ปวดได้พัก 4.ดูแลให้ผู้ป่วยใช้อุปกรณ์ช่วยพยุงต่างๆอย่างเหมาะสม 5.ช่วยเหลือกิจกรรมที่ผู้ป่วยไม่สามารถปฏิบัติเองได้ 6.ให้ยาแก้ปวดตามแผนการรักษาและติดตามอาการ 7.แนะนำวิธีลดความเจ็บปวดโดย relaxation technique ได้แก่ หายใจเข้าออกลึกไป การผ่อนคลายกล้ามเนื้อหรือการสร้างจินตภาพ เป็นต้น 8.พูดคุยให้กำลังใจและกล่าวชมเมื่อผู้ป่วยสามารถเผชิญต่อความปวดได้ดี
2. ผู้ป่วยมีโอกาสได้รับสารอาหารไม่เพียงพอกับความต้องการของร่างกายเนื่องจากมีภาวะเยื่อบุช่องปากอักเสบและเบื่ออาหารจากการสูญเสียการรับรู้รสชาติ
2.1. เกณฑ์ 1.ผู้ป่วยน้ำหนักไม่ลดลงไปกว่าเดิม 2.ผู้ป่วยไม่มีอาการอ่อนเพลีย ซึม
2.2. วัตถุประสงค์ ผู้ป่วยได้รับสารอาหารเพียงพอ
2.3. กิจกรรมการพยาบาล 1. ซักประวัติชนิด ปริมาณ อาหารที่งดเว้นและประเมินความสามารถการรับประทานอาหารใน แต่ละวันของผู้ป่วยเพื่อวางแผนให้คำแนะนำด้านโภชนาการ 2. ประเมินการเปลี่ยนแปลงของน้ำหนักตัวจากร้อยละของน้ำหนักตัวที่เปลี่ยนแปลง คำนวณพลังงานสารอาหารที่เหมาะสมกับความต้องการของร่างกาย ประเมินความรู้ผู้ป่วย/ครอบครัวเกี่ยวกับการรับประทานอาหารที่ถูกต้องและเพียงพอกับ ความต้องการของร่างกายเพื่อวางแผนการให้คำแนะนำที่เหมาะสม 3. แนะนำให้ผู้ป่วยรับประทานอาหารให้ครบทั้ง 5 หมู่และเพียงพอกับความต้องการของร่างกาย ให้ได้รับ
3. การรักษา
3.1. 1. ในรายที่ก้อนขนาดเล็กและเป็นชนิดไม่ร้ายแรงผ่าตัด excision ออก แต่ถ้าก้อนใหญ่หรือเป็นเนื้องอกร้ายแรงที่แขนขาทำผ่าตัด amputation หรือ disarticulationออก
3.2. 2. การใช้รังสีรักษา สำหรับเนื้องอกที่ไวต่อการฉายรังสี เช่น Ewing 's tumorสิ้
3.3. 3. การให้เคมีบำบัด (Chemotherapy) ได้ผลที่สุดในการควบคุมการกระจายของโรค
3.4. 4. Immunotherapy เป็นการใช้เซลล์ภูมิคุ้มกันมาทำลายหรือขจัดเซลล์เนื้อร้าย
4. ความหมาย
4.1. Osteosarcoma เป็นมะเร็งของกระดูกเด็กที่พบบ่อยที่สุด ส่วนใหญ่เป็นชนิดร้ายแรง (high-grade malignancy) มีโอกาสน้อยมากที่จะพบชนิด low-grade ในผู้ป่วยเด็ก เกิดจากเซลล์ตัวอ่อน mesenchymal stem cells เจริญเติบโตเป็น malignant osteoid tissue การที่มันลุกลามไปที่เนื้อเยื่อโดยรอบอย่างรวดเร็ว และแพร่กระจายทางกระแสเลือด ทำให้มีพยากรณ์โรคเลวลงมาก
5. ข้อวินิจฉัยการพยาบาล
5.1. วิตกกังวลเนื่องจากขาดความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับโรคและการรักษาพยาบาลที่ได้รับ
5.1.1. วัตถุประสงค์ ผู้ป่วย บิดา มารดา และครอบครัวมีความวิตกกังวลลดลง
5.1.2. เกณฑ์ 1.สีหน้าท่าทางผู้ป่วย บิดามารดา และครอบครัวยิ้มแย้มแจ่มใสขึ้น 2.ยอมรับและร่วมมือในการรักษาพยาบาล
5.1.3. กิจกรรมการพยาบาล 1.สร้างสัมพันธภาพที่ดี เพื่อให้เกิดความไว้วางใจ 2.ในกรณีที่ต้องทำการผ่าตัด เตรียมผู้ป่วยโดยร่วมกับแพทย์ในการอธิบายเกี่ยวกับการผ่าตัดและสิ่งที่จะเกิดกับผู้ป่วยหลังผ่าตัดให้แก่ผู้ป่วย(เด็กโต) บิดามารดาและครอบครัวได้รับทราบและเข้าใจ 3.ในผู้ป่วยที่ต้องตัดแขน-ขา ต้องแนะนำช่วยเหลือในการติดต่อเกี่ยวกับทำแขน-ขาเทียมให้กับผู้ป่วย 4.ให้กำลังใจกับผู้ป่วย บิดามารดา และครอบครัว
5.2. รู้สึกด้อยค่าในตนเองเนื่องจากภาพลักษร์เปลี่ยนแปลง
5.2.1. วัตถุประสงค์ ผู้ป่วยมีความรู้สึกในคุณค่าตัวเองมากขึ้น
5.2.2. กณฑ์ 1.จากคำพูดที่แสดงว่าผู้ป่วยรู้สึกในคุณค่าตัวเองมากขึ้น เช่น "ไม่ใช่เราคนเดียวที่เป็นแบบนี้" เป็นต้น 2.ร่วมมือในการรักษาพยาบาลดี 3.มีการพูดคุยซักถามการปฏิบัติตนและพยายามช่วยเหลือตนเอง 4.หน้าตายิ้มแย้มแจ่มใส ไม่มีอาการเหม่อลอย หรือบ่นน้อยใจตนเอง รับประทานอาหารและนอนหลับพักผ่อนได้ดี
5.2.3. กิจกรรมการพยาบาล 1.การประเมินความเข้าใจการรับรู้เกี่ยวกับการสูญเสียภาพลักาณ์ อธิบายถึงสาเหตุการเกิดผมร่วง ส่วนในเด็กเล็กอาจเตรียมด้วยการให้เล่นกับตุ๊กตาที่ไม่มีผม และแสดงให้เห็นว่าไม่ใช่อุปสรรคในการที่จะได้รับความรักจากคนอื่น และให้ความมั่นใจว่าอาการผมร่วงเป็นอาการชั่วคราว ผมจะกลับงอกใหม่เหมือนเดิม เมื่อหยุดยา 2. แนะนำเกี่ยวกับการปฏิบัติตัว ควรสระผมด้วยแชมพูอ่อนๆ หวีผมเบาๆ ด้วยแปรงหวีผมซี่ห่างๆ ตัดผมให้สั้นจะช่วยให้รู้สึกว่าผมไม่ร่วงมาก ในเด็กโตอาจใช้วิกผมช่วย 3. ลดอาการผมร่วงโดยอาจใช้ความเย็นประคบ (ice pack) บริเวณศีรษะขณะให้เคมีรักษา 4. อธิบายให้ญาติเข้าใจการเปลี่ยนแปลง และสนับสนุนให้มีส่วนร่วมในการให้กำลังใจผู้ป่วย
6. สาเหตุของเนื้องอกกระดูกในเด็ก
6.1. 1.กรรมพันธุ์
6.1.1. ยีนส์บางตำแหน่งสามารถถ่ายทอดการเกิดเนื้องอกกระดูกบางชนิดได้ เช่น โรคเซลล์กระดูกผิดปกติ ได้แก่ Parget's disease
6.2. 2.การได้รับผลกระทบทางกายภาพ
6.2.1. เช่น สารเคมีก่อมะเร็งบางตัว การได้รับรังสี
6.3. 3.กระดูกเจริญเติบโตเร็ว
6.3.1. มักพบในวัยรุ่นจะเป็นมะเร็งตรงบริเวณ metaphyseal
7. อาการและอาการแสดงของเนื้องอกกระดูกในเด็ก
7.1. จะมีอาการปวดบริเวณที่เป็นเล็กน้อย ลักษณะการปวดมักจะเป็นแบบปวดลึกๆตลอดเวลาอาการปวดจะมากขึ้นเวลาทำงานหรือมีการเคลื่อนไหว อาจมีอาการปวดกลางคืนร่วมด้วย
7.2. อาจมีก้อนหรืออาการบวมบริเวณแขนขาหรือต้นขาโดยไม่ทราบสาเหตุอาจพบอาการบวมแดงจากการอักเสบ อาการบวมที่เกิดขึ้นอาจทำให้ข้อต่อเคลื่อนไหวได้ยาก ก้อนเนื้องอกอาจโตโดยไม่มีอาการแสดง
7.3. จนกระทั่งมีการหักของกระดูกเกิดขึ้นมีการเคลื่อนไหวข้อได้ไม่เต็มที่ และมีอาการปวดขัดขณะเคลื่อนไหว
7.4. อาการอื่นที่พบรองลงมาได้แก่ อาการไข้สูง มีเหงื่อออก โดยเฉพาะช่วงกลางคืน และน้ำหนักลดลงอย่างไม่ทราบสาเหตุ
8. ประเภทของเนื้องงอกกระดูก
8.1. ตามเนื้อเยื่อต้นกำเนิด
8.1.1. 1 เนื้องอกปฐมภูมิ (Primary bone tumor) เนื้อเยื่อต้นกำเนิดมาจากระบบกระดูกและกล้ามเนื้อ
8.1.2. 2 เนื้องอกทุติยภูมิ (Secondary bone tumor) เนื้อเยื่อต้นกำเนิดมาจากเนื้อเยื่อชนิดอื่น แต่มาเกิดเนื้องอกในกระดูกและกล้ามเนื้อ