วัสดุ (Materials)
by Tanapon SaMa
1. โลหะ (Metal)
1.1. 1.1) โลหะประเภทเหล็ก (Ferrous Metal)
1.1.1. มีธาตุเหล็กเป็นส่วนประกอบหลัก
1.2. 1.2) โลหะประเภทที่ไม่ใช่เหล็ก (Non-Ferrous Metal)
1.2.1. ไม่มีธาตุเหล็กเป็นองค์ประกอบ (ไม่เกิดสนิม)
2. ไม้ (Wood)
2.1. 2.1) ไม้สังเคราะห์พลาสติก (Wood Plastic Composite)
2.1.1. เป็นวัสดุทนแทนไม้ธรรมชาติ โดยนำผงไม้ ขี้เลื่อยไม้ หรือเส้นใยไม้ มาผสมกับพลาสติก
2.2. 2.1.1) ไฟเบอร์บอร์ดความหนาแน่นปานกลาง (medium-density fiber board)
2.2.1. - สมบัติเด่น คือ ผลิตเป็นแผ่นบาง ๆ
2.3. 2.1.2) พาร์ติเคิลบอร์ด (particle board)
2.3.1. - ข้อดี ราคาถูก มีความสวยงาม
2.3.2. - ข้อด้อย มีความแข็งแรงน้อย
2.4. 2.2) ไม้สังเคราะห์ไฟเบอร์ซีเมนต์ (Wood Fiber Composite)
2.4.1. เป็นไม้ที่มีส่วนผสมของ ปูน ทราย และผงไม้ ผ่านกระบวนการอัดขึ้นรูป มีความแข็งแรงทนทานเทียบเท่าคอนกรีต ใช้ได้ทั้งภายในและนอกอาคาร
3. เซรามิก (Ceramic)
3.1. ผลิตจากวัตถุดิบในธรรมชาติ เช่น ดิน หิน ทราย และแร่ธาตุต่าง ๆ นำมาผสมกัน แล้วนำไปเผาเพื่อเปลี่ยนเนื้อวัตถุให้แข็งแรง และคงรูป
4. วัสดุผสม (Ceramic)
4.1. วัสดุเชิงประกอบพอลิเมอร์ (Polymer Matrix Composite: PMC)
4.2. เป็นการเสริมแรงให้พอลิเมอร์ โดยเติมเส้นใยเสริมแรง
4.3. วัสดุเชิงประกอบโลหะ (Metal Matrix Composite: MMC)
4.4. มีโลหะเป็นวัสดุหลัก เช่น อะลูมิเนียม วัสดุเสริมแรงของคอมโพสิตกลุ่มนี้เป็นวัสดุเซรามิก หรือสารเสริมแรงโลหะ
4.5. วัสดุเชิงประกอบเซรามิก (Ceramic Matrix Composite: CMC)
4.6. ผสมสารเสริมแรง เพื่อทำให้มีความเหนียวและทนทานมากขึ้น สารเสริมแรงเป็นรูปแบบเส้นใย หรืออนุภาค
5. วัสดุสมัยใหม่ (Modern Material)
5.1. ถูกผลิต หรือสังเคราะห์ขึ้นด้วยเทคโนโลยีชั้นสูง เป็นการพัฒนาวัสดุให้ดีขึ้น สามารถนำไปใช้งานได้หลากหลายด้าน เช่น วัสดุนาโน (Nanomaterial) วัสดุชีวภาพ (Biomaterial) ตัวเก็บประจุยิ่งยวด (Ultracapacitor)
5.2. วัสดุนาโน
5.3. - มีขนาด 1 -100 นาโนเมตร หรือมีโครงสร้างในระดับนาโน ทำให้มีคุณสมบัติพิเศษหรือสมบัติที่แตกต่างจากวัสดุชนิดเดียวกันที่มีขนาดใหญ่กว่า แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือ
5.4. ผลผลิตทางด้านนาโนเทคโนโลยีมาประยุกต์
5.4.1. ท่อนาโนคาร์บอน (Carbon nanotube)
5.4.2. อนุภาคนาโนไททาเนียมไดออกไซด์ (Nano – TiO2)
5.4.3. เส้นใยนาโน (Nano Fiber)