ระบบTcas

Get Started. It's Free
or sign up with your email address
ระบบTcas by Mind Map: ระบบTcas

1. มีข้อดียังไงบ้าง ? เพิ่มโอกาสความเท่าเทียมในการเข้ามหาวิทยาลัย ลดปัญหาการกันสิทธิ์คนอื่น (กั๊กที่) ลดปัญหาความได้เปรียบเสียเปรียบระหว่างคนรวยกับคนจน แก้ปัญหาวิ่งรอกสอบ เพราะระบบใหม่จะจัดช่วงเวลาการสอบหลังจากที่เด็กชั้น ม.6 เรียนจบการศึกษาแล้ว

2. TCAS คือ เป็นระบบการคัดเลือกบุคคลเข้าศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัยระบบใหม่ โดย TCAS มีชื่อเต็มว่า Thai University Center Admission System ทั้งนี้ระบบการสอบแบบนี้เพื่อลดการสอบลง เหลือแค่การสอบกลางที่จัดสอบโดย สทศ. เพียง 3 อย่างเท่านั้น ได้แก่ GAT PAT , 9 วิชาสามัญ และ ONET และน้อง ๆ ที่สนใจจะสอบเข้าในอาชีพสายแพทย์ ก็จะมีการสอบความถนัดแพทย์ ที่จัดโดย กสพท. เข้ามาเพิ่ม ซึ่งจะเริ่มนำมาใช้ในปีการศึกษา 2561 เป็นระบบที่ออกแบบโดยที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.)

3. การคัดเลือกของ TCAS จะมีด้วยกันทั้งหมด 5 รอบ โดยจะใช้เกณฑ์ดังต่อไปนี้

3.1. รอบที่ 1 คัดเลือกโดยการส่งแฟ้มสะสมผลงาน (Portfolio) ไม่มีการสอบข้อเขียน และไม่ได้เป็นการรับทั่วไป แต่จะดูผลงานและความสามารถเป็นหลัก ซึ่งแต่ละมหาวิทยาลัยจะคัดเลือกนักเรียนจำนวนหนึ่ง อาจจะมีการสัมภาษณ์หรือทดสอบทักษะเฉพาะทาง

3.2. รอบที่ 2 สมัครโควตาแบบมีสอบข้อเขียน สำหรับนักเรียนในพื้นที่ ที่ทางมหาวิทยาลัยกำหนดและสามารถจัดสอบเองได้เลย หรือจะใช้ข้อสอบส่วนกลาง เช่น 9วิชาสามัญ หรือ GAT/PAT เพื่อคัดเลือกบุคคลเข้าศึกษา

3.3. รอบที่ 3 การรับตรงร่วมกัน เป็นการรับตรงของแต่ละมหาวิทยาลัย ซึ่งโครงการรับตรงอย่าง กสพท. ก็รวมอยู่ในรอบนี้ด้วย โดยที่ทปอ. จะเป็นส่วนกลางในการรับสมัคร และมหาวิทยาลัยจะพิจารณาผลการคัดเลือก โดยผู้สมัครสามารถเลือกได้ 4 สาขาวิชา โดยไม่มีการเลือกอันดับ

3.4. รอบที่ 4 การรับแบบ Admission เป็นการใช้เกณฑ์การคัดเลือกแบบ Admission ปีที่ผ่านๆมา โดยใช้ทั้งคะแนน GPAX, O-NET, GAT/PAT หรือคะแนนอื่นๆที่ทางมหาวิทยาลัยเป็นผู้กำหนด ซึ่งผู้สมัครสามารถเลือกได้ 4 สาขาวิชาโดยมีการเลือกลำดับ

3.5. รอบที่ 5 การรับตรงแบบอิสระ ทางมหาวิทยาลัยเป็นผู้กำหนดขึ้นเองหรือการสอบวิชาเฉพาะ และส่งผลการคัดเลือกให้ทาง ทปอ