1. สารที่พบในน้ำยาของบุหรี่ไฟฟ้า
1.1. .สารนิโคติน (Nicotine)
1.2. สารโพรไพลีนไกลคอล (Propylene Glycol)
1.3. กลีเซอรีน (Glycerine)
1.4. สารแต่งกลิ่น (Flavoring)
2. โฆษณาบุหรี่
2.1. กลยุทธ์ที่บริษัทบุหรี่เคยใช้เพื่อดึงดูดเด็กและเยาวชนให้เสพติด
2.1.1. การใช้ดาราที่มีอิทธิพลกับวัยรุ่น
2.1.2. การให้สปอนเซอร์จัดงานคอนเสิร์ตหรือแข่งกีฬา
2.1.3. การใช้กลิ่นสีรสชาติที่ดึงดูด (Matthew L Myers)
3. โทษของบุหรี่ไฟฟ้า
3.1. ทำให้ร่างกายเกิดการเสพติดในการใช้บุหรี่ และจะเข้าไปกระตุ้นระบบประสาทส่วนกลางโดยเฉพาะสมอง
4. ผลกระทบระยะยาว ทำให้เกิด
4.1. เยื่อหุ้มฟันอักเสบ (Periodontitis)
4.2. เยื่อจมูกอักเสบ (Rhinitis)
4.3. ต้อกระจก (Cataracts)
4.4. ซีด (Anemia)
4.5. จังหวะการเต้นของหัวใจผิดปกติ (Cardiac rhythm changes)
4.6. นอนไม่หลับ(Insomnia)
5. งานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับบุหรี่ไฟฟ้า
5.1. งานวิจัยล่าสุดพบสูบบุหรี่ไฟฟ้าเสี่ยงเกิดโรคเส้นเลือดสมองตีบสูงขึ้น 71%, โรคหัวใจวายเฉียบพลันสูงขึ้น 59%, กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดสูงขึ้น 40% นอกจากนี้ยังพบอัตราการสูบบุหรี่ธรรมดาในกลุ่มผู้สูบบุหรี่ไฟฟ้าสูงขึ้นเป็น 2 เท่า
6. สถานการณ์ในต่างประเทศ
6.1. การใช้บุหรี่ไฟฟ้าในกลุ่มนักเรียนมัธยมศึกษาตอนต้นและมัธยมศึกษาตอนปลายเพิ่มสูงขึ้นเป็นสองเท่าจากปี ค.ศ. 2011 ถึง ปี ค.ศ. 2012 จากร้อยละ 4.7 เป็นร้อยละ 10.0 ปัจจัยหนึ่งที่สัมพันธ์กับการเพิ่มขึ้นของนักสูบวัยรุ่น คือ การตลาดที่เย้ายวนให้วัยรุ่นกลุ่มนี้สนใจในผลิตภัณฑ์บุหรี่ไฟฟ้ามีการออกแบบที่ทันสมัย สวยงาม มีสีสันและกลิ่น ที่หลากหลาย เช่น กลิ่นมินต์ กลิ่นผลไม้ กลิ่นช็อกโกแลต วานิลลา โคล่า
7. ความหมายบุหรี่ไฟฟ้า
7.1. เป็นอุปกรณ์ที่ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่สามารถชาร์จใหม่ได้เป็นตัวจ่ายไฟสร้างความร้อนให้สำหรับผลิตสารประกอบต่าง ๆได้เช่นนิโคตินและสามารถกำหนดปริมาณสารนิโคตินได้ สูดดมโดยใช้วิธีไอระเหยละเอียดอ่อน ผ่านละอองฝอยเข้าสู่ร่างกาย โดยไม่ต้องมีการเผาไหม้
8. ประเภทของบุหรี่ไฟฟ้า
8.1. บุหรี่ไฟฟ้ารูปแบบที่ 1 Cigalike
8.2. บุหรี่ไฟฟ้ารูปแบบที่ 2 eGos
8.3. บุหรี่ไฟฟ้ารูปแบบที่ 3 Mods
9. ผลกระทบระยะสั้น ทำให้เกิดอาการ
9.1. หายใจไม่ออก (Choking)
9.2. ไอ (Coughing)
9.3. จาม (Sneezing)
9.4. คลื่นไส้ (Nausea)
9.5. อาเจียน (Vomiting)
9.6. ปวดศีรษะ (Headache)
9.7. มึนงง (Dizzi- ness)
9.8. สับสน (Confusion)
9.9. ความดันโลหิตต่ำ(Hypotension)
10. บุหรี่ไฟฟ้ากับกฎหมายประเทศไทย
10.1. ผู้ขาย
10.1.1. ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
10.2. ผู้ผลิตหรือสั่งนำเข้ามาในราชอาณาจักร
10.2.1. ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี หรือปรับไม่เกิน 1,000,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
10.3. ผู้ให้บริการ
10.3.1. ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
10.4. หากมีการฝ่าฝืนจนเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตราย
10.4.1. ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี หรือปรับไม่เกิน 1,000,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
11. สถานการณ์ในประเทศไทย
11.1. ข้อมูลจากสำนักงานสถิติแห่งชาติ พบว่า ในช่วง พ.ศ.2534-2558 แนวโน้มการสูบบุหรี่ลดลงตามลำดับ จากจำนวน 12.26 ล้านคน ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 32 ของประชากรไทยใน พ.ศ.2534 เหลือ 10.90 ล้านคน ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 19.90 ของประชากร
12. ตัวอย่างสถานการณ์ข่าว
12.1. อเมริกันตายแล้ว 7 เพราะบุหรี่ไฟฟ้า ย้ำรัฐบาลไทยมาถูกทางแล้วที่ห้ามขาย
12.1.1. “หยุดสูบ หยุดตาย จากบุหรี่ไฟฟ้า” เผย ศูนย์ควบคุมโรคของสหรัฐฯ พบการเจ็บป่วยด้วยโรคปอดที่มีโอกาสสัมพันธ์กับการสูบบุหรี่ไฟฟ้าถึง 450 ราย ในระยะเวลาเพียง 2 เดือน และเสียชีวิตแล้ว 7 ราย บางรายเป็นรุนแรงและรวดเร็วถึงขั้นการหายใจล้มเหลว ระบุต่างจากโรคถุงลมโป่งพองที่เกิดจากการสูบบุหรี่ธรรมดา ที่เนื้อปอดจะเสียหายช้าๆ กว่าจะถึงขั้นหายใจล้มเหลวต้องใช้เวลานานมาก จึงขอให้ทุกคนตระหนักถึงอันตรายของบุหรี่ไฟฟ้าและไม่ใช้บุหรี่ไฟฟ้า