1. 3.บริษัท
1.1. เป็นรูปแบบการประกอบธุรกิจที่มีการแบ่งทุน ออกเป็นหุ้นหุ้นละเท่ากัน แต่ละหุ้นมีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 5 บาท แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ
1.1.1. 1.บริษัทจำกัด
1.1.2. 2.บริษัทมหาชน
2. 4.กิจการร่วมค้า
2.1. การประกอบธุรกิจที่มีความร่วมมือระหว่างเอกชนกับเอกชน เมื่อดำเนินธุรกิจเรียบร้อยแล้วก็ยกเลิกกิจการร่วมค้าไป ลักษณะสำคัญมีดังนี้
2.1.1. 1.มีความร่วมมือระหว่างบริษัทกับบริษัท
2.1.2. 2.ผู้ร่วมลงทุนจะต้องร่วมรับผิดชอบในหนี้สิน
2.1.3. 3.กิจการร่วมค้ามักมีลักษณะความร่วมมือชั่วคราว
2.1.4. 4.การถอนตัวจะทำได้เมื่อผู้ร่วมกิจการยินยอม
2.1.5. 5.หากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเสียชีวิตสามารถดำเนินกิจการต่อได้
3. 5.กองทุนธุรกิจ
3.1. ธุรกิจที่เกิดจาการรวมตัวกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป โดยมีการกำหนดเงื่อนไขของการลงทุนและกำหนดระยะเวลา
3.1.1. 1.เป็นธุรกิจที่ประกอบด้วยบุคคล 2 ฝ่าย
3.1.2. 2.ผู้นำสินทรัพย์มาลงทุนจะรับผิดชอบจำกัดเฉพาะสินทรัพย์ที่นำมาลงทุน
3.1.3. 3.ผู้นำสินทรัพย์มาลงทุนไม่มีสิทธิ์ในการดำเนินการทางธุรกิจ
3.1.4. 4.ผู้ประกอบการอาจเป็นบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคล
3.1.5. 5.มีความมั่นคง ปลอดภัยในการลงทุน
4. 7.สหกรณ์
4.1. งานร่วมมือกันเพื่อหากำไร หรือเพื่อประโยชน์อื่น ๆ ในงานนั้นร่วมกัน, คณะบุคคลซึ่งร่วมกันดำเนินกิจการ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยเหลือซึ่งกันและกัน และได้จดทะเบียนเป็นสหกรณ์ตามกฎหมายว่าด้วยสหกรณ์
5. กิจการร่วมทุนระหว่างรัฐบาล และเอกชนโดยรัฐบาลถือหุ้นมากกว่า, องค์การของรัฐบาล หรือหน่วยงานธุรกิจซึ่งรัฐเป็นเจ้าของ หรือกิจการของรัฐ หรือบริษัท และห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ส่วนราชการ องค์การของรัฐบาล หรือหน่วยงานธุรกิจของรัฐมีทุนรวมอยู่ด้วยเกินกว่าร้อยละ 50
6. 1.ธุรกิจเจ้าของคนเดียว
6.1. กิจการที่มีบุคคลคนเดียวเป็นเจ้าของหรือลงทุนคนเดียว ควบคุมการดำเนินเองทั้งหมด
6.1.1. 1.ร้านโชวห่วย
6.1.2. 2.หาบเร่
6.1.3. 3.แผงลอย
6.1.4. 4.ร้านสินค้าสะดวกซื้อ
6.1.5. 5.ร้านสินค้าเฉพาะอย่าง
6.2. ข้อดี
6.2.1. - จัดตั้งง่าย - ใช้ทุนน้อย - เลิกล้มกิจการได้สะดวก เป็นต้น
6.3. ข้อเสีย
6.3.1. - ถูกจำกัดเรื่องเงินทุน - ขาดคู่คิด - ขยายธุรกิจยาก เป็นต้น
7. 2.ห้างหุ้นส่วน
7.1. เป็นรูปแบบการดำเนินธุรกิจที่บุคคลตั้งแต่ 2 คน ขึ้นไปตกลงกันร่วมลงทุนเป็นหุ้นส่วน จำแนกได้ 3 ประเภท
7.1.1. 1.ห้างหุ้นส่วนสามัญ
7.1.2. 2.ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล
7.1.3. 3.ห้างหุ้นส่วนจำกัด