ภาษาคอมพิวเตอร์

Get Started. It's Free
or sign up with your email address
ภาษาคอมพิวเตอร์ by Mind Map: ภาษาคอมพิวเตอร์

1. Assembly

1.1. ความหมาย

1.1.1. ภาษาที่ใช้ในการเขียนโปรแกรมภาษาหนึ่งซึ่งจะทำงานโดยขึ้นกับรุ่นของไมโครโพรเซสเซอร์ หรือ "หน่วยประมวลผล" (CPU) ของเครื่องคอมพิวเตอร์

1.2. นำไปใช้

1.2.1. ใช้ในการเขียนโปรแกรมภาษาหนึ่ง ซึ่งจะทำงานโดยขึ้นกับรุ่นของไมโครโพรเซสเซอร์ หรือหน่วยประมวลผล (CPU) ของเครื่องคอมพิวเตอร์ การใช้ภาษาแอสเซมบลีจำเป็นต้องผ่านการแปลภาษาด้วยคอมไพเลอร์เฉพาะเรียกว่า แอสเซมเบลอร์ (assembler) ให้อยู่ในรูปของรหัสคำสั่งก่อน (เช่น .OBJ) โดยปกติ ภาษานี้ค่อนข้างมีความยุ่งยากในการใช้งาน และการเขียนโปรแกรมเป็นจำนวนบรรทัดมากมากกว่า เมื่อเปรียบเทียบกับการใช้ภาษาระดับสูง เช่น ภาษา C หรือภาษา BASIC แต่จะทำให้ได้ผลลัพธ์การทำงานของโปรแกรมเร็วกว่า และขนาดของตัวโปรแกรมมีขนาดเนื้อที่น้อยกว่าโปรแกรมที่สร้างจากภาษาอื่นมาก จึงนิยมใช้ภาษานี้ เมื่อต้องการประหยัดเวลาทำงานของเครื่องคอมพิวเตอร์ และเพิ่มประสิทธิภาพของโปรแกรม

1.3. ตัวอย่าง

1.3.1. org 100h ; set video mode mov ax, 3 ; text mode 80x25, 16 colors, 8 pages (ah=0, al=3) int 10h ; do it! ; cancel blinking and enable all 16 colors: mov ax, 1003h mov bx, 0 int 10h ; set segment register: mov ax, 0b800h mov ds, ax ; print "hello world" ; first byte is ascii code, second byte is color code. mov [02h], 'H' mov [04h], 'e' mov [06h], 'l' mov [08h], 'l' mov [0ah], 'o' mov [0ch], ',' mov [0eh], 'W' mov [10h], 'o' mov [12h], 'r' mov [14h], 'l' mov [16h], 'd' mov [18h], '!' ; color all characters: mov cx, 12 ; number of characters. mov di, 03h ; start from byte after 'h' c: mov [di], 32004101001h ; light red (1100) on yellow (1110) add di, 2 ; skip over next ascii code in vga memory. loop c ; wait for any key press: mov ah, 0 int 16h ret

2. C++

2.1. ความหมาย

2.1.1. ภาษา C++ เป็นภาษาที่ถูกออกแบบมาในการเขียนโปรแกรมระบบ ซึ่งมีประสิทธิภาพและความยืดหยุ่นในการออกแบบโปรแกรมสูง C++ เป็นภาษาที่ต้องคอมไพล์ก่อนที่จะนำไปใช้งาน ซึ่งสามารถพัฒนาได้ในหลายๆ แพลตฟอร์ม ซึ่งได้รับการสนับสนุนโดยองค์กรต่างๆ ที่ประกอบไปด้วย Free Software Foundation (FSF's GCC) LLVM Microsoft Intel และ IBM

2.2. นำไปใช้

2.2.1. นำไปใช้ในการเขียนโปรแกรมแบบต่างๆ มากมาย เช่น โปรแกรมคอมพิวเตอร์ ระบบฝังตัว (Embedded) เว็บเซิร์ฟเวอร์ การพัฒนาเกม และแอพพลิเคชันที่ต้องการประสิทธิภาพอย่างสูง

2.3. ตัวอย่าง

2.3.1. #include <iostream> int main() { std::cout << "Hello World"<< endl; return 0; }

3. PHP

3.1. ความหมาย

3.1.1. พีเอชพี (PHP) คือ ภาษาคอมพิวเตอร์ในลักษณะเซิร์ฟเวอร์-ไซด์ สคริปต์ โดยลิขสิทธิ์อยู่ในลักษณะโอเพนซอร์ส ภาษาพีเอชพีใช้สำหรับจัดทำเว็บไซต์ และแสดงผลออกมาในรูปแบบ HTML โดยมีรากฐานโครงสร้างคำสั่งมาจากภาษา ภาษาซี ภาษาจาวา และ ภาษาเพิร์ล ซึ่ง ภาษาพีเอชพี นั้นง่ายต่อการเรียนรู้ ซึ่งเป้าหมายหลักของภาษานี้ คือให้นักพัฒนาเว็บไซต์สามารถเขียน เว็บเพจ ที่มีการตอบโต้ได้อย่างรวดเร็ว

3.2. นำไปใช้

3.2.1. ภาษาพีเอชพีใช้สำหรับจัดทำเว็บไซต์ และแสดงผลออกมาในรูปแบบ HTML โดยมีรากฐานโครงสร้างคำสั่งมาจากภาษา ภาษาซี ภาษาจาวา และ ภาษาเพิร์ล ซึ่ง ภาษาพีเอชพี นั้นง่ายต่อการเรียนรู้ ซึ่งเป้าหมายหลักของภาษานี้ คือให้นักพัฒนาเว็บไซต์สามารถเขียน เว็บเพจ ที่มีการตอบโต้ได้อย่างรวดเร็ว

3.3. ตัวอย่าง

3.3.1. <?php class MyClass { private $var = 'สวัสดีPHPMy SAL localhost!'; public function getHello() { return $this->var; } } $obj = new MyClass(); echo $obj->getHello(); ?>

4. R

4.1. ความหมาย

4.1.1. ภาษาของคอมพิวเตอร์ตัวหนึ่ง ที่ใช้สำหรับวิเคราะห์ข้อมูลทางด้านสถิติและตัวเลข ซึ่งนิยมใช้กันมากในหมู่นักสถิติในด้านการพัฒนาซอฟต์แวร์สถิติ ซึ่งเป็นภาษาที่ง่ายพอสมควรเมื่อเปรียบเทียบกับภาษาตัวอื่นๆ ภาษา R สามารถใช้รวบรวมเซ็ตข้อมูลที่แตกต่างกันเข้าด้วยกัน รวมถึงเซ็ตซอฟต์แวร์ต่างๆ ภาษา R มีความยืดหยุ่นสูง สามารถใช้วิเคราะห์ข้อมูลที่มีคุณภาพสูงและยังสามารถสร้างโมเดลการวิเคราะห์ขึ้นมาใหม่ได้ในแต่ละครั้งโดยใช้เวลาไม่มาก แต่มีข้อเสียคือข้อมูลจะถูกบันทึกไว้ในหน่วยความจำของคอมพิวเตอร์ ซึ่งทำให้กินพื้นที่ทรัพยากรหน่วยความจำและทำให้โปรแกรมต่างๆ ทำงานได้ช้าลงมาก หากเราไม่เพิ่มแรม คอมพิวเตอร์ก็จะทำงานช้าจนเครื่องอาจจะค้างไปเลยก็ได้ และตัวภาษา R ยังไม่มีระบบความปลอดภัยรองรับหากนำไปใช้งานบน Web browser (เว็บบราวเซอร์)

4.2. นำไปใช้

4.2.1. ประมวลผลข้อมูลในแนวเรื่อง สถิติ และ ข้อมูล เป็นภาษาที่คนทั่วโลกจัดให้เป็นภาษาที่สำคัญ ของการใช้งาน ทางด้าน Statistics tools ภาษา R เป็นอินเทอร์พรีตเตอร์ แบบเดียวกับ SciLab และ Python การโค้ดดิ้ง จึงมีลักษณะการสร้างสคริปต์ หาก เราคุ้นเคย ไพธอน หรือ SciLab มาแล้ว จะใช้ได้ไม่ยาก

4.3. ตัวอย่าง

4.3.1. # Create a matrix. M = matrix( c('a','a','b','c','b','a'), nrow = 2, ncol = 3, byrow = TRUE) print(M) เมื่อรันโค้ดข้างต้นผลลัพธ์เป็นดังนี้ [,1] [,2] [,3] [1,] "a" "a" "b" [2,] "c" "b" "a

5. Python

5.1. ความหมาย

5.1.1. ภาษาที่ใช้ในการเขียนโปรแกรมภาษาหนึ่ง ซึ่งถูกพัฒนาขึ้นมาโดยไม่ยึดติดกับแพลตฟอร์ม กล่าวคือสามารถรันภาษา Python ได้ทั้งบนระบบ Unix, Linux , Windows NT, Windows 2000, Windows XP หรือแม้แต่ระบบ FreeBSD ถูกออกแบบให้ code สามารถ อ่านได้ง่าย โดยการใช้ “ช่องไฟ” หรือ whitespace เป็นตัวแบ่งว่า code แต่ละบรรทัดอยู่ภายใต้ block ใด แทนที่จะใช้ปีกกา ( {,} ) แบบภาษาอื่น โครงสร้างภาษามีพื้นฐานการใช้จำนวนบรรทัดให้น้อย ถ้าเทียบกับ C++ และ Java ลักษณะ feature มีด้วยกันหลายแบบ

5.2. นำไปใช้

5.2.1. ใช้ในการแบ่งบล็อคของโปรแกรมการย่อหน้าแทนทำให้งานต่อการเขียนสนับสนุนการเขียน docstring ที่เป็นข้อความสั้นๆ

5.3. ตัวอย่าง

5.3.1. # My first Python program name = input('What is your name?\n') print ('Hi, %s.' % name) print ('Welcome to Python.')

6. Go

6.1. ความหมาย

6.1.1. Go คือภาษานั้นครับ ด้วยความที่ Go มีไวยากรณ์ไม่ซับซ้อน library ก็ครบครัน แถมใช้เวลาในการ build ได้สั้นเท่าจู๋มด (ใครเคย build โปรเจคใหญ่ๆของภาษา C จะเข้าใจ) Go จึงช่วยให้ชีวิตการพัฒนาโปรแกรมง่ายขึ้น นอกจากนี้ประสิทธิภาพของ Go ก็ดีเยี่ยม ทำงานได้เร็ว แต่ไม่รู้ว่าเร็วเท่า Shinkansen หรือรถไฟความเลวสูงแถวๆนี้ อันนี้ต้องดูอีกที

6.2. นำไปใช้

6.2.1. ภาษา Go นั้นเหมาะกับงานจำพวก System Programs ไม่ว่าจะสร้าง API Server ก็ได้ ทำ Network Applications ก็ดี หรือจะคูลๆชิคๆไปกับการสร้าง Game Engines ก็ไม่ว่ากัน

6.3. ตัวอย่าง

6.3.1. package main import "fmt" func main() { fmt.Println("1 + 1 =", 1 + 1) } Output: 1 + 1 = 2

7. C

7.1. ความหมาย

7.2. นำไปใช้

7.2.1. ภาษาคอมพิวเตอร์ใช้สำหรับพัฒนาโปรแกรมทั่วไป ถูกพัฒนาครั้งแรกเพื่อใช้เป็นภาษาสำหรับพัฒนาระบบปฏิบัติการยูนิกซ์ ( Unix Opearating System) แทนภาษาแอสเซมบลี ซึ่งเป็นภาษาระดับต่ำที่สามารถกระทำในระบบฮาร์ดแวร์ได้ด้วยความรวดเร็ว แต่จุดอ่อนของภาษาแอซเซมบลีก็คือความยุ่งยากในการโปรแกรม ความเป็นเฉพาะตัว และความแตกต่างกันไปในแต่ละเครื่อง

7.2.2. ภาษา C และ C++ มีประสิทธิภาพของภาษาอยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกับภาษา Assembly มากที่ สุด แต่มีความยืดหยุ่นในยึดติดกับฮาร์ดแวร์คอมพิวเตอร์หรือ Microprocessor รุ่นใดรุ่นหนึ่ง ทำให้สามารถ นำโปรแกรมที่สร้างขึ้นไปทำงานได้กับเครื่องคอมพิวเตอร์ได้ทุกรุ่น

7.3. ตัวอย่าง

7.3.1. #include <stdio.h> int main() { float side; printf("\nInput value of side : "); scanf("%f", &side); printf("Area of a square is %.2f \n\n", side * side); return 0; }

8. Java

8.1. ความหมาย

8.1.1. ภาษาโปรแกรมเชิงวัตถุ พัฒนาโดย เจมส์ กอสลิง และวิศวกรคนอื่นๆ ที่บริษัท ซัน ไมโครซิสเต็มส์ ภาษานี้มีจุดประสงค์เพื่อใช้แทนภาษาซีพลัสพลัส C++ โดยรูปแบบที่เพิ่มเติมขึ้นคล้ายกับภาษาอ็อบเจกต์ทีฟซี (Objective-C) แต่เดิมภาษานี้เรียกว่า ภาษาโอ๊ก (Oak) ซึ่งตั้งชื่อตามต้นโอ๊กใกล้ที่ทำงานของ เจมส์ กอสลิง แล้วภายหลังจึงเปลี่ยนไปใช้ชื่อ "จาวา" ซึ่งเป็นชื่อกาแฟแทน จุดเด่นของภาษา Java อยู่ที่ผู้เขียนโปรแกรมสามารถใช้หลักการของ Object-Oriented Programming มาพัฒนาโปรแกรมของตนด้วย Java ได้

8.2. นำไปใช้

8.2.1. เป็นภาษาสำหรับเขียนโปรแกรมที่สนับสนุนการเขียนโปรแกรมเชิงวัตถุ ( OOP : Object-Oriented Programming) โปรแกรมที่เขียนขึ้นถูกสร้างภายในคลาส ดังนั้นคลาสคือที่เก็บเมทอด (Method) หรือพฤติกรรม (Behavior) ซึ่งมีสถานะ (State) และรูปพรรณ (Identity) ประจำพฤติกรรม (Behavior)

8.3. ตัวอย่าง

8.3.1. // Hello World Program public class HelloWorld { public static void main (String[] args) { System.out.println("Hello World!"); } }

9. C#

9.1. ความหมาย

9.1.1. ภาษาคอมพิวเตอร์ประเภท object-oriented programming พัฒนาโดย Microsoft โดยมีจุดมุ่งหมายในการวมความสามารถการคำนวณของ C++ ด้วยการโปรแกรมง่ายกว่าของ Visual Basic โดย C# มีพื้นฐานจาก C++ และเก็บส่วนการทำงานคล้ายกับ Java

9.2. นำไปใช้

9.2.1. การพัฒนาเกม การเขียน C# สำหรับ GUI หรือ Windows Form Application C# Graphics หรือแม้กระทั่งการพัฒนาเว็บไซต์ด้วยภาษา C# ใน ASP.NET และการเชื่อมต่อกับฐานข้อมูล

9.3. ตัวอย่าง

9.3.1. using System; namespace ComSciDev.Com.CSharp.MultiplicationOne { class Program { static void Main(string[] args) { Console.Write("Input number : "); //รับค่าตัวเลขที่ป้อนเข้าไป int mul = int.Parse(Console.ReadLine()); Console.WriteLine(); //วน 12 รอบเพื่อแสดงผลลัพธ์ for (int i = 1; i <= 12; i++) { Console.WriteLine(" " + mul + " x " + i + " = " + mul * i); } Console.ReadLine(); } } }

10. Javascipt

10.1. ความหมาย

10.1.1. ภาษาคอมพิวเตอร์สำหรับการเขียนโปรแกรมบนระบบอินเทอร์เน็ต ที่กำลังได้รับความนิยมอย่างสูง Java JavaScript เป็น ภาษาสคริปต์เชิงวัตถุ (ที่เรียกกันว่า "สคริปต์" (script) ซึ่งในการสร้างและพัฒนาเว็บไซต์ (ใช่ร่วมกับ HTML) เพื่อให้เว็บไซต์ของเราดูมีการเคลื่อนไหว สามารถตอบสนองผู้ใช้งานได้มากขึ้น ซึ่งมีวิธีการทำงานในลักษณะ "แปลความและดำเนินงานไปทีละคำสั่ง" (interpret) หรือเรียกว่า อ็อบเจ็กโอเรียลเต็ด (Object Oriented Programming) ที่มีเป้าหมายในการ ออกแบบและพัฒนาโปรแกรมในระบบอินเทอร์เน็ต สำหรับผู้เขียนด้วยภาษา HTML สามารถทำงานข้ามแพลตฟอร์มได้ โดยทำงานร่วมกับ ภาษา HTML และภาษา Java ได้ทั้งทางฝั่งไคลเอนต์ (Client) และ ทางฝั่งเซิร์ฟเวอร์ (Server)

10.2. นำไปใช้

10.2.1. ทำให้สามารถใช้เขียนโปรแกรมแบบง่ายๆได้ โดยไม่ต้องพึ่งภาษาอื่น

10.2.2. มีคำสั่งที่ตอบสนองกับผู้ใช้งาน เช่นเมื่อผู้ใช้คลิกที่ปุ่ม หรือ Checkbox ก็สามารถสั่งให้เปิดหน้าใหม่ได้ ทำให้เว็บไซต์ของเรามีปฏิสัมพันธ์กับผู้ใช้งานมากขึ้น นี่คือข้อดีของ JavaScript เลยก็ว่าได้ที่ทำให้เว็บไซต์ดังๆทั้งหลายเช่น Google Map ต่างหันมาใช้

10.2.3. สามารถเขียนหรือเปลี่ยนแปลง HTML Element ได้ นั่นคือสามารถเปลี่ยนแปลงรูปแบบการแสดงผลของเว็บไซต์ได้ หรือหน้าแสดงเนื้อหาสามารถซ่อนหรือแสดงเนื้อหาได้แบบง่ายๆนั่นเอง

10.2.4. สามารถใช้ตรวจสอบข้อมูลได้ สังเกตว่าเมื่อเรากรอกข้อมูลบางเว็บไซต์ เช่น Email เมื่อเรากรอกข้อมูลผิดจะมีหน้าต่างฟ้องขึ้นมาว่าเรากรอกผิด หรือลืมกรอกอะไรบางอย่าง เป็นต้น

10.2.5. สามารถใช้ในการตรวจสอบผู้ใช้ได้ เก็บข้อมูลของผู้ใช้ในคอมพิวเตอร์ของผู้ใช้เอง

10.3. ตัวอย่าง

10.3.1. <a href="javascript:history.back(1)"> หน้าก่อนหน้า </a> | <a href="javascript:history.back(-1)"> หน้าถัดไป </a>