1. Bitcoin
1.1. กำเนิดบิตคอยน์
1.1.1. โดย Satoshi Nakamoto (ไม่ทราบตัวตนที่แท้จริง)
1.1.2. 31 ตุลาคม 2008 โพสต์บทความหลัก
1.1.3. 9 มกราคม 2009 ปล่อยซอร์สโค้ด Bitcoin 0.1 บน github
1.2. ตัวอย่างการใช้งาน
1.2.1. ใช้ร่วมกับ Digital Wallet
1.2.1.1. เข้าถึงผ่าน Private Key และ Public Key
1.3. Supply ของ Bitcoin
1.3.1. จะมีการปิดกล่อง ทุกประมาณ 10 นาที
1.3.1.1. ทุกการปิดกล่องจะมี bitcoin เพิ่มมาในระบบ (Reward)
1.3.1.1.1. Reward เริ่มจาก 50 BTC และลดลงครึ่งหนึ่งทุก 3 ปี
1.3.1.1.2. จำนวน BTC ทั้งหทด 21 ล้าน BTC (Reward หมดในประมาณปี 2140)
1.4. ความหมาย
1.4.1. Bitcoin คือ สกุลเงินดิจิทัล
1.4.2. เป็นการโอนเงินผ่านอินเทอร์เนทได้โดยไม่ผ่านคนกลาง (ธนาคาร)
1.4.3. bitcoin จะถูกเก็บไว้ในคอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์พกพาต่าง ๆ ของแต่ละบุคคล
1.4.4. ความน่าเชื่อถือของ bitcoin มาจากหลักการ และการเป็น Open source
1.4.4.1. ทุกคนสามารถตรวจสอบการทำธุรกรรมต่าง ๆ ของ bitcoin ได้
1.4.5. สามารถแลกเปลี่ยนสกุลเงินได้หลายสกุลเงิน
1.4.6. มูลค่าของบิตคอยน์ค่อนข้างแกว่ง และมีการผันผวนสูง
1.4.7. ไม่มีผ้การันตีมูลค่าของบิตคอยน์
1.4.8. bitcoin สามารถโอนได้ครั้งละปริมาณมากๆ ไม่มีการตรวจสอบ และ อายัด
1.5. การแลกซื้อ bitcoin
1.5.1. ผ่านตู้ ATM
1.5.2. ผ่านเว็บไซต์
1.6. ข้อเสีย
1.6.1. เกืดการซื้อขายสินค่าผิดกฏหมาย
1.6.2. เกิดการฟอกเงิน
1.7. มูลค่า 12.5 BTC = 3,820,235 บาท (23 กุมภาพันธ์ 2563)
2. เงิน
2.1. ความหมาย
2.1.1. วัตถุหรือเอกส่าร ที่เป็นที่ยอมรับโดยทั่วไปในการแลกเปลี่ยนสินค้าและบริการ และชำระหนี้ ได้ตามกฏหมาย
2.2. หน้าที่
2.2.1. เป็นสื่อกลางการแลกเปลี่ยน
2.2.2. เป็นหน่วยวัดมูลค่า
2.2.3. เป็นเครื่องเก็บรักษามูลค่า
2.3. วิวัฒนาการของการแลกเปลี่ยน
2.3.1. การแลกเปลี่ยนสินค้าโดยตรง
2.3.2. การแลกที่ใช้เงินเป็นสื่อกลาง (Money System)
2.3.3. การแลกเปลี่ยนที่ใช้สินเชื่อ หรือเครดิต (Credit System)
3. Blockchain
3.1. Blockchain เป็น Ledger of Transaction
3.2. การทำงาน
3.2.1. เก็บข้อมูล และตรวจสอบข้อมูลโดยผู้ใช้หลายคน
3.2.2. Block คือ unit ในการเก็บข้อมูล
3.2.2.1. 1 Block มีหลาย Transaction
3.2.2.2. 1 Block ประกอบด้วย
3.2.2.2.1. Header
3.2.2.2.2. Content
3.2.3. Chain คือ การนำ Block มาเรียงกันเรียกว่า Blockchain
3.2.4. การสร้าง Block ใหม่
3.2.4.1. ใช้ hash ในการตรวจสอบ โดยการนำ hash ก่อนหน้ามาคำนวณในการสร้าง hash ตัวต่อไป
3.2.4.1.1. hash คือ การเข้ารหัส
3.2.4.1.2. ไม่สามารถแปลงข้อมูลคืนจาก hash ได้
3.3. ความหมาย
3.3.1. เทคโนโลยีการเก็บข้อมูลธุรกรรม ที่ทุกคนสามารถเก็บข้อมูล และเข้ารหัสเพื่อป้องกันการแอบแก้ไขข้อมูลได้
3.4. ข้อดี
3.4.1. ป้องกันการแก้ไข และแอบเปลี่ยนแปลงข้อมูล
3.4.2. เพิ่มความโปร่งใสของการเก็บข้อมูล
3.4.3. ลดการตรวจสอบด้วยคน
3.4.3.1. ลดเวลา ลดค่าใช้จ่าย
3.5. Blockchain ในไทย
3.5.1. SCB เปิดตัวการโอนเงินผ่าน RIPPLE
3.5.2. กรุงศรีมีการโอนเงินผ่านประเทศแบบ Real Time เป็นธนาคารแรก ด้วย Blockchain ' s Interledger
3.5.3. KBTG จับมือ IBM นำ Blockchain รับรองเอกสารธุรกรรมการเงิน
3.6. การประยุกต์ใช้
3.6.1. บริษัทใหญ่ด้านการเงิน เซ็นสัญญา startup
3.6.2. การตรวจสอบวัตถุดิบในอาหาร
3.6.3. ตรวจสอบแหล่งขุดเจาะเพชร
3.6.4. อื่น ๆ
4. การดำเนินธุรกรรมผ่านคนกลาง
4.1. ข้อดี
4.1.1. ระบุตัวตนผู้ทำธุรกรรม
4.1.2. ตรวจสอบธุรกรรม
4.1.3. เป็นผู้ประกันความผิด
4.2. ข้อเสีย
4.2.1. เสียเวลา และค่าใช้จ่ายตามที่คนกลางกำหนด
4.2.2. เป็นเป้าต่อการ hack ข้อมูล
4.2.3. Admin แอบทำการแก้ไขข้อมูลได้
4.2.4. คนบางกลุ่มไม่ได้รับบริการ
4.2.5. ความน่าเชื่อถือขององค์กร