
1. ผู้เขียน
1.1. Jim Loeht
1.2. Tony Schwartz
2. Key Message
2.1. ในโลกยุคดิจิตอลที่ทุกอย่างเร่งรีบไปหมด วิธีทำงานให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุดไม่ได้ขึ้นอยู่กับ "การบริหารเวลา" ให้เก่ง แต่คุณต้อง "บริหารพลังงาน" ให้เป็น
2.2. เมื่อคุณบริหารจัดการพลังงานทั้ง 4 ด้านซึ่งประกอบด้วย "ร่างกาย" "อารมณ์" "จิตใจ" และ "จิตวิญญาณ" คุณจะมีสมดุลในชีวิตและรักษาประสิทธิภาพในการทำงานเอาไว้ได้
3. ทำไมต้องเป็น "บริหารพลังงาน" ไม่ใช่ "บริหารเวลา" ?
3.1. ทุกคนมีเวลาเท่ากัน 1 วันของทุกคนก็คือ 24 ชั่วโมง
3.1.1. เราใช้เวลาใน 1 วันนั้นไปกับกิจกรรมต่างๆ ทั้งเรื่องส่วนตัวและเรื่องงาน
3.1.2. ต่อให้เราจัดสรรเวลาดีขนาดนั้นมันก็มีแค่ 24 ชั่วโมงเท่าเดิม สิ่งที่แตกต่างออกไปกลับเป็น "พลังงาน"
3.1.2.1. วงจรการใช้ชีวิตของคนเราส่วนใหญ่เป็นแบบที่เรียกว่า the circadian rhythm
3.1.2.1.1. เราตื่นอยู่และใช้พลังงานราว 16-18 ชั่วโมง
3.1.2.1.2. เราหลับเพื่อฟื้นฟูพลังงานราว 7-9 ชั่วโมง
3.1.3. ต่อให้คุณแบ่งเวลาเก่งแค่ไหน แต่บริหารพลังงานไม่เป็น คุณก็ไม่สามารถทำอะไรอย่างเต็มที่ได้
3.1.3.1. Ex ช่วงบ่ายคุณต้องประชุม 2 ชั่วโมง แต่พ้นชั่วโมงแรก สมองกับร่างกายก็ไม่ไหวแล้ว
3.1.3.2. Ex คุณอยากกลับบ้านมาใช้เวลากับครอบครัว แต่คุณกลับรู้สึกล้ากับงานที่ทำมาทั้งวัน
3.1.4. ดังนั้นยิ่งคุณ "บริหารพลังงาน" ได้ดีเท่าไหร่ คุณก็ยิ่งมีพลังงานมากพอเพื่อทำกิจกรรมต่างๆ และเพิ่ม Productivity ให้ตัวเองด้วย
4. เราต้องบริหารพลังงานด้านไหนบ้าง?
4.1. หนังสือเล่มนี้บอกว่า "พลังงาน" มีส่วนประกอบทั้งหมด 4 ด้านดังนี้
4.1.1. Physical # ร่างกาย
4.1.1.1. พลังงานส่วนนี้เปรียบเหมือนน้ำมันที่คอยขับเคลื่อนร่างกายของเรา
4.1.1.2. ถ้าคุณไม่มีแรงกาย คุณก็ทำอะไรไม่ได้ทั้งนั้น
4.1.1.3. พลังงานส่วนนี้มาจาก
4.1.1.3.1. การนอนหลับพักผ่อนของคุณ
4.1.1.3.2. อาหารที่คุณกิน
4.1.1.3.3. การออกกำลังกาย
4.1.2. Emotional # อารมณ์
4.1.2.1. ด้านบวก Positive
4.1.2.1.1. เปรียบเหมือนเชื้อเพลิงคอยขับเคลื่อน
4.1.2.2. ด้านลบ Negative
4.1.2.2.1. เป็นอันตราย
4.1.3. Mental # จิตใจ
4.1.3.1. พลังงานส่วนนี้เกี่ยวกับปัญญาซึ่งมีผลต่อ
4.1.3.1.1. สติปัญญา
4.1.3.1.2. การคิดประมวลผลข้อมูลต่างๆ
4.1.3.1.3. ความคิดสร้างสรรค์
4.1.4. Spiritual # จิตวิญญาณ
4.1.4.1. พลังงานส่วนนี้เกี่ยวกับความเชื่อ ทัศนคติ และตัวตนของคุณ
4.1.4.2. เมื่อใดก็ตามที่คุณขับเคลื่อนไปด้วยพลังงานด้านนี้ คุณจะแสดงผลงานออกมาได้มากกว่าที่เคยคิด
4.1.4.3. พลังงานด้านนี้สามารถแยกย่อยได้ 2 ประเภทคือ
4.1.4.3.1. ความรู้สึกลึกๆ ในจิตใจ
4.1.4.3.2. จุดมุ่งหมายในชีวิต
4.2. เมื่อคุณบริหารพลังงานทั้ง 4 ด้านจนต่อกันติด คุณจะมีประสิทธิภาพในการทำสิ่งต่างๆ ตามมา
5. หลักการทั้ง 4 ข้อสู่การทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพ
5.1. คุณมีพลังงาน 4 ด้านต้องจัดการ
5.2. คุณต้องสลับไปมาระหว่าง "ใช้" และ "เติม" พลังงานด้านต่างๆ อย่างสม่ำเสมอ
5.2.1. คิดแบบ "นักวิ่งระยะสั้น" ไม่ใช่ "นักวิ่งมาราธอน"
5.2.1.1. แนวคิดนี้คือ การ "ใช้" พลังงานให้เต็มที่ แล้ว "พักฟื้น" พลังงานกลับคืนมาใหม่ สลับกันไปเรื่อยๆ
5.2.1.2. Ex # การเล่นเวท
5.2.1.2.1. คุณต้องยกเวทจนกล้ามเนื้อเริ่มตึง จากนั้นคุณค่อยพักฟื้นมันแล้วกลับมาเล่นเวทอีกครั้งในวันถัดไป
5.2.1.3. Ex # การทำงาน
5.2.1.3.1. จิมและโทนี่แนะนำให้ใช้เทคนิคที่เรียกว่า The ultradian rhythm
5.3. บ่มเพาะพลังงานด้านต่างๆ ให้แข็งแรง แล้วขยายขอบเขตของตัวเองให้กว้างขึ้น
5.3.1. Ex # คุณออกกำลังกายจนร่างกายแข็งแรงขึ้น คุณจึงทำงานที่ใช้แรงได้มากขึ้น
5.4. สร้างกิจวัตร
5.4.1. ต่อให้คุณจะอยู่ในสถานการณ์ปกติหรือกดดันแค่ไหน ถ้าคุณทำตามขั้นตอนที่ตั้งไว้ 1 2 3 คุณก็จะทำมันได้อย่างมีประสิทธิภาพ
5.4.2. เมื่อคุณจดจำกิจวัตรได้ คุณจะลงมือทำอะไรสักอย่างโดยอัตโนมัติ โดยไม่ต้องใช้พลังงานใดๆ เลย
5.4.2.1. Ex # นักดนตรีบางคนจะมีท่าวอร์มอัพประจำตัวก่อนขึ้นแสดงบนคอนเสิร์ตครั้งใหญ่
5.4.2.2. Ex # นักเขียนบางคนจะจัดสภาพแวดล้อมในพร้อมกับการทำงาน เช่น ชงกาแฟ เปิดเพลงวงโปรด ฯลฯ
5.4.3. ขั้นตอนการสร้างกิจวัตรมี 3 ขั้นตอนคือ
5.4.3.1. ระบุขั้นตอน 1 2 3 ให้ชัดเจน
5.4.3.1.1. Ex # กิจวัตรหลังตื่นนอนตอนเช้า
5.4.3.1.2. Ex # กิจวัตรเมื่อกลับถึงบ้านหลังไปทำงาน
5.4.3.1.3. คุณสมารถสร้างกิจวัตรได้หลากหลายช่วงเวลา เช่น กิจวัตรประจำวัน กิจวัตรประจำสัปดาห์ กิจวัตรประจำเดือน เป็นต้น
5.4.3.2. ทำซ้ำๆ ทุกวันในเวลาเดิมๆ
5.4.3.3. สร้างทีละกิจวัตร อย่าสร้างหลายกิจวัตรพร้อมกัน