การเขียนวัตถุประสงค์

1. วัตถุประสงค์ต้องสอดคล้องกับปัญหาวิจัย หรือคำถามวิจัยที่กล่าวไว้ก่อนแล้ว

1.1. 1. ปัญหาวิจัย : ญาติผู้ป่วยที่มีอาการหนักมีพฤติกรรมที่แสดงความเครียดอย่างไร

1.1.1. วัตถุประสงค์ของการวิจัย : เพื่อศึกษาพฤติกรรมการแสดงความเครียดของญาติผู้ป่วยที่มีอาการหนัก

1.2. 2. ปัญหาวิจัย : มีปัจจัยใดบ้างส่งผลต่อบทบาทที่ปฏิบัติจริงของผู้บริหารโรงเรียนมัธยมศึกษา สังกัดกรมสามัญศึกษาที่ผ่านเกณฑ์มาตรฐาน

1.2.1. วัตถุประสงค์ของการวิจัย : เพื่อวิเคราะห์ปัจจัยที่ส่งผลต่อบทบาทที่ปฏิบัติจริงของผู้บริหารโรงเรียนมัธยมศึกษา สังกัดกรมสามัญศึกษาที่ผ่านเกณฑ์ มาตรฐาน

2. การเขียนวัตถุประสงค์การวิจัย

2.1. 1. ปัญหาวิจัย : ญาติผู้ป่วยที่มีอาการหนักมีพฤติกรรมที่แสดงความเครียดอย่างไร

2.1.1. วัตถุประสงค์ของการวิจัย : เพื่อศึกษาพฤติกรรมการแสดงความเครียดของญาติผู้ป่วยที่มีอาการหนัก

2.1.2. จะไม่เขียนวัตถุประสงค์ในลักษณะดังนี้ – เพื่อลดความเครียดของญาติผู้ป่วยและผู้ป่วย – เพื่อให้ญาติผู้ป่วยมีความรู้สึกที่ดีต่อโรงพยาบาล – เพื่อทราบพฤติกรรมที่แสดงความเครียดของญาติผู้ป่วย

2.2. 2. ปัญหาวิจัย : มีปัจจัยใดบ้างส่งผลต่อบทบาทที่ปฏิบัติจริงของผู้บริหารโรงเรียนมัธยมศึกษา สังกัดกรมสามัญศึกษาที่ผ่านเกณฑ์มาตรฐาน

2.2.1. วัตถุประสงค์ของการวิจัย : เพื่อวิเคราะห์ปัจจัยที่ส่งผลต่อบทบาทที่ปฏิบัติจริงของผู้บริหารโรงเรียนมัธยมศึกษา สังกัดกรมสามัญศึกษาที่ผ่านเกณฑ์ มาตรฐาน

2.2.2. จะไม่เขียนวัตถุประสงค์ในลักษณะดังนี้ – เพื่อจัดปัจจัยสนับสนุนต่อบทบาทที่ปฏิบัติจริง ของผู้บริหารโรงเรียนมัธยมศึกษา – เพื่อทราบปัจจัยที่ส่งผลต่อบทบาทที่ปฏิบัติจริงของผู้บริหารโรงเรียนมัธยมศึกษา

2.3. สรุป..

2.3.1. การเขียนวัตถุประสงค์ที่ไม่ถูกต้องอื่นๆ มักเอาผลที่คาดว่าจะได้รับ หรือสภาพี่ปัยหาถูกแก้ไขหมดไปแล้วมาเป็นวัตถุประสงค์ ดังนั้นการเขียนวัตถุประสงค์ของการวิจัยจะต้องไม่เขียนสิ่งที่ต้องการให้เกิดขึ้น หรือประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับจากการวิจัย

2.4. โดยปกติจะกำหนดในลักษณะของสิ่งที่จะกระทำเพื่อให้ได้มาในสิ่งที่อยากรู้ หรือต้องการคำตอบมากกว่าจะได้ผลลัพธ์ของสิ่งที่อยากรู้มาตั้งเป็นวัตถุประสงค์

3. การเขียนวัตถุประสงค์การวิจัยต้องสอดคล้องกับรูปแบบการวิจัย ที่ปรากฏในชื่อเรื่อง

3.1. ชื่อเรื่อง

3.1.1. การเปรียบเทียบวิธีการแก้ปัญหาความขัดแย้งระหว่าง ผู้บริหารที่มีความฉลาดทางอารมณ์สูงกับผู้บริหารที่มีความฉลาดทางอารมณ์ต่ำในโรงเรียน สังกัดกรมสามัญศึกษา

3.2. วัตถุประสงค์ที่ถูกต้อง

3.2.1. เพื่อเปรียบเทียบวิธีการแก้ปัญหาความขัดแย้งระหว่าง ผู้บริหารที่มีความฉลาดทางอารมณ์สูงกับผู้บริหารที่มีความฉลาดทางอารมณ์ต่ำในโรงเรียน สังกัดกรมสามัญศึกษา

3.3. วัตถุประสงค์ที่ไม่สอดคล้อง

3.3.1. เพื่อศึกษาวิธีการแก้ปัญหาความขัดแย้งระหว่าง ผู้บริหารที่มีความฉลาดทางอารมณ์สูงกับผู้บริหารที่มีความฉลาดทางอารมณ์ต่ำในโรงเรียน สังกัดกรมสามัญศึกษา

3.3.2. เพื่อหาความสัมพันธ์ระหว่างวิธีการแก้ปัญหาความขัดแย้งระหว่างผู้บริหารที่มีความฉลาดทางอารมณ์สูงกับผู้บริหารที่มีความฉลาดทางอารมณ์ต่ำในโรงเรียน สังกัดกรมสามัญศึกษา

4. การเขียนวัตถุประสงค์การวิจัยต้องระบุให้ชัดเจน

4.1. การเขียนในลักษณะของวัตถุประสงค์ทั่วไป

4.1.1. – เพื่อศึกษาสภาพการจัดทำหลักสูตรสถานศึกษาของโรงเรียนมัธยมศึกษา สังกัดกรมสามัญศึกษา เขตการศึกษา 10

4.1.2. – เพื่อพัฒนารูปแบบการเรียนการสอน กระบวนการแก้ปัญหาทางคณอตศาสตร์ โดยใช้การสอนตนเองกับการเรียนการสอนแบบรายบุคคลและแบบกลุ่มสำหรับนักศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง

4.2. การเขียนในลักษณะของวัตถุประสงค์เฉพาะ

4.2.1. – เพื่อศึกษาพฤติกรรมการแสดงความเครียดของญาติผู้ป่วยที่มีอาการหนัก

4.2.2. – เพื่อศึกษาระดับความเครียดของญาติผู้ป่วยที่มีอาการหนัก

4.2.3. – เพื่อสร้างแบบจำลองการพัฒนาภาวะผู้นำ สำหรับผู้บริหารโรงเรียนประถมศึกษา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการประถมศึกษาแห่งชาติ

4.2.4. – เพื่อนำเสนอแบบจำลองการพัฒนาภาวะผู้นำ สำหรับผู้บริหารโรงเรียนประถมศึกษา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการประถมศึกษาแห่งชาติ

4.2.5. "การประเมินโครงการจัดการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม"

4.2.5.1. – เพื่อประเมินผลสัมฤทธิ์ของโครงการเกี่ยวกับประโยชน์ของการจัดดำเนินโครงการตามวัตถุประสงค์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการพัฒนาคุณภาพการศึกษา และขยายโอกาสทางการศึกษาทั้งในและนอกโรงเรียน

4.2.5.2. – เพื่อประเมินปัจจัยหรือองค์ประกอบที่เกี่ยวข้องกับความสำเร็จ และปัญหาอุปสรรคของการจัดดำเนินโครงการ สำหรับจุดติดตั้งทั้งในและนอกโรงเรียน

4.3. การเขียนในลักษณะวัตถุประสงค์ทั่วไปและวัตถุประสงค์เฉพาะ

4.3.1. เพื่อสืบค้นหาคุณลักษณะของศึกษาธิการจังหวัดที่เหมาะสมและสอดคล้องกับสภาพการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นในอนาคต และเป็นคุณลักษณะที่เอื้อต่อการบริหารงานและการพัฒนาการศึกษา การศาสนาและการวัฒนธรรมของจังหวัดในช่วง 10 ข้างหน้า ซึ่งถือว่าเป็นคุณลักษณะที่พึงประสงค์ของศึกษาธิการจังหวัดในทศวรรษหน้า โดยมีจุดมุ่งหมายเฉพาะดังนี้ 1. เพื่อกำหนดคุณลักษณะที่พึงประสงค์ของศึกษาธิการจังหวัดในทศวรรษหน้า 2. เพื่อศึกษาบทบาทหน้าที่ที่ควรจะเป็นของศึกษาธิการจังหวัดในทศวรรษหน้า

4.3.2. เพื่อติดตามประเมินผลความร่วมมือที่รัฐบาลไทยได้ให้การสนับสนุนแก่สถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเซียตามแผนการอุดหนุน 5 ระยะที่ 5 (พ.ศ. 2533-2537) เกี่ยวกับผลการดำเนินงานดังนี้ 1. การใช้จ่ายงบประมาณเป็นไปตามเจตนารมณ์ที่กำหนดไว้หรือไม่เพียงใด มีประสิทธิผลและคุ้มค่าแก่การดำเนินงานอย่างไร 2. ผลการผลิตบัณฑิตทุนเล่าเรียนหลวงได้สนองความต้องการของประเทศไทยมากน้อยเพียงใด 3. ผลกระทบที่มีต่อประเทศไทยในการที่รัฐบาลได้ให้การสนับสนุนสถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเซีย

4.3.3. เพื่อศึกษาผลการใช้ชุดกิจกรรมฝึกทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 1. เพื่อศึกษาประสิทธิภาพของชุดกิจกรรมฝึกทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ โดยเทียบเกณฑ์ 80/80 2. เพื่อเปรียบเทียบทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ของนักเรียนระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียนด้วยชุดกิจกรรมฝึกทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร