1. ด้านร่างกายภายนอก
1.1. ด้านกายภาพ
1.1.1. ผิวหนังจะบาง เหี่ยวย่น แห้ง คัน หยาบ หย่อนยาน เกิดรอยย่นชัดเจน มีจุดด่าง ตกกระ การควบคุมอุณหภูมิในร่างกายลดลง จึงรู้สึกหนาวง่าย
1.2. ระบบผิวหนัง
1.2.1. ผมร่วง ผมเปลี่ยนสีเป็นสีขาว แห้ง เปราะ การเปลี่ยนสีผมเป็นข้อบ่งชี้ของความเสื่อมของร่างกาย
2. ด้านร่างกายภายใน
2.1. ระบบกระดูกไขข้อและกล้ามเนื้อ
2.1.1. กระดูกเปราะบางง่าย เนื่องจากการดูดซึมของแคลเซียมลดลง ทำให้กระดูกสันหลังโค้งงอ การขาดวิตามินดี ทำให้กระดูกหักง่าย ข้อต่างๆเสียความยืดหยุ่น เคลื่อนไหวลำบาก อักเสบ ปวดตามข้อ ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อลดลง
2.2. ระบบทางเดินหายใจ
2.2.1. ปอดเสื่อม การยุบและขยายตัวไม่ดี เหนื่อยง่าย หายใจไม่สะดวก
2.3. ระบบทางเดินอาหาร
2.3.1. เหงือกร่นจากฟันทำให้ฟันโยก ฟันหักง่าย การรับประทานอาหารไม่สะดวก อาหารย่อยยาก ท้องอืด ภาวะการขาดสารอาหารเกิดขึ้นง่าย ท้องผูกง่าย กระเพาะอาหารอักเสบง่าย
2.4. ระบบหัวใจและหลอดเลือด
2.4.1. กล้ามเนื้อหัวใจอ่อนกำลังลง หลอดเลือดแข็งตัว หนา ขาดความยืดหยุ่น เนื่องจากมีไขมันเกาะ ความดันโลหิตสูงขึ้น พบภาวะของโรคหัวใจขาดเลือด
2.5. ระบบประสาท ประสาทสัมผัสลากรทรงตัว
2.5.1. ประสาทสัมผัสการทรงตัว อวัยวะรับความรู้สึกเสื่อมลง เช่น ตา หู จมูก ลิ้น และผิวหนังเสื่อมลง การมองเห็นไม่ดี สายตายาวขึ้น ตาขุ่นมัว เป็นต้อกระจก หูตึง ฟังไม่ชัดเจน การดมกลิ่นไม่ดี การรับรสของลิ้นเสียไป ความว่องไวของการสั่งงานช้าลง การพูดจาช้าลง ความสมดุลของการทรงตัวเสื่อม ทำให้เกิดอุบัติเหตุ หกล้มง่าย
2.6. สมองและสติปัญญา
2.6.1. สมองเสื่อม เหี่ยว เล็กลง ความจำเสื่อม หลงลืมง่าย ความสัมพันธ์ระหว่างสมองกับกล้ามเนื้อและข้อเสียไป อาจเดินไม่สะดวก
2.7. 1 ต่อมเพศ มีการเปลี่ยนแปลงฮอร์โมนในเพศหญิงตั้งแต่อายุ 45 ปีขึ้นไป ดังนั้นทำให้รังไข่มดลูก ช่องคลอดและเต้านมเหี่ยวแฟบ ลีบเล็กลง ไม่มีสารหล่อลื่นในช่องคลอด ความต้องการทางเพศลดลงและประจำเดือน ในเพศชาย อันฑะเหี่ยว เล็กลง ต่อมลูกหมากโตขึ้น การแข็งตัวของอวัยวะเพศชายไม่ดี ความต้องการทางเพศลดลง
2.8. ระบบต่อมไร้ท่อและฮอร์โมน
2.8.1. ตับอ่อนหลั่งฮอร์โมนอินซูลินน้อยลง เสี่ยงต่อการเกิดโรคเบาหวานได้ ต่อมใต้สมองเสื่อม ทำให้รู้สึกอ่อนเพลีย เมื่ออาการต่อมไทรอยด์จะมีขนาดเล็กลง ทำให้เบื่ออาหาร ตาฝ้าฟาง ขุ่นมัว