1. ความหมายของการคิดเชิงสร้างสรรค์
1.1. เกรียงศักดิ์ เจริญวงศ์ศักดิ์ (2556) ได้กำหนดความหมายของความคิดเชิงสร้างสรรค์ไว้ว่าหมายถึง การขยายขอบเขตความคิดออกไปจากกรอบความคิดเดิมที่มีอยู่ สู่ความคิดใหม่ ๆ ที่ไม่เคยมีมาก่อน เพื่อค้นหาคำตอบที่ดีที่สุดให้กับปัญหาที่เกิดขึ้น
1.2. เพ็ญนิดา ไชยสายัณห์ (2559) อธิบายว่า ความคิดเชิงสร้างสรรค์หมายถึง ความสามารถในการมองเห็นความสัมพันธ์ของสิ่งต่าง ๆ และการขยายขอบเขตความคิดออกไปจากกรอบความคิดเดิมที่มีอยู่สู่ความคิดใหม่ ๆ ที่ไม่เคยมีมาก่อน เพื่อค้นหาคำตอบที่ดีที่สุดให้กับปัญหาที่เกิดขึ้น
1.3. กิตติ์กาญจน์ ปฏิพันธ์ และคณะ (2556) ประมวลและสรุปความหมายของความคิดเชิงสร้างสรรค์จากความคิดเห็นของนักวิชาการทั้งในและต่างประเทศไว้ว่า เป็นความคิดที่แปลกใหม่ นอกกรอบออกไปจากความคิดเดิม ๆ ในบางครั้งเป็นความคิดที่บูรณาการจากสิ่งเดิม ๆ ที่มีอยู่แล้วไปสู่สิ่งที่แปลกใหม่ หรือเป็นความคิดใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อน
2. หลักการและความสำคัญ
2.1. การคิดเชิงสร้างสรรค์ กับ การสร้างสรรค์
2.1.1. การคิดเชิงสร้างสรรค์เป็นนามธรรม เป็นการคิดเพื่อทำให้เกิดสิ่งใหม่ ๆ ที่แตกต่างไปจากเดิมและใช้ประโยชน์ได้อย่างเหมาะสม ส่วนการสร้างสรรค์เป็นรูปธรรม เป็นการกระทำ เป็นผลผลิตจากการกระทำ
2.2. ความสำคัญของการคิดเชิงสร้างสรรค์
2.2.1. การพัฒนาศักยภาพด้านการคิดเชิงสร้างสรรค์ร่วมกับการคิดในมิติอื่น ๆ จะช่วยพัฒนาสติปัญญาของเราให้เป็นคนที่ฉลาด
2.2.2. การคิดเชิงสร้างสรรค์เป็นความจำเป็นของนักบริหารที่มีภาวะผู้นำแห่งความสำเร็จ เราจะเห็นคนเก่ง คนดีหลายระดับที่ประสบความล้มเหลวเพราะขาดการคิดเชิงสร้างสรรค์และมองโลกในแง่ร้าย ทำให้เกิดความขลาดกลัวอย่างไม่มีเหตุผล ทำให้เพื่อนร่วมงานและผู้ใต้บังคับบัญชาเสียขวัญ เสียแรงจูงใจไปด้วย
2.2.3. การพัฒนาตนเองให้มีคิดเชิงสร้างสรรค์ทำให้เรามีความสามารถและความอดทนสูงขึ้น ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลง เกิดแนวทางใหม่ ๆ ในการดำเนินชีวิตที่ดี เมื่อได้ผลลัพธ์เช่นนี้ก็จะทำให้เรามีความเชื่อมั่นในตนเอง ความนับถือตนเอง และมีความพึงพอใจในตนเองมากขึ้น
3. แนวคิดเกี่ยวกับการคิดเชิงสร้างสรรค์
3.1. คุณสมบัติด้านการคิดที่เด่นชัดของบุคคลที่มีความคิดเชิงสร้างสรรค์
3.1.1. 1.มีความคิดริเริ่ม (Originality)
3.1.2. 2.มีความคิดยืดหยุ่น (Flexibility)
3.1.3. 3.มีความคิดคล่อง (Fluency)
3.1.4. 4.มีความคิดละเอียดลออ (Elaboration)
3.1.5. 5.มีความคิดเชิงบวก (Positive Thinking)
3.2. ปัจจัยสำคัญที่ส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาความคิดเชิงสร้างสรรค์
3.2.1. 1.ความฉลาดทางด้านภาษา (Linguistic Intelligence)
3.2.2. 2.ความฉลาดทางด้านตรรกะและคณิตศาสตร์ (Logical-Mathematical Intelligence)
3.2.3. 3.ความฉลาดทางด้านดนตรี (Musical Intelligence)
3.2.4. 4.ความฉลาดด้านร่างกาย (Body-Kinesthetic Intelligence)
3.2.5. 5.ความฉลาดทางด้านมิติสัมพันธ์ (Spatial Intelligence)
3.2.6. 6.ความฉลาดด้านมนุษย์สัมพันธ์ (Interpersonal Intelligence)
3.2.7. 7.ความฉลาดด้านการเข้าใจตนเอง (Intrapersonal intelligence)
3.2.8. 8.ความฉลาดทางด้านการรู้จักธรรมชาติ (Naturalistic Intelligence)
4. กระบวนการคิดเชิงสร้างสรรค์
4.1. การกำหนดเป้าหมายการคิด การคิดเชิงสร้างสรรค์เป็นการคิดที่มีเป้าหมายการคิดที่ชัดเจน ต้องเริ่มต้นด้วยการกำหนดวัตถุประสงค์ของปัญหาที่ต้องการแก้ไขด้วยการคิดเชิงสร้างสรรค์ โดยการตั้งคำถามที่ชัดเจน เพื่อให้ได้รับคำตอบที่ตรงประเด็น
4.2. การแสวงหาแนวคิดใหม่ โดยพยายามคิดถึงวิธีการที่จะทำให้บรรลุวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้ในขั้นตอนแรก โดยไม่ต้องจำกัดวงว่าจะสามารถทำได้ในทางปฏิบัติจริงมากน้อยเพียงใด สร้างจินตนาการ คิดนอกกรอบที่เป็นอยู่ ไม่ได้ทำตามกฎเกณฑ์ปกติ เพื่อกระตุ้นให้สามารถผลิตความคิดใหม่ ๆ ทางเลือกใหม่ ๆ
4.3. การประเมินและคัดเลือกแนวคิด ประกอบด้วย 2 ขั้นตอนย่อย
4.3.1. 1.การกลั่นกรองความคิดในวิธีการที่จะทำให้บรรลุวัตถุประสงค์ที่ได้บันทึกไว้
4.3.2. 2.เลือกความคิดที่ใช้การได้เหมาะสมมากที่สุด หรือผสมผสานแนวคิดเหล่านั้นให้เหมาะสม หรือสังเคราะห์เพื่อดึงส่วนที่ใช้การได้ของแต่ละแนวคิด