บทที่3 ระบบโครงกระดูก (Skeleton System)

Get Started. It's Free
or sign up with your email address
บทที่3 ระบบโครงกระดูก (Skeleton System) by Mind Map: บทที่3 ระบบโครงกระดูก (Skeleton System)

1. ระบบโครงกระดูก ประกอบด้วยส่วนต่างๆ แบ่งเป็น 3 ประเภท ได้แก่

1.1. 1.กรดูกแข็ง (Compact bone)

1.1.1. ประกอบด้วยธาตุ 2 ชนิด

1.1.1.1. 1.อนินทรียสาร ประมาณ 67% สารเหล่านี้ทำให้กระดูกมีลักษณะแข็ง ทึบ ติดเป็นเนื้อเดียวกัน

1.1.1.2. 2.อินทรีสาร ประมาณ33% ได้แก่ เซลล์กระดูก เส้นเลือด เลือด และGelatinous substance ทำให้กระดูกเหนียว ยืดหยุ่น ป้องกันไม่ให้กระดูกหัก

1.2. 2.กระดูกอ่อน (Cartilages)

1.3. 3.ข้อต่อและเอ็น (Joints & Ligaments)

2. โครงสร้างของกระดูก (Structure of bones)

2.1. 1.ไขกระดูก (Bone marrow) บรรจุอยู่ในโพรงกระดูก (Bone cavity)

2.2. 2.กระดูกพรุน (Spongy bone) ลักษณะเป็นรูพรุนคล้ายฟองน้ำเป็นตาราง อยู่ภายในกระดูกทึบบริเวณหัวท้ายของกระดูก

2.3. 3.กระดูกทึบ (Compact bone) เนื้อของกระดูกเรียงกันเป็นแผ่นทึบแข็ง มองด้วยกล้องจุลทรรศน์จะเห็นที่ว่างๆในเนื้อกระดูกได้

2.4. 4.เยื่อหุ้มภายในของกระดูก (Endosteum) เป็นผนังบางๆ มีลักษณะละเอียด

2.5. 5.เยื่อหุ้มภายนอกกระดูก (Periodteum) เป็นผนังหุ้มชั้นนอกของกระดูกชั้น Periosteum มีหลอดเลือด หลอดน้ำเหลือง และเส้นประสาท

3. ชื่อส่วนต่างๆของกระดูก

3.1. Condyle = ปุ่มกลม เช่น ปุ่นตอนปลายของกระดูกต้นขา

3.2. Crest = สันของกระดูก เช่น กระดูกสะโพก

3.3. Head = ส่วนหัว อยู่เหนือคอ

3.4. Process = ส่วนที่ยื่นออกมาของกระดูกปลาย (อยู่ด้านหลัง)

3.5. Spine = ปุ่มเเหลมของกระดูกสันหลัง

3.6. Trochanter = เป็น process ที่ใหญ่ กระดูกต้นขา

3.7. Tubercle = กระดูกต้นแขน

3.8. Tuberosity = ปุ่มกลางใหญ่

3.9. Fissure = รอยขีดลึกลงไปในกระดูก

3.10. Foramen = เป็นกระดูกสำหรับให้เส้นเลือดผ่าน

3.11. Fossa = เป็นแอ่งตื้น เช่น Iliac fossa

3.12. Sinus = กระดูกหน้าผาก Frontal sinus

4. การจำแนกกระดูก

4.1. แบ่งเป็น 4 ชนิด คือ

4.1.1. 1.กระดูกยาว (Long bones)

4.1.2. 2.กระดูกสั้น (Short bones)

4.1.3. 3.กระดูกแบน (Flat bones)

4.1.4. 4.กระดูกรูปแปลก (Irregular bones)

4.2. มนุษย์คนเรามีกระดูกประมาณ 270 ชิ้น!!

5. กระดูกที่เป็นโครงสร้างของร่างกาย

5.1. มีจำนวน 80 ชิ้น ได้แก่

5.1.1. กระดูกกะโหลกศรีษะ (Cranium) มี 8 ชิ้น คือ

5.1.1.1. กระดูกหน้าผาก 1 ชิ้น

5.1.1.2. กระดูกข้างศรีษะ 2 ชิ้น

5.1.1.3. กระดูกท้ายทอย 1 ชิ้น

5.1.1.4. กระดูกขมับ 2 ชิ้น

5.1.1.5. กระดูกรูปผีเสื้อ 1 ชิ้น

5.1.1.6. กระดูกขื่อจมูกหรือใจ้สันจมูก 1 ชิ้น

5.1.2. กระดูกที่ประกอบกันเป็นหน้า (Face) มี 14 ชิ้น คือ

5.1.2.1. กระดูกสันจมูก 2 ชิ้น

5.1.2.2. กระดูกตรงกลางจมูกภายใน 1 ชิ้น

5.1.2.3. กระดูกข้างในจมูก 2 ชิ้น

5.1.2.4. กระดูกข้างถุงน้ำตา 2 ชิ้น

5.1.2.4.1. กระดูกโหนกแก้ม 2 ชิ้น

5.1.2.5. กระดูกเพดาน 2 ชิ้น

5.1.2.6. กระดูกขากรรไกรบน 2 ชิ้น

5.1.2.7. กระดูกขากรรไกรล่าง 1 ชิ้น

5.1.3. กระดูกที่อยู่ภายในของหูส่วนกลาง มี 6 ชิ้น คือ

5.1.3.1. กระดูกรูปค้อน 2 ชิ้น

5.1.3.2. กระดูกรูปทั่ง 2 ชิ้น

5.1.3.3. กระดูกรูปโกลนม้า 2 ชิ้น

5.1.3.4. กระดูกโคนลิ้น 1 ชิ้น

5.1.4. กระดูกของลำตัว

5.1.4.1. กระดูกสันหลังส่วนคอ 7 ชิ้น

5.1.4.2. กระดูกสันหลังส่วนอก 12 ชิ้น

5.1.4.3. กระดูกสันหลังส่วนเอว 5 ชิ้น

5.1.4.4. กระเบนเหน็บ 1 ชิ้น

5.1.4.5. ก้นกบตอนปลาย 1 ชิ้น

5.1.4.6. กระดูกหน้าอก 1 ชิ้น แบ่งออก 3 ส่วน

5.1.4.6.1. Manubrium

5.1.4.6.2. Body

5.1.4.6.3. Xiphoid

5.1.4.7. กระดูกซี่โครง 24 ชิ้น หรือ 12 คู่

5.1.4.7.1. กระดูกซี่โครงแท้ มี 7 คู่ ติดกับกระดูกหน้าอก

5.1.4.7.2. กระดูกซี่โครงไม่แท้ มี 5 คู่ ไม่ติดกับกระดูกหน้าอก

5.1.5. กระดูกที่ประกอบเป็นแขนและขา

5.1.5.1. มี 126 ชิ้น

5.1.5.1.1. กระดูกแขน มี 64 ชิ้น ข้างละ 32 ชิ้น ประกอบด้วย

5.1.5.1.2. กระดูกขา รวมกัน 62 ชิ้น ข้างละ 31 ชิ้น ปรกอบด้วย

5.1.6. กระดูกเชิงกรานหรือกระดูกสะโพก

5.1.6.1. กระดูกแบนใหญ่ มี 2 ข้าง ประกอบด้วยกระดูก 3 ชิ้น

6. ข้อต่อและเอ็น (Joints & Ligaments)

6.1. เชื่อมระหว่างกระดูกกับกระดูกข้อต่อ เกิดจากกระดูกตั้งแต่ 2 ชิ้นไปมาต่อกัน

6.2. การจำแนกชนิดของข้อต่อ

6.2.1. การเคลื่อนไหวของข้อต่อ มี 3 ชนิด คือ

6.2.1.1. 1.ข้อต่อที่เคลื่อนไหวไม่ได้เลย

6.2.1.1.1. เป็นข้อต่อชนิดที่กระดูกมาต่อกัน เช่น กระดูกกะโหลกศรีษะ

6.2.1.2. 2.ข้อต่อที่เคลื่อนไหวได้เล็กน้อย

6.2.1.2.1. แบ่งได้เป็น 2 ชนิด คือ

6.2.1.3. 3.ข้อต่อที่เคลื่อนไหวได้อย่างเสรี

6.2.1.3.1. เป็นข้อต่อชนิดปลายของกระดูกข้างหนึ่งมีหัวกลมสวมเข้าไปในเบ้าของกระดูกอีกอัน เช่น ข้อสะโพก กับ หัวไหล่

7. ศัพท์ที่ควรทราบ

7.1. ข้อเคล็ด (Sprain)

7.1.1. หมายถึง การซ้นหรือแพลง ทำให้ข้อบิดไป

7.2. ข้อเคลื่อน (Dislocation)

7.2.1. หมายถึง การเคลื่อนของข้อ ทำให้เนื้อเยื่อและเอ็นที่ยึดฉีกขาดได้

7.3. Arthritis

7.3.1. หมายถึง การอักเสบของเนื้อเยื่อที่อยู่รอบๆข้อ ทำให้เกิดอาการบวมเจ็บปวด

7.4. Fracture

7.4.1. หมายถึง การหักของกระดูก

7.5. ขม่อม (Fontanel)

7.5.1. หมายถึง รอยต่อของกระดูกกะโหลกศรีษะ ยังไม่ติดสนิทกัน และมีเยื่อบางๆติดแทนอยู่

7.6. Air sinuses

7.6.1. หมายถึง โพรงอากาศ ซึ่งอยู่ที่กระดูกกะโหลกศรีษะและหน้า