
1. ทวีปแอฟริกา
1.1. -มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก -เป็นทวีปที่มีการพัฒนาล้าหลังที่สุด -มีทะเลทรายกว้างใหญ่ ป่าดิบชื้น ที่ราบสูงเป็นอุปสรรค ที่สำคัญมากต่อการพัฒนา และการคมนาคมติดต่อระหว่างกัน
1.1.1. 1.ที่ตั้งและสภาพภูมิศาสตร์ที่มีต่อผลต่อพัฒนาการของทวีป
1.1.1.1. -เป็นทวีปที่มีเส้นศูนย์สูตรพาดผ่านเกือบกึ่งกลางทวีป ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของทวีป -ทวีปแอฟริกาได้ชื่อว่า ทวีปแห่งที่ราบสูง -ภูเขาสูงสุด คือ ภูเขาคิลิมันจาโร
1.1.1.2. 1. มีทะเลทรายสะฮาราครอบคลุมเป็นบริเวณกว้างใหญ่ทางตอนเหนือ จึงขีดคั่นดินแดนแอฟริกาเหนือกับดินแดนส่วนอื่นของทวีป พัฒนาการของ ประเทศแถบทางเหนือ จึงแตกต่างจากส่วนอื่น ๆ และมีการพัฒนาที่สูงกว่า
1.1.1.3. 2. ตอนกลางของประเทศเป็นป่าฝนร้อนชื้นหรือป่าดิบชื้นที่ทำให้การคมนาคม ลำบาก และมีฌรคภัยเขตร้อนชุกชุม โดยเฉพาะโรคมาลาเรีย
1.1.1.4. 3.แม่น้ำในทวีปเป็นสายยาว แต่ไม่ไหลลงทะเลหรือมหาสมุทร แต่อาจลงทะเลสาบ/ไหลผ่านเกาะแก่ง และกลายเป็นน้ำตกทำให้ชาวแอฟริกัน ไม่สามารถใช้แม่น้ำเพื่อการคมนาคมขนส่งจากชายฝั่งเข้าไปตอนในของทวีป
1.1.1.5. 4. การขนส่งสินค้าทางทะเลไม่สะดวก เพราะขาดแคลนทั้งเมืองท่า และท่าเรือดี ๆ เนื่องจากชายฝั่งของทวีปเว้าแหว่งเป็นที่ราบสูงชัน โดยเฉพาะทาง ภาคตะวันออกจึงไม่อำนวยต่อการสร้างท่าเทียบเรือหรือทำการประมง
1.1.2. 2.พัฒนาการและการสร้างสรรค์ด้านต่างๆ
1.1.2.1. พัฒนาการด้านการเมืองการปกครอง
1.1.2.1.1. -ตั้งแต่โปรตุเกสจัดตั้งสถานีการค้าตามชายฝั่งแอฟริกาและส่ง ชาวแอฟริกันพื้นเมืองไปเป็นแรงงานทำให้ชาติตะวันตกอื่นๆพากันเข้าไปหาประโยชน์ในทวีปแอฟริกา -การเรียกร้องเอกราชประสบความสำเร็จครั้งแรกในปลายศตวรรษ 1950 -โกลด์โคสต์เป็นอิสระจากอังกฤษใน ค.ศ.1957 เมื่อได้รับเอกราชก็ได้เกิดสงครามกลาง เมืองตามมาเพราะการแตกแยกกันเองของคนพื้นเมือง
1.1.2.1.2. -การได้รับเอกราชสิ้นสุดลงเมื่อนามิเบียแยกตัวออกจากแอฟริกาสำเร็จ ภายหลังผู้คนเชื้อสายของประเทศผู้ปกครองเดิมอพยพกลับถิ่นฐานเป็นส่วนใหญ่ -ต้น ค.ศ.2011 ได้มีการขับไล่ผู้นำชาติในแอฟริกาที่บริหารมานาน ซึ่งมีปัญหาคอร์รัปชัน ลิดรอนสิทธิของพลเมือง ความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ โดยเริ่มจากตูนิเซีย อียิปต์ ลิเบีย
1.1.2.2. พัฒนาการด้านเศรษฐกิจ
1.1.2.2.1. ทวีปนี้เป็นแหล่งผลิตเพชรและทองคำมูลค่ามหาศาลป้อนตลาดโลก ทั้งนี้เพราะ เขตความเจริญทางเศรษฐกิจของทวีปปรากฎเป็นเพียงจุดเล็กๆบนแผนที่เท่านั้น
1.1.2.2.2. 1.การตกอยู่ภายใต้การชี้นำทางเศรษฐกิจของประเทศ ตะวันตกที่เข้ามาตั้งอาณานิคม 2.ความลำบากในการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติ และการคมนาคมขนส่งสินค้าและวัตถุดิบในทวีป 3.การทำเกษตรกรรมไม่ได้ผลดี
1.1.2.3. พัฒนาการด้านสังคมและศิลปวัฒนธรรม
1.1.2.3.1. พลเมืองในทวีปแอฟริกาแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ๆคือ พวกแอฟริกันผิวดำ และพวกคอเคเซียน พวกแรกจะมีจำนวนมากกว่าและดำรงชีพอยู่ทั่วไป ส่วน ทางเหนือมักจะเป็นพวกเชื้อสายคอเคเซียน ซึ่งเป็นพวกอาหรับผสมกับชนพื้นเมือง นอกจากนี้ยังมีพวกคอเคเซียนจากยุโรปเข้าไปตั้งถิ่นฐานจำนวนมากทางภาคใต้ โดยเฉพาะในสาธารณรัฐแอฟริกาใต้
1.1.3. 3.อิทธิพลของทวีปแอฟริกาต่อสังคมโลก
1.1.3.1. แอฟริกาเป็นภูมิภาคที่ประชากรหลายล้านคนขาดแคลนทั้งอาหารและ สุขอนามัยต่างๆ เพราะระดับการพัฒนาล้าหลังที่สุดในโลก นอกจากนี้ยังเป็น ดินแดนที่มีปัญหารุนแรงเรื่องการแพร่ของโรคเอดส์ และโรคมาลาเรีย รวมถึง ปัญหาทางด้านนิเวศวิทยาที่ส่งผลกระทบต่อสภาวะแวดล้อมของโลก
2. ทวีปออสเตรเลียและโอเชียเนีย
2.1. ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของมหาสมุทรแปซิฟิกและอยู่ทาง ทิศตะวันออกของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีชนาด ใกล้เคียงกับสหรัฐอเมริกา จึงเป็นประเทศที่เล็กที่สุดในโลก
2.1.1. 1.ที่ตั้งและสภาพภูมิศาสตร์ที่มีผลต่อพัฒนาการของทวีป
2.1.1.1. ประชากรส่วนใหญ่อยู่บริเวณชายฝั่งด้านตะวันออกหลังแนว เทือกเขาเกรตดิไวดิง มีแม่น้ำสายสำคัญ เช่น แม่น้ำดาร์ลิง แม่น้ำเมอร์รีย์ และมีเขตเพาะปลูกรวมกันเพียงร้อยละ 7 ของพื้นที่ทั้งประเทศ
2.1.2. 2.พัฒนาการและการสร้างสรรค์ด้านต่างๆ
2.1.2.1. เป็ นที่รู้จักกันว่า เทอร์รา ออสเตรลิส หรือแผ่นดินตอนใต้ ที่ไม่มีใครรู้จักออสเตรเลียเป็ นทวีปสุดท้ายที่ ชาวยุโรปค้นพบ ในสายตาของชาวดัตซ์ทวีปนี้เป็ นดินแดนของคนป่าเถื่อน(ชาวอะบอริจินิส) ต่อมาเมื่ออังกฤษสูญเสียอเมริกาใน ค.ศ.1776 ซึ่งเคยเป นแหล่งระบายนักโทษ จึงคิดที จะยึดออสเตรเลียเป็ นแหล่งระบายนักโทษแห่งใหม่
2.1.2.2. พัฒนาการด้านการเมืองการปกครอง
2.1.2.2.1. ตั้งแต่ ค.ศ.1821 รัฐบาลอังกฤษได้ส่งเสริมให้เสรีชนเดินทางมาตั้ง หลักแหล่งในออสเตรเลีย พวกอดีตนีกโทษหมดบทบาทในสังคม เกิดการ ขยายชุมชนและการจัดตั้งรัฐต่างๆขึ้นเป็นอิสระจากกันโดยแต่ละรัฐมีข้าหลวง ปกครอง ขณะเดียวกันอำนาจเด็ดขาดของข้าหลวงก็ถูกจำกัดลง และรัฐบาลอังกฤษ ก็ออกกฎหมายให้มีการจัดตั้งนิติบัญญัติ
2.1.2.3. พัฒนาการด้านเศรษฐกิจ
2.1.2.3.1. 1.การปศุสัตว์ -กลางศตวรรษที่ 1790 จอห์น แมกอาเทอร์เริ่มนำแกะพันธุ์เมอริโน ให้ขนแกะหนานุ่มมาทดลองเลี้ยง จนกล่ยเป็นสัตว์เศรษฐกิจ -ปลายศตวรรษ 1840 ได้เพิ่มจำนวนถึง 1.5 ล้านตัวเกิดการขยายพื้นที่ ในการเลี้ยงแกะ และการตั้งชุมชนที่สำคัญ
2.1.2.3.2. 2.การเกษตร -ช่วงทศวรรษที่ 1850 เศรษฐกิจของออสเตรเลียขยายตัวอย่างรวดเร็ว ทองคำกลายเป็นสินค้าส่งออกที่ทำรายได้สูงมาพัฒนาประเทศ แต่ ระหว่าง ค.ศ.1860-1870 ทองคำเริ่มลดน้อยลง รัฐได้ดำเนินนโยบายการ เปิดพรมแดนเพื่อขยายพื้นที่การเกษตร กระตุ้นให้ทำปศุสัตว์ซื้อที่ดินแทนการเช่า
2.1.2.4. พัฒนาการด้านสังคมและศิลปวัฒนธรรม
2.1.2.4.1. 1.ความเสมอภาคของคนขาว -จัดเป็นสังคมที่มีความทัดเทียมกันทางชนชั้นทั้งภูมิหลังทางครอบครัวและชานิตระกูล -ในทศวรรษ 1850 ซึ่งเป็นช่วงที่มีการค้าพบทองคำนั้น ผู้อพยพส่วนใหญ่ก็ยังคงเป็นพวกชนชั้นกลาง ทำให้ขบวนการเรียกร้อง และปฏิรูปเข้มแข็งขึ้น นำไปสู่การขยายสิทธิเลือกตั้งให้แก่ผู้ชายทุกคน โดยปราศจากการคัดค้านของชนชั้นขุนนาง
2.1.2.4.2. 2.การสร้างสังคมนานาชาติและอัตลักษณ์ทางวัฒนธรรม -ภายหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ความสัมพันธ์ใกล้ชิดระหว่าง ออสเตรเลียกับอังกฤษทั้งด้านสังคมและวัฒนธรรมที่มีมาเริ่มเปลี่ยนแปลง การอพยพเข้ามาของชาวยุโรปตะวันออกและยุโรป ทำให้ออสเตรเลียมีลักษณะ เป็นสังคมนานาชาติที่มีความหลากหลายทางด้านวัฒนธรรม
2.1.3. 3.อิทธิพลของทวีปออสเตรเลียและโอเชียเนียต่อสังคมโลก
2.1.3.1. เป็นภูมิภาคที่ประชากรหลายล้านคนขาดแคลนทั้งอาหารและสุขอนามัยต่างๆ เพราะระดับการพัฒนาล้าหลังที่สุดในโลก และยังเป็นดินแดนที่มีปัญหารุนแรง เรื่องการแพร่ระบาดของโรคเอดส์ และโรคมาลาเรีย รวมถึงปัญหาทางด้าน ระบบนิเวศที่ส่งผลกระทบต่อสภาวะสิ่งแวดล้อมโลก แต่หลายประเทศสนใจเข้าไป ลงทุนที่แอฟริกาเพราะยังมีทรัพยากรธรรมชาติจำนวนมหาศาลและแรงงานราคาถูก
3. ทวีปอเมริกาเหนือ
3.1. -เป็นที่ตั้งของประเทศที่มั่งคั่งด้วยทรัพยากรและความเจริญก้าวหน้าทางด้านต่างๆ -มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก
3.1.1. 1.ที่ตั้งและสภาพภูมิศาสตร์ที่มีผลต่อพัฒนาการของทวีป
3.1.1.1. ตั้งอยู่ซีกโลกเหนือทั้งหมด ลักษณะภูมิประเทศคล้ายรูปสามเหลี่ยม แบ่งออกเป็น 3 ภูมิภาค คือ ภูมิภาคอเมริกาเหนือ ภูมิภาคอเมริกากลาง ภูมิภาคเวสต์อินดีส
3.1.1.2. แม่น้ำสำคัญมี 3 สาย คือ แม่น้ำแมกเคนซี แม่น้ำเซนต์ลอว์เรนซ์ แม่น้ำมิสซิสซิปปี
3.1.1.3. ดินแดนส่วนใหญ่ตั้งแต่เขตทรอปิกถึงเขตขั้วโลกเหนือมีอุณหภูมิเกือบทุกประเภทเช่นเดียวกับเอเชีย
3.1.2. 2.พัฒนาการและการสร้างสรรค์ด้านต่างๆ
3.1.2.1. พัฒนาการด้านการเมืองการปกครอง
3.1.2.1.1. ทั้งสหรัฐอเมริกาและแคนนาดาปกครองในระบอบประชาธิปไตย
3.1.2.1.2. -สหรัฐอเมริกาเดิมเป็นอาณานิคมของอังกฤษแต่อังกฤษปกครองอย่างเอาเปรียบ เก็บภาษีสูงทำให้ชาวอาณานิคมไม่พอใจจนนำไปสู่สงคราม -ช่วงก่อสร้างประเทศและขยายดินแดนปัญหาหลัก คือ ปัญหาทาสทางสังคมชาวอเมริกัน จนนำไปสู่ความขัดแย้งทางการเมืองระหว่างกันมลรัฐทางภาคเหนือ
3.1.2.1.3. -แคนาดาเดิมเป็นอาณานิคมของฝรั่งเศส แต่ฝรั่งเศสสนใจที่จะปกครองอย่างจริงจัง เพราะเห็นว่ายังเป็นดินแดนล้าหลังและไม่มีการสำรวจพื้นที่ทั้งหมด -ฝรั่งเศสใช้แคนาดาเป็นตลาดใหญ่ของการค้าขนสัตว์เท่านั้น
3.1.2.1.4. ในอเมริกากลางโดยเฉพาะเม็กซิโกเดิมเป็นอาณานิคมของสเปน -การปกครองเป็นแบบเผด็จการและมีการแย่งชิงอำนาจ -ใน ค.ศ.1917 ปฏิวัติเพื่อเปลี่ยนแปลงเป็นระบอบประชาธิปไตย
3.1.2.1.5. -เมื่ออังกฤษได้อาณานิคมอเมริกันในทวีปอเมริกาเหนือ อังกฤษ จึงต้องการแย่งชิงตลาดการค้าขนสัตว์ของฝรั่งเศส นำไปสู่การเกิดสงคราม ระหว่างอังกฤษและฝรั่งเศสใน ค.ศ.1756 -ฝรั่งเศสเป็นฝ่ายแพ้และเสียแคนาดาในอังกฤษ -แม้อังกฤษจะปกครองแคนาดาอย่างผ่อนปรนแต่ชาวแคนาดาก็ต่อต้าน ระบบการปกครองอาณานิคมของอังกฤษและเรียกร้องให้ปฏิรูปการเมือง โดยเฉพาะการมีผู้แทนรัฐสภาที่มาจากการเลือกตั้ง
3.1.2.2. พัฒนาการด้านเศรษฐกิจ
3.1.2.2.1. ระบบเศรษฐกิจของประเทศในอเมริกาเหนือเป็นระบบการค้าเสรี รัฐจะควบคุมและดำเนินการทางธุรกิจที่เกี่ยวกับการสาธารณะและสวัสดิภาพ ของสังคมส่วนร่วมทรัพยากรและแร่ธาตุที่มีอยู่มาก ตลอดจนเงินทุนและแรงงาน ที่มีคุณภาพจำนวนมากและมีเส้นทางขนส่งที่ดีทำให้ทวีปอเมริกาเหนือเป็นทวีปที่เจริญก้าวหน้าทางด้านอุตสาหกรรมของโลก
3.1.2.3. พัฒนาการด้ารสังคมและศิลปวัฒนธรรม
3.1.2.3.1. มีผู้คนหลากหลายเชื้อชาติอาศัยอยู่ร่วมกัน วัฒนธรรมและวิถีชีวิตจึงเป็นวัฒนธรรมที่ผสมผสาน
3.1.3. 3.อิทธิพลของทวีปอเมริกาเหนือต่อสังคมโลก
3.1.3.1. อเมริกาเป็นประเทศที่มั่งคั่งและมีความเจริญก้าวหน้าทั้ง ด้านอุตสาหกรรม และเทคโนโลยีต่างๆมากที่สุดในทวีป ได้ชื่อว่า เป็นผู้นำการปกครองระบอบประชาธิปไตย อุดมการณ์ของอเมริกาถือว่า มนุษย์ทุกคนเกิดมาเท่าเทียมกัน เป็นหลักการปกครองที่ทุกประเทศทั่วโลกยอมรับ
3.1.3.2. ความเป็นผู้นำด้านอวกาศและนิวเคลียร์ของสหรัฐอเมริกา ทำให้อเมริกามีบทบาทโดดเด่นด้านความมั่นคงทางการเมือง
4. ทวีปอเมริกาใต้
4.1. -ใหญ่เป็นอันดับ 4 ของโลก -พื้นที่ส่วนใหญ่อยู่ในเขตซีกโลกใต้
4.1.1. 1.ที่ตั้งและสภาพภูมิศาสตร์ที่มีผลต่อพัฒนาการของทวีป
4.1.1.1. เทือกเขาแอนดีส -ทอดยาวจากเหนือจรดใต้ขนานไปกับชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิก -หลังสเปนเข้ายึดครองพบว่าเป็นเขตที่อุดมสมบูรณ์ด้วยแร่ธาตุ จึงสร้างความมั่งคั่งอย่างมหาศาล
4.1.1.2. แม่น้ำแอมะซอน -ยาวอันดับ 2 ของโลก -มีต้นน้ำเริ่มจากเขตหิมะลายในเทือกเขาแอนดีสบริเวณประเทศเปรู -เขตป่าฝนของแม่น้ำแอมะซอนนับเป็นเขตป่าฝนที่กว้างใหญ่ที่สุดของโลก จึงเรียกว่าเป็นเขตปอดของโลก
4.1.2. 2.พัฒนาการและการสร้างสรรค์ด้านต่างๆ
4.1.2.1. พัฒนาการด้านเศรษฐกิจ
4.1.2.1.1. ดินแดนอเมริกาใต้จัดว่าเป็น ดินแดนที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยแร่ธาตุและทรัพยากรธรรมชาติ ปัจจุบันต่างมีความพยายามที่จะไม่ผูกติดเศรษฐกิจกับทรัพยากรประเภทใดประเภทหนึ่ง โดยภาพรวมเศรษฐกิจของทวีปยังคงมาจากผลิตผลทางการเกษตรเป็นหลัก
4.1.2.2. พัฒนาการด้านสังคมและศิลปวัฒนธรรม
4.1.2.2.1. -พวกอินเดียนเป็นชนพื้นเมืองเมืองของทวีปอเมริกา ปั จจุบันยังมี จํานวนมากโดยอาศัยอยู่ในเปรูและโบลิเวีย -พวกที่สืบเชื้อสายจากชาวยุโรป เขตที่อยู่สำคัญ คือ อาร์เจนตินา และอุรุกวัยซึ่งมีพลเมืองเชื้อสายอิตาลี สเปน ฝรั่งเศส อังกฤษ และเยอรมันอาศัยอยู่
4.1.2.3. พัฒนาการด้านการเมืองการปกครอง
4.1.2.3.1. ส่วนใหญ่ได้รับเอกราชในต้นคริสต์ศตวรรษที่ 19 แต่สาธารณรัฐใหม่ต่างๆ ไม่มีประสบการณ์บริหารระดับประเทศ ทำให้นายทหารที่เรียกว่า พวกกอดิลโย สามารถยึดอำนาจการปกครอง/อยู่เบื้องหลังคอยชี้นำรัฐบาลระบบเผด็จการ/อำนาจนิยม เข้าครอบคลุมในหลายประเทศ รวมทั้งบราซิลและอาร์เจนตินา
4.1.3. 3.อิทธิพลของทวีปอเมริกาใต้ต่อสังคมโลก
4.1.3.1. -เป็นดินแดนแห่งอารยธรรมเก่าแก่ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก จนเป็นรายได้สำคัญของหลายประเทศ -ค.ศ.2011 ก่อตั้งสหภาพแห่งประชาชาติอเมริกาใต้โดยใช้สหภาพยุโรป เป็นแม่แบบในการดำเนินงาน ทำให้อเมริกาใต้เป็นกลุ่มการค้าเสรีใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก