Get Started. It's Free
or sign up with your email address
Mentoring Program by Mind Map: Mentoring Program

1. 6. ข้อเสนอแนะที่เฉพาะเจาะจง

1.1. 6.1 สอดคล้องกับบทเรียนที่ได้

1.1.1. สร้างกระบวนการทำงานให้ขับเคลื่อนไปในทิศทางเดียวกัน โดยมีแผนที่ความรู้เป็นเเนวทางการพัฒนางาน

1.1.2. วางรูปแบบการสอนงานให้อยู่ระบบปกติในทุกหน่วยงาน

1.1.3. นำรูปแบบการเรียนรู้งานด้านอื่นๆ มาปรับใช้ในการการปฏิบัติงาน เช่น E-learning การฝึกปฏิบัติงานจริง เป็นต้น

1.2. 6.2 ไม่ได้ตามเป้า (เสนอเเนะเพื่อแก้ปัญหา)

1.2.1. กำหนดคู่มือปฏิบัติงานให้ชัดเจนขึ้น

1.2.2. การจับคู่พี่เลี้ยง น้องเลี้ยงในสายงานวิชาชีพ เช่น พยาบาลวิชาชีพ อาจไม่มีจำเป็นเหมาะสมกับ เป้าหมายการพัฒนาในระบบเนื่องจากมีมาตรฐาน วิชาชีพกำหนดสมรรถนะการปฏิบัติงานไว้เเล้ว

1.2.3. กำหนดวิธีการคัดเลือกพี่เลี้ยง น้องเลี้ยง ที่เหมาะสมกับแผนที่ความรู้ที่กำหนด

1.3. 6.3 ได้ตามเป้า (เสนอเเนะเพื่อการพัฒนา)

1.3.1. กำหนด Mentoring Program เป็นข้อมูลนำเข้า ในการประเมินผลการปฏิบัติงานบุคลากร

1.3.2. มีระบบ Super mentor ในแผนที่ความรู้ให้ชัดเจน เพื่อให้คำปรึกษาพี่เลี้ยงเพิ่มเติมได้

2. 5. บทเรียนจากการดำเนินงานพัฒนาโปรเเกรมพี่เลี้ยง (เเนวคิด SWOT)

2.1. 5.1 สำเร็จ

2.1.1. จุดเเข็ง S (ปัจจัยภายใน)

2.1.1.1. บุคลากรมีความเชี่ยวชาญเฉพาะ

2.1.1.2. มีทรัพยากรเพียงพอ

2.1.1.3. มีลักษณะการทำงานเป็นทีม

2.1.1.4. บุคลากรมีความเป็นพี่เป็นน้อง

2.1.1.5. ปฏิบัติงานโดยยึดอัตลักษณ์ DNA คือ D : Dedicated (เสียสละ) N : Never Surrender (ไม่ย่อท้อ) A : Agility (ปรับตัวไว)

2.1.1.6. มีการแลกเปลี่ยนความรู้ระหว่างคู่พี่เลี้ยง น้องเลี้ยง

2.1.2. โอกาส O (ปัจจัยภายนอก)

2.1.2.1. มีแหล่งการเรียนรู้ที่หลากหลาย

2.1.2.2. มีช่องทางการสื่อสารที่สะดวกต่อการ ให้คำปรึกษาระหว่างคู่พี่เลี้ยง น้องเลี้ยง

2.1.2.3. พี่เลี้ยง น้องเลี้ยงอยู่หน่วยงานเดียวกัน สะดวกในการพบปะ ถ่ายทอดความรู้

2.2. 5.2 ไม่สำเร็จ

2.2.1. จุดอ่อน W (ปัจจัยภายใน)

2.2.1.1. การโอนย้ายระหว่างอยู่ในระบบ

2.2.1.2. ระเบียบของกรอบอัตรากำลัง

2.2.1.3. การประสานงาน

2.2.1.4. เวลาของพี่เลี้ยง น้องเลี้ยงไม่ตรงกัน อาจทำให้ การถ่ายทอดความรู้ได้ไม่เต็มศักยภาพ

2.2.2. อุปสรรค T (ปัจจัยภายนอก)

2.2.2.1. ระบบงานมีความซับซ้อน

2.2.2.2. ระดับความรู้ ประสบการณ์ค่อนข้างใกล้เคียงกันของคู่พี่เลี้ยง น้องเลี้ยง

2.2.2.3. ความต้องการของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่เจาะจงเฉพาะด้าน

2.2.2.4. ภาระงานที่เพิ่มขึ้น

3. 4. ผลการดำเนินการพัฒนาโปรเเกรมพี่เลี้ยง

3.1. 4.1 ผลตามวัตถุประสงค์

3.1.1. บุคลากรมีความรู้ ทักษะเพิ่มขึ้น

3.1.2. มีต้นเเบบของพี่เลี้ยงที่ดี ส่งผลให้น้องเลี้ยง มีการพัฒนางานอย่างต่อเนื่อง

3.1.3. บุคลากรมีความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างกัน

3.1.4. เข้าใจระบบงานภาพรวมมากขึ้น

3.2. 4.2 ผลนอกเหนือวัตถุประสงค์

3.2.1. เป็นต้นแบบระบบพี่เลี้ยงไปยัง หน่วยงานอื่นๆ ในสถาบันบำราศนราดูร

3.2.2. พัฒนาน้องเลี้ยงในปีที่ผ่านมาให้สามารถเป็นพี่เลี้ยงในปีนี้ได้

3.2.3. ลดความเสี่ยงในการปฏิบัติงาน

3.2.4. พี่เลี้ยง น้องเลี้ยงได้แลกเปลี่ยนความรู้ ประสบการณ์แบบย้อนกลับกัน

4. 1. สถานการณ์ เหตุผล/ความจำเป็นที่ต้องพัฒนาโปรเเกรมพี่เลี้ยง

4.1. เตรียมบุคลากรทดเเทน กรณีเกษียณอายุราชการ

4.2. เตรียมพร้อมทดแทน กรณีการหมุนเวียนงานโอน/ย้าย หรือลาออก

4.3. มีบุคลากรใหม่

4.4. บุคลากรต่าง Generation

5. 2. เป้าหมายการพัฒนาโปรเเกรมพี่เลี้ยง

5.1. การพัฒนาได้ตามแผนการพัฒนาที่แต่ละคู่กำหนด

5.2. มีเเบบแผนการปฏิบัติงานที่เป็นระบบ

5.3. บุคลากรปฏิบัติงานได้ตรงตามศักยภาพ

5.4. บุคลากรปฏิบัติงานได้อย่างมีความสุข

6. 3. กระบวนการการพัฒนาโปรเเกรมพี่เลี้ยง

6.1. แต่งตั้งคณะทำงาน

6.2. วิเคราะห์ภารกิจหน่วยงาน จัดทำแผนที่ความรู้ สถาบันบำราศนราดูร

6.3. แจ้งเวียนหนังสือไปยังทุกกลุ่มภารกิจ พร้อมชี้เเจงแนวคิดการพัฒนา บุคลากรผ่านระบบ Mentoring Program และแนบแผนที่ความรู้ ประกอบการพิจารณาคัดเลือกกลุ่มเป้าหมาย

6.4. รวบรวมรายชื่อการจับคู่พี่เลี้ยง น้องเลี้ยงจากแต่ละกลุ่มภารกิจที่ส่งมา

6.5. พี่เลี้ยง น้องเลี้ยงเลือกประเด็นการถ่ายทอด องค์ความรู้ที่จำเป็น และวางแผนการพัฒนาร่วมกัน

6.6. ดำเนินกิจกรรมตามเป้าหมายที่กำหนดและรายงานผล รอบ 6 เดือนเเละ 12 เดือน

6.7. แอดมินสื่อสาร ติดตามความก้าวหน้าของการพัฒนาในเเต่ละคู่ผ่านกลุ่มไลน์