วิเคราะห์งบการเงิน

Get Started. It's Free
or sign up with your email address
วิเคราะห์งบการเงิน by Mind Map: วิเคราะห์งบการเงิน

1. กรอบแนวคิดทางการเงิน

1.1. กรอบแนวคิดทางการเงินของการจัดทำรายงานทางการเงิน ต้องการสนับสนุนพันธกิจของตามมาตรฐานการบัญชีสากล เช่น IFRS (International Financial Reporting Standards) หรือ GAAP (Generally Accepted Accounting Principles) ซึ่งให้แนวทางในการรับรู้และจัดทำรายงานทางการเงินที่มีความโปร่งใส และการรับผิดชอบตามหน้าที่และมีประสิทธิภาพจากการตลาดการเงินทั่วโลก

1.1.1. 1.สนับสนุนความโปร่งใสโดยเพิ่มความสามารถในการเปรียบเทียบกันในระหว่างประเทศและเพิ่มคุณภาพของข้อมูลการเงิน ช่วยนักลงทุนและผู้ร่วมตลาดได้ตัดสินใจเชิงเศรษฐกิจอย่างมีข้อมูลประกอบ

1.1.2. 2.เสริมความรับผิดชอบตามหน้าที่โดยลดช่องว่างของข้อมูลระหว่างผู้ให้เงินทุนกับผู้ดูแลเงิน มาตรฐานที่อิงจากกรอบแนวคิดจะให้ข้อมูลที่จำเป็นเพื่อให้ฝ่ายบริหารมีความรับผิดชอบตามหน้าที่ในฐานะแหล่งข้อมูลที่เปรียบเทียบกันได้ระดับโลก มาตรฐานเหล่านี้มีความสำคัญต่อหน่วยงานกำกับดูแลทั่วโลก

1.1.3. 3.สนับสนุนความมีประสิทธิภาพเชิงเศรษฐกิจโดยช่วยนักลงทุนให้้ระบุโอกาสและความเสี่ยงทั่วโลก จึงเป็นการปรับปรุงจัดสรรเงินทุนให้ดีขึ้น สำหรับการประกอบธุรกิจ การใช้ภาษาบัญชีเดียวที่เชื่อถือได้เพราะมาจากมาตรฐาน ที่อิงจากกรอบแนวคิดทำให้ต้นทุนเงินทุนต่ำลงและลดต้นทุนการรายงานระหว่างประเทศ

1.2. ลักษณะสำคัญที่กรอบแนวคิดตั้งไว้ อาทิ เช่น มีสาระสำคัญ เที่ยงธรรม เปรียบเทียบได้ พิสูจน์ยืนยันได้ ทันเวลา เข้าใจได้ และการประยุกต์เชิงคุณภาพเสริม

1.3. มีกฏเกณฑ์ว่าด้วยการจัดทำงบการเงินและรายละเอียดในการนำเสนองบการเงินรูปแบบต่างๆ และองค์ประกอบของงบการเงินต่างๆ

1.4. คำนิยามหลักๆ 5 หมวด สินทรัพย์ หนี้สิน ทุน รายได้ ค่าใช้จ่าย

1.4.1. สินทรัพย์ คือ ทรัพยากรเชิงเศรษฐกิจในปัจจุบันที่อยู่ในความควบคุมของกิจการอันเป็นผลของเหตุการณ์ในอดีตทรัพยากรเชิงเศรษฐกิจ คือ สิทธิที่มีศักยภาพในการสร้างผลประโยชน์เชิงเศรษฐกิจ

1.4.2. หนี้สิน คือ ภาระผูกพันในปัจจุบันของกิจการที่จะโอนทรัพยากรเชิงเศรษฐกิจอันเป็นผลของเหตุการณ์ในอดีต

1.4.3. ทุน/ส่วนของเจ้าของ คือ ส่วนได้เสียคงเหลือในสินทรัพย์ของกิจการหลังจากหักหนี้สินของกิจการทั้งหมด

1.4.4. รายได้ คือ การเพิ่มขึ้นของสินทรัพย์หรือการลดลงของหนี้สิน ส่งผลให้เกิดการเพิ่มขึ้นของส่วนของเจ้าของ ทั้งนี้ไม่รวมถึงเงินทุนที่ได้รับจากผู้ถือสิทธิเรียกร้องส่วนของเจ้าของ

1.4.5. ค่าใช้จ่าย คือ การลดลงของสินทรัพย์หรือการเพิ่มขึ้นของหนี้สิน ส่งผลให้เกิดการลดลงของส่วนของเข้าของ ทั้งนี้ไม่รวมการจัดสรรคืนให้ผู้ถือสิทธิเรียกร้องส่วนของเจ้าของ

1.5. การรับรู้รายการและการเลิกรับรู้รายการ

1.5.1. ความไม่แน่นอนของการมีอยู่

1.5.2. ความน่าจะเป็นในระดับต่ำของกระแสรับหรือจ่ายเชิงเศรษฐกิจ

1.5.3. ความเป็นตัวแทนอันเที่ยงธรรม/ความไม่แน่นอนของการวัดค่า

1.5.4. การเลิกรับรู้รายการ

2. ยกตัวอย่างให้เห็นภาพ 1 เคส การใช้งาน

2.1. ตัวอย่าง การรับรู้ค่าเสื่อมราคา (Depreciation) ของสินทรัพย์ถาวร:

2.1.1. 1. กรอบแนวคิด การรับรู้ค่าเสื่อมราคา: ตามกรอบแนวคิดการรายงานทางการเงินของ IFRS หรือ TFRS, การรับรู้ค่าเสื่อมราคาต้องสอดคล้องกับหลักการการคำนวณต้นทุนและผลกระทบที่คาดว่าจะเกิดขึ้น ในอนาคตกำหนดให้ค่าเสื่อมราคาควรถูกบันทึกเป็นค่าใช้จ่ายในงวดที่สินทรัพย์ถูกใช้งาน เพื่อสะท้อนถึงการลดลงของมูลค่าสินทรัพย์ที่เกิดจากการใช้งานและการสึกหรอ

2.1.2. 2. มาตรฐานการบัญชี IAS 16 / TFRS 16: Property, Plant and Equipment การรับรู้ค่าเสื่อมราคา: กำหนดให้บริษัทต้องรับรู้ค่าเสื่อมราคาของสินทรัพย์ถาวรตามอายุการใช้งานที่คาดหวังและวิธีการคำนวณที่เหมาะสม วิธีการคำนวณค่าเสื่อมราคา: บริษัทสามารถเลือกวิธีการคำนวณค่าเสื่อมราคาได้หลายวิธี วิธีเส้นตรง (Straight-Line Method), วิธีการลดลงอย่างรวดเร็ว (Declining Balance Method), หรือวิธีการคำนวณตามหน่วยผลผลิต (Units of Production Method) อายุการใช้งาน: ประเมินอายุการใช้งานของสินทรัพย์และมูลค่าคงเหลือ (Residual Value) เพื่อคำนวณค่าเสื่อมราคาอย่างถูกต้อง

2.1.3. 3. ประมว ลรัษฎากร (Revenue Code) มาตรา 65 (Section 65): เกี่ยวกับการรับรู้ค่าใช้จ่ายและกำไรในการคำนวณภาษี โดยการรับรู้ค่าเสื่อมราคาต้องสอดคล้องกับหลักเกณฑ์ทางบัญชีและภาษี เช่น อัตราการคิดค่าเสื่อมราคาที่สามารถหักได้ตามกฎหมาย มาตรา 65 ตรี (Section 65 Ter): รายการค่าใช้จ่ายที่ไม่สามารถนำมาหักในการคำนวณกำไรสุทธิ เช่น การรับรู้ค่าเสื่อมราคาตามอัตราที่เกินกำหนด

2.1.4. สมมติว่าบริษัทซื้อเครื่องจักรที่ราคา 1,000,000 บาท และคาดว่าจะใช้งานเครื่องจักรนี้เป็นเวลา 5 ปี โดยคาดว่ามูลค่าคงเหลือของเครื่องจักรหลังจากการใช้งานครบ 5 ปี จะเป็น 100,000 บาท

2.1.5. การรับรู้ค่าเสื่อมราคานี้จะถูก บันทึกเป็นค่าใช้จ่ายในงบกำไรขาดทุนปีละ 180,000 บาทและจะทำให้สินทรัพย์ในงบดุลลดลงตามมูลค่าที่เสื่อมราคาตลอดช่วงเวลา 5 ปี

2.1.6. วิธีคิดค่าเสื่อมราคาแบบเส้นตรง = ต้นทุนสินทรัพย์ - มูลค่าซากคงเหลือ / อายุการใช้งาน

3. การปรับตัวของธุรกิจและการบัญชีตามแนวทางยั่งยืน ESG

3.1. • สิ่งแวดล้อม (Environment-E) เป็นหลักเกณฑ์ที่คำนึงถึงในด้านความรับผิดชอบของบริษัทต่อสิ่งแวดล้อม • สังคม (Social-S) เป็นหลักเกณฑ์ที่ใช้วัดว่าบริษัทมีการจัดการความสัมพันธ์ และมีการสื่อสารกับลูกจ้าง Suppliers ลูกค้า หรือผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย (Stakeholders)อย่างไร • การกำกับดูแล (Governance-G) เป็นหลักการที่ใช้วัดว่าบริษัทมีการจัดการบริการความสัมพันธ์ในเชิงการกำกับดูแลอย่างไร เพื่อการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ โปร่งใส ตรวจสอบได้ และคำนึงถึงผู้มีส่วนได้เสีย

4. ประมวลกฏหมายรัษฏากร ที่เกี่ยวข้อง

4.1. มาตราที่สำคัญเด่นๆ : ในประเทศไทยกำหนดข้อกำหนดเกี่ยวกับการเสียภาษี เช่น การรับรู้รายได้และค่าใช้จ่ายสำหรับวัตถุประสงค์ในการคำนวณภาษี บริษัทจำเป็นต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดเหล่านี้ ในการจัดทำรายงานทางการเงินเพื่อวัตถุประสงค์ทางภาษี

4.1.1. มาตรา 65 (Section 65): การคำนวณรายได้และค่าใช้จ่าย กำหนดวิธีการคำนวณรายได้และค่าใช้จ่ายเพื่อวัตถุประสงค์ในการเสียภาษีเงินได้นิติบุคคล มาตรานี้รวมถึงแนวทางในการคำนวณรายได้และการหักค่าใช้จ่ายที่สามารถยอมรับได้ตามกฎหมายในการจัดทำงบการเงินสำหรับการคำนวณภาษี เช่น การรับรู้รายได้ตามหลักเกณฑ์สะสม (Accrual Basis) และการจัดการกับค่าใช้จ่ายที่สามารถหักได้และไม่ได้ ถ้าไม่ถูกต้องตามมาตรฐานนี้จะต้องทำเป็นค่าใช้จ่ายบวกกลับในทางภาษีอากร

4.1.2. มาตรา 65 ตรี (Section 65 Ter):รายการต้องห้ามในการคำนวณกำไรสุทธิกำหนดรายการค่าใช้จ่ายที่ไม่สามารถนำมาหักในการคำนวณกำไรสุทธิได้สำหรับการเสียภาษี เช่น ค่าใช้จ่ายที่ไม่เกี่ยวข้องกับการประกอบธุรกิจ ค่าใช้จ่ายที่ไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าจ่ายค่าเสื่อมราคาที่เกินอัตราที่กำหนดไว้ตามกฎหมาย มาตรานี้มีความสำคัญต่อการจัดทำงบการเงินเพื่อการเสียภาษี เนื่องจากมีผลต่อการคำนวณกำไรสุทธิที่จะต้องเสียภาษี มาตรา 69 ทวิ (Section 69 Bis): การยื่นงบการเงิน กำหนดข้อกำหนดเกี่ยวกับการยื่นงบการเงินสำหรับการประเมินภาษี บริษัทและห้างหุ้นส่วนจำกัดต้องยื่นงบการเงินต่อกรมสรรพากรภายในระยะเวลาที่กำหนดเพื่อวัตถุประสงค์ในการเสียภาษีเงินได้นิติบุคคล

4.1.3. มาตรา 71 (Section 71): การจัดทำและยื่นแบบแสดงรายการภาษี กำหนดให้บริษัทต้องจัดทำและยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้ตามงบการเงินที่ถูกต้องและ ถูกจัดทำตามหลักการบัญชีที่ยอมรับได้การยื่นแบบแสดงรายการภาษีจะต้องเป็นไปตามรูปแบบและระยะเวลาที่กำหนดโดยกรมสรรพากร

4.1.4. มาตรา 79 และมาตรา 79/1 (Section 79 & Section 79/1): ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) กำหนดรายละเอียดเกี่ยวกับการจัดทำและการรายงานภาษีมูลค่าเพิ่ม รวมถึงการจัดทำรายงานทางการเงินที่เกี่ยวข้องกับการเก็บและการจ่ายภาษีมูลค่าเพิ่ม มาตรานี้มีผลกระทบต่อการบันทึกและการรายงานรายได้และค่าใช้จ่ายในงบการเงิน

4.1.5. มาตราต่างๆ ในประมวลรัษฎากรนี้เป็นแนวทางและข้อบังคับที่ธุรกิจต้องปฏิบัติตามในการจัดทำงบการเงินเพื่อการเสียภาษี ซึ่งต้องทำให้สอดคล้องกับข้อกำหนดทางกฎหมายที่ระบุไว้

5. มาตรฐานที่เกี่ยวข้องกับรายงานทางการเงิน

5.1. TFRS (Thai Financial Reporting Standards): มาตรฐานการบัญชีของประเทศไทยที่ปรับปรุงจาก IFRS ซึ่งให้คำแนะนำที่ละเอียดเกี่ยวกับ การบันทึกและเปิดเผยรายการทางการเงิน ตัวอย่างเช่น:

5.1.1. TFRS 16 (เรื่องสัญญาเช่า): กำหนดให้ผู้เช่าต้องรับรู้สินทรัพย์สิทธิการใช้และหนี้สินจากสัญญาเช่าในงบดุล

5.1.2. TFRS 15: (รายได้จากสัญญากับลูกค้า) กำหนดหลักการในการรับรู้รายได้ เพื่อให้ผู้ใช้งานงบการเงินสามารถเข้าใจธรรมชาติและระยะเวลาของรายได้ที่ได้รับจากสัญญากับลูกค้า แสดงถึงการรับรู้รายได้ที่สะท้อนถึงกรอบแนวคิดในการรับรู้รายได้อย่างเหมาะสม

5.1.3. TFRS 9 (เรื่องเครื่องมือทางการเงิน): กำหนดวิธีการวัดมูลค่าและรับรู้ผลกระทบของเครื่องมือทางการเงิน เช่น การจัดชั้นสินทรัพย์ทางการเงินและการประเมินความเสี่ยงจากการให้สินเชื่อ

5.1.4. TFRS 1: (การนำเสนองบการเงิน) กำหนดหลักการสำหรับการนำเสนองบการเงิน รวมถึงองค์ประกอบที่ควรมีในงบการเงิน เช่น งบดุล งบกำไรขาดทุน และงบกระแสเงินสด มุ่งเน้นการให้ข้อมูลที่มีคุณภาพ เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถตัดสินใจทางเศรษฐกิจได้อย่างเหมาะสม

5.1.5. TFRS 8: Accounting Policies, (นโยบายการบัญชี การเปลี่ยนแปลงประมาณการทางบัญชี และข้อผิดพลาด) กำหนดวิธีการคัดเลือกและเปลี่ยนแปลงนโยบายการบัญชี รวมถึงการปรับปรุงข้อผิดพลาดในงบการเงิน ยืนยันว่าการรายงานทางการเงินควรปฏิบัติตามกรอบแนวคิดที่ระบุไว้เพื่อให้การรายงานมีความสอดคล้องและเชื่อถือได้

5.1.6. TFRS 7: Statement of Cash Flows (งบกระแสเงินสด) ให้แนวทางในการจัดทำและนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับกระแสเงินสด เพื่อให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ในการประเมินความสามารถของกิจการในการสร้างและใช้กระแสเงินสด เป็นส่วนหนึ่งของกรอบแนวคิดที่มุ่งเน้นความสำคัญของการรายงานกระแสเงินสดในงบการเงิน

5.1.7. TFRS 10: Events After the Reporting Period (เหตุการณ์ภายหลังรอบระยะเวลารายงาน) กำหนดหลักการในการจัดทำรายงานเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหลังจากวันที่ในงบการเงินแต่ยังไม่ได้รับรู้ในงวดนั้น มุ่งเน้นให้การรายงานมีความครบถ้วนและเชื่อถือได้

6. ธุรกิจ ESG คืออะไร >>> ความหมาย ESG เป็นการใช้กลยุทธ์สำหรับการประเมินความยั่งยืนและผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาลขององค์กร ซึ่งแนวคิดนี้ดึงดูดนักลงทุน เพื่อนำมาเป็นเกณฑ์ในการตัดสินใจลงทุน มาจาก สิ่งแวดล้อม+สังคม+ธรรมาภิบาล

6.1. E= Environmental

6.1.1. คือปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับผลกระทบที่ดำเนินธุรกิจต่อสิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติ เช่น ใช้ทรัพยากร มลพิษ การเปลี่ยนสภาพอากาศ การจัดการขยะ ประสิทธิภาพพลังงาน และทางชีวภาพต่างๆ

6.2. S=Social

6.2.1. ผลกระทบทางสังคม เช่น ผู้มีส่วนได้เสียภายในและภายนอก รวมถึงห่วงโซ่คุณค่า Value Chain และการประเมินต่างๆ เช่น แรงงาน ความปลอดภัยที่ทำงาน พนักงาน ความเสมอภาค การมีส่วนร่วมชุมชน

6.3. G=Governmance

6.3.1. คือ การกำกับดูแลโครงสร้าง แนวทางการดำเนินงานธุรกิจ ความโปร่งใสการดำเนินงานธุรกิจ การประเมินการทำงาน มีกฏระเบียบ ข้อบังคับ นโยบายที่เป็นธรรม มีการปกป้องผลประโยชนนักลงทุน สิทธิผู้ถือหุ้น ความโปร่งใส การต่อต้านทุจริต

7. อัตราส่วนทางการเงิน

7.1. อัตราส่วนด้านบริหารสินทรัพย์

7.1.1. Inventory turnover = ต้นทุนขาย / สินค้าคงเหลือเฉลี่ย

7.1.1.1. New node

7.1.1.1.1. สูตรไว้หาต้นทุนขาย ไว้ทำอัตราส่วน

7.1.2. AR Turnover = ยอดขายเครดิต/ลูกหนี้การค้าเฉลี่ย

7.1.3. Total Asset turnover = รายได้จากการขาย / สินทรัพย์รวม

7.2. อัตราส่วนด้านสภาพคล่อง

7.2.1. Current Ratio = สูตร สินทรัพย์หมุนเวียน / หนี้สินหมุนเวียน

7.2.2. Quick Ratio = สูตร สินทรัพย์หมุนเวียน - สินค้าคงเหลือ / หนี้สินหมุนเวียน

7.3. อัตราส่วนการทำกำไร

7.3.1. Gross profit Margin = กำไรขั้นต้น / รายได้การขาย x100

7.3.1.1. รายได้จากการขาย หักต้นทุนขาย = กำไรขั้นต้น

7.3.2. Net profit Margin กำไรสุทธิ/รายได้การขาย x100

7.3.3. ROA [Asset] กำไรสุทธิ/สินทรัพย์รวม x100

7.3.4. ROE [Equity] กำไรสุทธิ /ส่วนผู้ถือหุ้น x100

7.4. อัตราส่วนความมั่นคงการเงิน

7.4.1. Debt to Equity = หนี้สินรวม/ส่วนผู้ถือหุ้น

7.4.2. Interest Coverage กำไรจากการดำเนินงาน/ ดอกเบี้ยจ่าย

7.4.2.1. กำไรจากการดำเนินงาน=รายได้จากการขาย−ต้นทุนขาย COGS − ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน คือเรียกง่ายๆว่า EBIT

8. การให้ความสำคัญกับ ESG ในแบบต่างๆ

8.1. ปัจจุบันธุรกิจทั่วโลกกำลังให้ความสำคัญกับ ESG เพื่อช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์องค์กร และสร้างคุณค่าในระยะยาวให้กับกิจการ ควรได้รับการส่งเสริมในทุกๆด้าน ดังนี้

8.2. E= Environmental

8.2.1. การจัดการน้ำและสุขาภิบาล

8.2.2. พลังงานสะอาดที่ทุกคนเข้าถึงได้

8.2.3. เมืองหรือถิ่นฐานมนุษย์ที่ยั่งยืน

8.2.4. อุตสาหกรรม นวัตกรรม โครงสร้างพื้นฐาน

8.2.5. แผนการบริโภคและการผลิตที่ยั่งยืน

8.2.6. การรับมือสภาพอากาศและเปลี่ยนแปลง

8.2.7. การใช้ประโยชน์มหาสมุทรและทรัพยากรทางทะเล

8.2.8. การใช้ประโยชน์จากระบบนิเวชทางบก

8.3. S=Social

8.3.1. ขจัดความยากจน

8.3.2. ขจัดความหิวโหย

8.3.3. ส่งเสริมสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี

8.3.4. การศึกษาที่เท่าเทียม

8.3.5. ความเท่าเทียมทางเพศ

8.3.6. การจัดการน้ำและสุขาภิบาล

8.3.7. การจ้างงานที่มีคุณค่าและเติบโตทางเศรษฐกิจ

8.3.8. ลดความเหลื่อมล้ำ

8.3.9. แผนการบริโภคที่ยั่งยืน สังคมสงบสุข ยุติธรรม ไม่แบ่งแยก

8.4. G=Governance

8.4.1. ความเท่าเทียมทางเพศ

8.4.2. จ้างงานที่มีคุณค่าและเติบโตในทางเศรษฐกิจ

8.4.3. อุตสาหกรรม นวัตกรรม

8.4.4. สังคมสงบสุข ยุติธรรม

8.4.5. ความร่วมมือกันและพัฒนาที่ยั่งยืน

8.4.6. เมืองและถิ่นฐานมนุษย์ที่ยั่งยืน

9. คำศัพท์ย่อต่างๆที่เกี่ยวข้อง

9.1. CSR = Corporate + Social+Responsibillty

9.2. CSV = Creating+ Shared+ Value

9.3. ESG = Environmental + Social + Governance

10. การกำหนดมาตรฐานการรายงานและการจัดรายงานและดัชนีชี้วัด ESG

10.1. IFRS S1

10.1.1. ความเสี่ยงและโอกาสทางการเงินที่เกี่ยวกับความยั่งยืน

10.1.2. ธรรมมาภิบาล กระบวนการและขั้นตอนการจัดการ จัดลำดับความสำคัญของความเสี่ยงและโอกาส ที่เกี่ยวกับความยั่งยืน

10.1.3. ความเสี่ยงของห่วงโซ่คุณค่า เช่น ความปลอดภัยในที่ทำงาน สิทธิแรงงานในห่วงโซ่คุณค่า

10.2. IFRS S2

10.2.1. ความเสี่ยงและโอกาสที่เกี่ยวข้องกับสภาพภูมิอากาศ

10.2.2. ธรรมมาภิบาล กระบวนการ ขั้นตอน การจัดการและประเมินความเสี่ยง โอกาสและการฟื้นฟูที่เกี่ยวข้องกับสภาพอากาศ

10.2.3. การลดคาร์บอน กลยุทธและแผนการเปลี่ยนแปลงสู่เศรษฐกิจคารบอนต่ำ รวมถึงมีตัวชี้วัดและเป้าหมายติดตามความคืบหน้า

10.3. สำหรับร่าง 2 รายการบน สภาวิชาชีพบัญชีฯ ในไทย กำลังจัดทำ (ร่าง) มาตรฐานการรายงานทางการเงินที่เปิดเผยเรื่องความยั่งยืน เรื่องข้อกำหนดทั่วไปสำหรับการเปิดเผยข้อมูลทางการเงินเพื่อความยั่งยืน ถ้ามีผลประกาศใช้แบบทางการ จะยิ่งทำให้นักบัญชีได้เข้ามาใช้เป็นมาตรฐานและมีบทบาท แนวคิดของ ESG ที่ได้เชื่อมโยงกับมาตรฐาน TFRS ที่เกี่ยวข้อง

11. ผลกระทบต่อการบัญชี ESG เช่น

11.1. ด้านบัญชีการเงิน

11.2. ด้านบัญชีบริหาร

11.3. ด้านบัญชีต้นทุน

11.4. ด้านการบัญชี ESG

11.4.1. กรอบแนวคิด มาตรฐานและแนวการปฏิบัติ

11.4.2. การบริหารจัดการความเสี่ยง

11.4.3. การบริหารระบบข้อมูล

11.4.4. การนำเสนอข้อมูลการการบริหาร

12. สรุปผลแนวคิด ESG

12.1. แนวคิด ESG ถือว่าเป็นการเกิดขึ้นของความรับผิดชอบในภาคระดับโลก สู่ระดับธุรกิจที่มุ่งสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน การดำเนินธุรกิจที่ประสบความล้มเหลว มักคำนึงถึงแต่การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและการให้บริการ เพื่อตอบสนองความต้องการลูกค้าให้ดีที่สุด แต่ละเลยการมองภาพรวมของธุรกิจ ขาดการปรับตัวให้เข้าการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ที่เกิดขึ้น เช่น สิ่งแวดล้อม สังคม สภาวะเศรษฐกิจ เทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไป พฤติกรรมผู้บริโภค และการมองภาพกว้างขึ้น หรือภาพรวมที่ผิดพลาดไป

12.2. สำหรับ ESG ถือว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นที่กิจการในระบบนิเวศทางธุรกิจ นำไปสู่ความยั่งยืน กิจการไม่ว่าขนาดใหญ่ หรือขนาดเล็ก จะต้องมองให้เห็นการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวว่า เป็นโอกาสที่จะทำให้กิจการอยู่รอดในระบบนิเวศของธุรกิจที่ต้องเกื้อกูลซึ่งกันและกัน