Intensive ADR Monitoring From HAPD

Get Started. It's Free
or sign up with your email address
Intensive ADR Monitoring From HAPD by Mind Map: Intensive ADR Monitoring From HAPD

1. วัตถุประสงค์

1.1. เพื่อมีระบบการติดตามอาการไม่พึงประสงค์จากการใช้ยาจิตเวชที่มีความเสี่ยงสูง เนื่องจากยังไม่เคยมี่

1.2. เพื่อพัฒนาเครื่องมือในการติดตามอาการไม่มีประสงค์จากการใช้ยาจิตเวชที่มีความเสี่ยงสูงให้มีประสิทธิภาพ

1.3. เพื่อลดความรุนแรงของอาการไม่พึงประสงค์ของการใช้ยาจิตเวชที่มีความเสี่ยงสูงที่สามารถป้องกันได้

1.4. เพื่อพัฒนาเครื่องมือไปใช้ป้องกันความรุนแรงของการเกิดอาการไม่พึงประสวค์จากยาตัวอื่น

2. ระยะเวลาทำวิจัย

2.1. เก็บข้อมูลย้อนหลัง ระหว่าง วันที่ 1 ตุลาคม 2564 ถึง 30 กันยายน 2567

2.1.1. 3 ปี

2.2. เริ่มทำวิจัย 20 ธันวาคม 2567 ถึง 31 มีนาคม 2568

2.2.1. 3 เดือน

3. ตัวแปร

3.1. จำนวนผู้ป่วยจิตเวชที่ใช้ยาจิตเวชที่มีความเสี่ยงสูงที่เกิดอาการไม่พึงประสงค์แบบรุนแรง

3.1.1. ข้อมูลย้อยหลัง 3 ปี

3.2. จำนวนผู้ป่วยจิตเวชที่มีความเสี่ยงสูงที่เกิดอาการไม่พึงประสงค์ทั้งหมด

3.2.1. ข้อมูลย้อนหลัง 3 ปี

4. ที่มาของปัญหา/เหตุผลที่ทำวิจัย

4.1. โรงพยาบาลบางใหญ่ยังไม่มีระบบการติดตามอาการไม่พึงประสงค์จากการใช้ยาจิตเวชที่มีความเสี่ยงสูง

4.2. โรงพยาบาลบางใหญ่ยังไม่เคยนำเครื่องมือการติดตามยาจิตเวชที่มีความเสี่ยงสูงมาใช้

4.3. พบรายงานจิตเวชที่มีความเสี่ยงสูงที่จะทำให้เกิดความรุนแรง จาก รายงานอาการไม่พึงประสงค์จากการใช้ยา ปี 2565 ของกระทรวงสาธารณสุข

4.4. โรงพยาบาลบางใหญ่ยังไม่เคยค้นพบผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงจากการใช้ยาจิตเวชที่มีความเสี่ยงสูง อาจ under-Reporting

5. สรุปผลการวิจัย

5.1. ผลวิเคราะห์ระบบมีประสิทธิภาพหรือไม่

5.2. ผลวิเคราะห์ประสิทธิภาพเครื่องมือ

5.3. งานวิจัยสามารถลดการเกิดความรุนแรงของอาการไม่พึงประสงค์ได้หรือไม่

6. ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ

6.1. ได้ระบบการติดตามอาการไม่พึงประสงค์ในผู้ป่วยจิตเวชที่มีความเสี่ยงสูง

6.2. ได้เครื่องมือที่ใช้ติดตามอาการไม่พึงประสงค์จากยาจิตเวชที่มีความเสี่ยงสูง

6.3. ได้ตัวอย่างเครื่องมือที่นำไปพัฒนาใช้กับยาตัวอื่น

6.4. ได้ข้อมูลให้ผู้เกี่ยวข้องนำไปใช้ประโยชน์

7. เผยแพร่งานวิจัย

7.1. เผยแพร่ในเว็บสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนนทบุรี

8. ประชากร

8.1. ผู้ป่วยจิตเวชที่ได้รับยาจิตเวชที่มีความเสี่ยงสูงทุกราน

8.1.1. ผู้ป่วยจิตเวชที่ได้รับยา Carbamazepine

8.1.2. ผู้ป่วยจิตเวชที่ได้รับยา Clozapine

8.1.3. ผู้ป่วยจิตเวชที่ได้รับยา Lithium

8.1.4. ผู้ป่วยจิตเวขที่ได้รับยา Valproic acid

9. การวิเคระห์ข้อมูล

9.1. Proportion Comparirion

9.1.1. สัดส่วนการเกิดอาการไม่พึงประสงค์รุนแรง ในอดีต ก่อนและหลังใช้เครื่องมือ

9.1.1.1. วิเคราะห์การลดลงของการเกิดอาการไม่พึงประสงค์ที่รุนแรง

9.1.2. สัดส่วนการพยเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ที่เพิ่มขึ้น ในอดีต ก่อนและหลัง มีระบบการติดตามอาการไม่พึงประสงค์จากการใช้ยาจิตเวช

9.1.2.1. วิเคราะห์ระบบการติดตามอาการ

9.2. Ratio

9.2.1. จำนวนการพบเกิดอาการแพ้ยา ในอดีต ก่อนและหลังใช้เครื่องมือ

9.2.1.1. วิเคราะห์ประสิทธภาพของเครื่องมือ

10. เครื่องมือที่ใช้

10.1. แบบติดตามการใช้ยาจิตเวชที่มีความเสี่ยงสูง

10.1.1. แบบติดตามการใช้ยา Carbamazepine

10.1.2. แบบติดตามการใช้ยา Clozapine

10.1.3. แบบติดตามการใช้ยา Lithium

10.1.4. แบบติดตามการใช้ยา Valproic acid

10.2. โปรแกรม Hos-xP

10.3. แบบประเมินแพ้ยา Naranjo Algirithm

10.4. บัตรเฝ้าระวังการแพ้ยา

10.5. บัตรแพ้ยา

11. ขั้นตอนการวิจัย

11.1. ทบทวนวรรณกรรมที่เกี่ยวข้อง

11.1.1. ค้นหาการเกิดอาการไม่พึงประสงค์ จากฐานข้อมูลประเทศไทย จากรายงานการเกิดอาการไม่พึงประสงค์ กระทรวงสาธารณสุข

11.1.2. ค้นหาและรวบรวมตัวอย่างเครื่องมือที่ใช้ในการติดตามอาการไม่พึงประสงค์

11.2. พัฒนาเครื่องมือการติดตามอาการไม่พึงประสงค์จากการใช้ยาจิตเวชที่มีความเสี่ยงสูง

11.2.1. พัฒนาเครื่องมือให้สามารถใช้งานง่ายและรวดเร็วขึ้น

11.2.2. พัฒนาเครื่องมือให้ใช้งานร่วมกับโปรแกรม Hos-xP

11.3. วางระบบการติดตามอาการไม่พึงประสงค์

11.3.1. กำหนดขั้นตอนการติดตามอาการ

11.3.1.1. เกณฑ์คัดเข้าผู้ป่วยที่ใช้ยาเป็นครั้งแรก

11.3.1.2. ใช้แบบติดตามอาการไม่พึงประสงค์ของยา 4 รายการ

11.3.1.2.1. บันทึกการติดตามของผู้ป่วยใน Note hos-xp

11.3.1.2.2. ประเมินอาการและดูค่าทางห้องปฏิบัติการผู้ป่วยทุกครั้งที่มาพยเภสัชกร ในยาที่ผู้ป่วยต้องใช้ยาระยาว ADR type A

11.3.1.3. มอบบัตรเฝ้าระวังให้ผู้ป่วยและรายละเอียดอาการไม่พึงประสงค์

11.3.1.4. หากไม่พบอาการไม่พึงประสงค์ใน 3 เดือน หยุดติดตาม ในยาที่เกิดอาการไม่พึงประสงค์ ADR type B

11.3.1.5. หากพบอาการไม่พึงประสงค์ให้หยุดยาและกลับมาพบแพทย์ทันที ในยาที่เกิดอาการไม่พึงประสงค์ ADR type B

11.3.2. เตรียมเครื่องมือที่เกี่ยวข้อง

11.3.3. กำหนดระยะเวลาในการติดตามอาการ 3 เดือน ก่อนหยุดติดตาม ใน ADR type A

11.3.4. สรุปจำนวนการค้นพบอาการไม่พึงประสงค์ ก่อนและหลังมีระบบ

11.4. เก็บข้อมูลย้อนหลังจากทะเบียนประวัติผู้ป่วยใน Hos-xp โดยปกปิดข้อมูลไว้แล้ว

11.5. นำข้อมูลมาวิเคราะห์

11.6. สรุปผล และเผยแพร่งานวิจัย

11.7. ทำลายข้อมูลหลังทำวิจัย 1 ปี

12. รูปแบบการวิจัย

12.1. การวิจัยแบบย้อนหลัง

12.1.1. เก็บข้อมูลผู้ป่วยในอตีตที่ใช้ยาจิตเวชที่มีความเสี่ยงสูง

12.1.1.1. จำนวนผู้ป่วยที่ใช้ยา Carbamazepine

12.1.1.1.1. จำนวนผู้ป่วยที่เกิดอาการไม่พึงประสงค์ที่รุนแรง

12.1.1.1.2. ข้อมูลผู้ป่วยที่เกิดอาการไม่พึงประสงค์ทั้งหมด

12.1.1.2. จำนวนผู้ป่วยที่ใช้ยา Clozapine

12.1.1.3. จำนวนผู้ป่วยที่ใช้ยา Lithium

12.1.1.4. จำนวนผู้ป่วยที่ใช้ยา Valproic acid

13. การทำลายเอกสาร

13.1. ไม่สามรถทำลายข้อมูลใน Hos-xp ได้ ทางโรงพยาบาลจะมีกระบวนการทำลายเอง ข้อมูลที่นำมาใช้จะมีการปกปิด ผู้วิจัยเท่านั้นที่รู้

13.2. ข้อมูลไฟล์เอกสาร จะลบถาวรหลังทำวิจัย 1 ปี

13.3. ข้อมูลที่เป็นเอกสารจะมีการย่อยทำลายให้เป็นชิ้นเล็ก ไม่สามารถนำไปใช้ได้ หลังทำวิจัย 1 ปีภ