1. ความหมายของการพูด
1.1. มีความสำคัญต่อชีวิตมนุษย์ ต้องสื่อสารด้วยการพูดเสมอ พบว่า ผู้ที่ประสบความสำเร็จในกิจธุระการงาน การคบหาสมาคมกับผู้อื่น ตลอดจนการทำประโยชน์แก่สังคมส่วนรวม ล้วนแต่เป็นคนที่มีประสิทธิภาพในการพูดทั้งสิ้นส่วนหนึ่งของการพูดสามารถสอนและฝึกได้ การพูดเป็น " ศาสตร ์" มีหลักการ และกฎเกณฑ์เพื่อให้ผู้เรียนมีทักษะ ถึงขั้นเป็นที่พอใจอีกส่วนหนึ่งเป็นความสารถพิเศษหรือศิลปะเฉพาะตัวของผู้พูดแต่ละบุคคล บางคนมีความสามารถที่จะตรึงผู้ฟังให้นิ่งอยู่กับที่จิตใจจดจ่ออยู่กับการฟังเรื่องที่พูด ผู้พูดบางคนสามารถพูดให้คนฟังหัวเราะได้ตลอดเวลา
2. ประเภทของการพูด
2.1. การพูดระหว่างบุคคล
2.1.1. การทักทายปราศัย ลักษณะการทักทายปราศัยที่ดีดังนี้หน้าตายิ้มแย้มแจ่มใสแสดงอาการยินดีที่ได้พบผู้ที่เราทักทายกล่าวคำปฏิสันถารที่เป็นที่ยอมรับกันในสังคมเช่น สวัสดีครับ สวัสดีค่ะ แสดงกิริยาอาการประกอบคำปฏิสันถาร ข้อความที่ใช้ประกอบการทักทายควรเป็นเรื่องที่ก่อให้เกิดความสบายใจการแนะนำตนเองการแนะนำเป็นสิ่งจำเป็นและมีความในการดำเนินชีวิตประจำวันบุคคล อาจแนะนำตนเองในหลายโอกาสด้วยกันการแนะนำตนเองมีหลักปฏิบัติดังนี้คือต้องบอกชื่อ นามสกุล บอกรายละเอียดกับตัวเรา และบอกวัตถุประสงค์ในการแนะนำตัว การสนทนาหมายถึงการพูดคุยกันพูดจาเพื่อนสื่อสารแลกเปลี่ยนความรู้ความคิดความรู้สึกและประสบการณ์การรับสารที่ง่ายที่สุดคือการสนทนา
2.2. การพูดในกลุ่ม
2.2.1. - เล่าถึงเนื้อหาและประเด็นประเด็นสำคัญๆว่ามีอะไรบ้าง - ภาษาที่ใช้ควรเป็นภาษาที่ง่าย - น้ำเสียงชัดเจนน่าฟัง เน้นเสียงในตอนที่สำคัญ - ใช้กิริยาท่าทางประกอบการเล่าเรื่องตามความเหมาะสม - ผู้เล่าเรื่อควรจำเรื่องไดเป็นอย่างดี - มีการสรุปข้อคิดในตอนท้าย
3. ความสำคัญของการพูด
3.1. การพูดเป็นสิ่งที่จำเป็นและสำคัญที่สุดสำหรับบุคคลทุกอาชีพในสังคมไทยรวมทั้งสังคมต่างประเทศต่างก็เห็นความสำคัญของการพูด วัตถุประสงค์ที่สำคัญ คือ เพื่อโน้มน้าวใจผู้ฟังให้คล้อยตามในเรื่องที่ตนพูด การพูดจึงเปรียบเสมือนบันไดสำคัญขั้นแรกของมนุษย์ในการสมาคมและเป็นสะพานเชื่อมไปสู่ความสำเร็จในชีวิตได้ การพูดมีความสำคัญต่อมนุษย์หลายประการ
3.2. การพูดเป็นการสื่อสารสองทาง (Two-way Communication) การสื่อสารด้วยการพูดสร้างความเข้าใจระหว่างบุคคลได้ง่ายกว่าการสื่อสารรูปแบบอื่น การพูดจึงเป็นการสื่อสารที่ประหยัดและมีประสิทธิภาพสูง
3.3. การพูดเป็นเครื่องมือของการสมาคม ส่งเสริมให้เกิดความสำเร็จในชีวิตและหน้าที่การงาน เพราะเป็นเครื่องแสดงถึงความฉลาด อุปนิสัยใจคอของผู้พูดตลอดจนความมีไมตรีจิตต่อกัน
3.4. การพูดเป็นเครื่องมือประสานประโยชน์ให้แก่สังคม ปัจจุบันมีการใช้การพูดให้เป็นประโยชน์ทางการเมือง เศรษฐกิจการค้า การศึกษา ศาสนา และอื่นๆ เพื่อเป็นตัวประสานประโยชน์ของสังคม
3.5. การพูดเป็นการแลกเปลี่ยนทัศนคติซึ่งกันและกัน ทำให้เกิดความเข้าใจอันดีระหว่างกัน ดังนั้นการพูดจึงเป็นเครื่องมือสร้างความเข้าใจระดับบุคคล ระดับกลุ่ม จนถึงระดับชาติ
4. หลักการพูด
4.1. แบ่งเป็น 3 ประเภท
4.1.1. ศึกษาเกี่ยวกับผู้ฟังและสิ่งแวดล้อม
4.1.1.1. 1.1 ศึกษาผู้ฟังว่าอยู่ในวัยใด เพศใด การศึกษาระดับใด อาชีพอะไร 1.2 ศึกษาผู้ฟังว่ามีเจตคติ อารมณ์ และรสนิยมอย่างไร 1.3 ศึกษาสภาพแวดล้อม เช่น สถานที่ที่จะพูด ช่วงเวลา
4.1.2. เลือกเรื่องและจัดเนื้อเรื่องที่พูด
4.1.2.1. 2.1 การเลือกเรื่อง ควรเป็นเรื่องที่อยู่ในความสนใจของผู้ฟังเรื่องที่แปลกใหม่ 2.2 การจัดเนื้อเรื่อง เริ่มจาก คำนำ ต้องดึงดูดความสนใจ ไม่กล่าวถ่อมตัว แก้ตัว หรือกล่าวถึงความเป็นมาของเรื่องไกลเกินไป ควรเป็นใจความเพียง 2 – 3 ประโยค ส่วนเนื้อเรื่องต้องเป็นข้อเท็จจริง หลักฐาน เหตุผล และตัวอย่างที่ชัดเจน การสรุปไม่ใช่การย่อเรื่องที่พูดแล้ว แต่เป็นการเน้นประเด็นสำคัญด้วยถ้อยคำสำนวนที่เด่นเป็นพิเศษ เพื่อสร้างความประทับใจ
4.1.3. เตรียมตัวผู้พูด
4.1.3.1. พูดที่ไม่มีประสบการณ์ในการพูดในที่ประชุมชนมาก่อนมักตื่นเต้น ประหม่า เสียงสั่น ท่าทางเคอะเขิน อันเป็นลักษณะของการขาดความมั่นใจใน ตนเอง ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้การพูดล้มเหลว ผู้พูดจึงควรเตรียมตัวและฝึกฝนการพูดอยู่ตลอดเวลาเพื่อความมั่นใจในตนเอง