ประวัติศาสตร์ศิลปะ

Get Started. It's Free
or sign up with your email address
ประวัติศาสตร์ศิลปะ by Mind Map: ประวัติศาสตร์ศิลปะ

1. 14.โพสท์ – อิมเพรสชั่นนิสม์ (Post Impressionism)

1.1. ศิลปะหลังสมัยอิมเพรสชั่นนิสม์ ใช้สีที่สดกว่าอิมเพรสชั่นนิสม์ เน้นตัดทอนภาพให้เหลือแต่รูปทรง

1.1.1. อ็องรี เดอ ตูลูซ โลแทร็ก

1.1.1.1. At The Moulin Rouge

1.1.1.2. Marcelle Lender Dancing In The Bolero Chil Peric

1.1.2. ปอล เซซาน

1.1.2.1. Still Life

1.1.2.2. The Bath

1.1.3. ฌอร์ฌ ปีแยร์ เซอรา

1.1.3.1. Bathers

1.1.3.2. Sunday Afternoon On The Island Of La Grande Jatte

1.1.4. วินเซนต์ แวนโก๊ะ

1.1.4.1. Starry Night

1.1.4.2. The Night Cafe

1.1.5. เออแฌน อ็องรี ปอล โกแก็ง

1.1.5.1. Woman Holding A Fruit

1.1.5.2. Beautiful Tahiti Women

2. 7.ยุค โกธิค

2.1. นิยมแสดงเรื่องราวทางศาสนาในแนวเหมือนจริง (Realistic Art) ไม่ใช้สัญลักษณ์เหมือนศิลปะยุคก่อน

3. 8.สมัย ฟื้นฟู

3.1. สร้างสรรค์ในรูปความงามตามธรรมชาติ และความงามที่เป็นศิลปะแบบคลาสสิกที่เจริญสูงสุด ซึ่งพัฒนาแบบใหม่จากศิลปะกรีกและโรมัน

4. 9.สมัย บารอค

4.1. เป็นลักษณะการจัดองค์ประกอบของศิลปะที่เน้นรายละเอียดส่วนย่อยอย่างฟุ่มเฟือย โดยเฉพาะการใช้ส่วนโค้ง ส่วนเว้า งานจิตรกรรม และประติมากรรม ยังคงเน้นรูปร่าง รูปทรงธรรมชาติ (Realistic) แต่ใช้สีรุนแรงขึ้น

5. 10.สมัย คลาสสิก

5.1. ศึกษาด้านมานุษยวิทยาซึ่งประกอบด้วยการศึกษาเกี่ยวกับภาษา วรรณกรรม ปรัชญา ประวัติศาสตร์ ศิลปกรรม โบราณคดี และวัฒนธรรมต่างๆ ของดินแดนในแถบเมดิเตอเรเนียนในยุคโบราณ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกรีกโบราณและโรมันโบราณ

6. 11.สมัยโรแมนติก

6.1. เป็นศิลปะที่เน้นอารมณ์ความรู้สึกสะเทือนใจ เร้าใจ แก่ผู้พบเห็น และธรรมชาติ โดยมีความเชื่อว่าคุณค่าของศิลปะเกิดจากอารมณ์ของผู้ชมและผู้สร้างสรรค์ โดยมากแนวคิดของศิลปะในยุคนี้จะสะท้อนออกมาในงานศิลปะแบบภาพวาด ดนตรี และวรรณกรรม

7. 12.เรียลลิสม์ (Realism)

7.1. เน้นการถ่ายทอดความจริงในสังคม

7.1.1. ฌ็อง ฟร็องซัว มิเลท์

7.1.1.1. The Gleaners

7.1.2. ฌ็อง เดซีเร กุสตาฟว์ กูร์แบ

7.1.2.1. The Interior

7.1.2.2. Stone Breaker

7.1.3. ออนอเร ดูมิเยร์

7.1.3.1. Freedom Of The Press

7.1.3.2. The Third Class Carriage

7.1.3.3. The Uprising

7.1.4. เอดัวร์ มาเน

7.1.4.1. The Luncheon on the Grass

7.1.4.2. Olympia

7.1.4.3. A Bar at the Folies-Bergère

8. 13.อิมเพรสชั่นนิสม์ (Impressionism)

8.1. ศึกษาธรรมชาติอย่างจริงจัง และเอาวิทยาศาสตร์เรื่อง "แสง สี" มาใช้วาดภาพ

8.1.1. แอดการ์ เดอกา

8.1.1.1. Absinthe Drinker

8.1.1.2. Ballet Class

8.1.1.3. The Dancing Lesson

8.1.2. อ็อสการ์ โกลด มอเน

8.1.2.1. Terrance

8.1.2.2. Water Lily Pond

8.1.2.3. Soleil Levant

8.1.3. ปีแยร์ โอกุสต์ เรอนัวร์

8.1.3.1. Dance At The Moulin De La Galette

8.1.4. ฌากอบ อาบราอาม กามีย์ ปีซาโร

8.1.4.1. Place Du Theatre

8.1.4.2. Entrance To The Village Of Voisins

8.1.5. ฟร็องซัว โอกุสต์ เรอเน รอแด็ง

8.1.5.1. The Kiss

8.1.5.2. The Thinker

9. 6.ยุค กลาง

9.1. เรื่องราวเกี่ยวกับผู้ถูกฆ่าเรื่องศาสนา วิหาร พิธีเจิมน้ำมนต์

10. 1. ยุค ก่อนประวัติศาสตร์ (Pre-historic Art)

10.1. เป็นยุคสมัยศิลปะเพื่อการอยู่รอด เพราะมีจุดมุ่งหมายในการสร้างงานศิลปะ เพื่อหาอาหาร สร้างกำลังใจในการดำรงชีวิต บูชาอภินิหาร ความตาย และความอุดมสมบูรณ์

11. 2.ยุค อียิปต์ (Egypt Art)

11.1. เรื่องราวของศิลปะเกี่ยวกับศาสนา พิธีกรรม โดยเฉพาะ "พิธีฝังศพ"

12. 5.ยุค อีทัสคัน และโรมัน (Etruscan and Roman Art)

12.1. แสดงถึงเรื่องราวในชีวิตประจำวัน ศาสนาและปรัชญา ได้รับแบบอย่างมาจากกรีก

13. 4.ยุค กรีก (Greek Art)

13.1. เน้นคามสวยงาม มากกว่าความคิดทางศาสนา โดยเน้นความงดงามตามธรรมชาติ ความสมดุล สมส่วน

14. 3.ยุค เมโสโปเตเมีย (Mesopotamia)

14.1. สร้างสรรค์ขึ้นจากภูมิปัญญาของชนเผ่าต่างๆ ที่สลับสับเปลี่ยนกันเข้าครอบครองดินแดน

15. ประวัติฯศิลป์(2)