1. จุดมุ่งหมาย
1.1. แต่งขึ้นเพื่อใช้สำหรับเทศน์
2. ผู้แต่ง
2.1. เจ้าพระยาพระคลัง(หน)
3. ลักษณะคำประพันธ์
3.1. แต่งด้วยร่ายยาว
3.2. ขึ้นต้นด้วยคาถาบาลีสั้นๆสรุปใจความของเนื้อเรื่องนั้นๆ
3.3. ดำเนินด้วยร่ายยาว บางตอนที่สำคัญจะแทรกคาถาบาลีไว้ด้วย
3.4. บางครั้งแทรก ความเรียงร้อยแก้ว กลบท กลอนพื้นบ้าน
4. ตัวละคร(วิเคราะห์มา1ตัว)
4.1. พระนางผุสดี
4.1.1. เป็นแบบอย่างของนักปกครองฟังเสียส่วนมากไม่เห็นแก่พวก
5. คุณค่า
5.1. คุณค่าด้านวรรณศิลป์
5.1.1. คุณค่าด้านสังคม
5.1.1.1. 1. แสดงให้เห็นความรักอันยิ่งใหญ่ที่แม่มีต่อลูก
5.1.1.2. 2.ความจงรักภักดีของพระนางมัทรีที่มีต่อพระเวสสันดร
5.1.1.3. 3. ความมีเมตตา การบริจาคทานให้แก่ผู้ที่ด้วยกว่า
5.1.2. การใช้ธรรมชาติเปรียบเทียบกับความทุกข์โศกของพระนางมัทรี
5.1.3. เช่น สภาพธรรมชาติที่แตกต่างไปจากปกติ แสดงให้เห็นว่า จะบอกเหตุลางร้ายแก่พระนางมัทรี
5.1.4. 2.การเล่นคำ
5.1.4.1. เช่น สะบัดสะบิ้ง สะอึกสะอื้น ตระตรากตระตรา
5.1.5. 3.การเล่นเสียง
5.1.5.1. 3.1การเล่นเสียงสัมผัสพยัญชนะเสียงเดียวต่อๆกัน
5.1.5.1.1. เช่น ก็กลายเป็นดอกดวงเดียวดาษอนาถเนตร
5.1.5.2. 3.2 การเล่นเสียงสัมผัสสระ
5.1.5.2.1. นางก็ถึงวิสัญญีสลบตรงหน้าฉาน ปานประหนึ่งว่าพุ่มฉัตรทองฟาดระเนนเอนก็ล้มลงตรงหน้าพระที่นั้งเจ้า นั้นแล
5.1.5.3. 3.3 การเล่นทั้งเสียงสัมผัสพยัญชนะและสระ
5.1.5.3.1. เจ้าเคยเคียงเรียงเคียงหมอนนอนแนบข้างทุกราตรี