แอนนิเมชันและภาพยนตร์แอนนิเมชัน

1. ความสำคัญ

1.1. การสื่อสาร

1.1.1. กระบวนการที่บุคคลหนึ่งถ่ายทอดสารไปยังอีกบุคคลหนึ่ง(มีปฏิกิริยาตอบโต้)

1.1.2. องค์ประกอบ

1.1.2.1. ผู้ส่งสาร

1.1.2.2. ผู้เข้ารหัสสาร

1.1.2.3. สาร

1.1.2.4. ช่องทางการสื่อสาร

1.1.2.5. ผู้ถอดรหัสสาร

1.1.2.6. ผู้รับสาร

1.1.3. ยังหมายถึงการถ่ายโอนความหมายระหว่างผู้สื่อสาร(ผู้ส่งสาร+ผู้รับสาร)

1.1.4. วัตถุประสงค์ในการสื่อสารของสื่อมวลชน

1.1.4.1. เพื่อแจ้งข่าวสาร

1.1.4.2. เพื่อการศึกษา

1.1.4.3. เพื่อความบันเทิง

1.1.4.4. เพื่อเสนอแนะ ชักจูงหรือโน้มน้าวใจ

1.1.5. มีอิทธิพลต่อการเปลี่ยนแปลง

1.1.5.1. ความรู้

1.1.5.2. ทัศนคติ

1.1.5.3. พฤติกรรม

1.1.6. กลุ่มเป้าหมายในการสร้างสรรค์แอนนิเมชันมีคุณสมบัติ ดังนี้

1.1.6.1. ใช้จินตนาการอย่างไม่มีขอบเขต

1.1.6.2. อธิบายเรื่องที่ซับซ้อนและเข้าใจยากให้ง่ายขึ้น

1.1.6.3. ใช้อธิบายหรือแสดงความคิดเห็นที่เป็นนามธรรมหรือรูปธรรมได้

1.1.6.4. ใช้อธิบายหรือเน้นส่วนสำคัญให้ชัดเจน

2. ความหมาย

2.1. มาจากภาษาละติน (Animare) หมายถึงทำให้มีชีวิต วิญญาณ

2.2. ภาพยนตร์แอนนิเมชัน หมายถึง การสร้างสรรค์ลายเส้นหรือรูปทรงที่ไม่มีชีวิตให้เคลื่อนไหวและมีชีวิต

2.3. แอนนิเมชัน หมายถึง การสร้างภาพเคลื่อนไหว

2.3.1. นำภาพนิ่งหลายๆภาพที่ต่อเนื่องมาเรียงกัน

2.3.2. ฉายภาพนิ่งด้วยความเร็วตั้งแต่ 16 ภาพ/เฟรมต่อวินาที ทำให้เห็นภาพเคลื่อนไหว

2.3.3. เป็นปฏิกิริยาที่มาจากการเห็นภาพติดตา

2.4. ทฤษฎีการเห็นภาพติดตา

2.4.1. ถูกคิดค้นในปี พ.ศ.2367 โดยแพทย์ชาวอังกฤษ Dr.John Ayrton Paris

2.4.2. อธิบายว่า เมื่อมนุษย์เห็นภาพหนึ่ง หลังจากที่ภาพนั้นหายไป ภาพนั้นจะยังคงค้างอยู่ที่เรตินา ถ้ามีภาพใหม่ปรากฎขึ้นในเวลา 1/5 วินาที สมองจะเชื่อมโยงภาพสองภาพเข้าด้วยกัน

2.4.3. ถ้านำภาพมาเคลื่อนที่อย่างต่อเนื่องในเวลากระชั้นชิด จะทำให้เห็นภาพเหล่านั้นเคลื่อนที่ได้