
1. ระบบหายใจ
1.1. ส่วนของอวัยวะ ของร่างกาย ที่ทำหน้าที่รับ O2จากภายนอกเข้าสู่ร่างกายและนำCO2 จากภายในร่างกายออกมาสู่ภายนอกร่างกาย
1.2. โดยอาศัยระบบไหลเวียนโลหิตเป็นตัวกลางในการลำเลียงก๊าช
1.3. ผ่านกระบวนการหายใจเข้า - หายใจออก
2. ท่อทางเดินหายใจ
2.1. จมูก —> คอหอย —> กล่องเสียง —> หลอดคอ —> หลอดลมใหญ่ —> หลอดลมฝอย —> ปลายหอดลมฝอย —> ปอด
3. หน้าที่ของระบบหายใจ
3.1. หน้าที่สำคัญ‼️
3.1.1. การรักษา partial pressureของก๊าซO2และCO2ในอากาศของถุงลมและในเลือดแดง ให้อยู่ในระดับปกติที่เหมาะสมคือ arterialO2tension(PaO2)เท่ากับ100มม.ปรอท และarterialCO2tension(PaCO2)เท่ากับ40มม.ปรอท
3.2. หน้าที่อื่นๆ❗️
3.2.1. ช่วยควบคุมสมดุลกรด-ด่าง ของร่างกาย CO2➕H2O <—> H2CO3 <—> H+➕HCO3-
3.2.2. ช่วยในการเปล่งเสียง
3.2.3. ป้องกันอันตรายจากสิ่งแปลกปลอมในอากาศ
3.2.4. แหล่งเก็บสำรองเลือด
3.2.5. แหล่งกรองเลือดของร่ายกาย
3.2.6. ทำหน้าที่ในกระบวนการ Metabolism ของสารบางชนิด
4. ท่อทางเดินหายใจและปอด
4.1. อากาศจะผ่านเข้าทางรูจมูกไปยังโพรงจมูกหรือช่องปากแล้วเข้าสู่กล่องเสียงและหลอดลมตามลำดับ
4.2. ภายในปอดหลอดลมจะแตกแขนงออกจาก 1 เป็น 2 ไปเรื่อยๆจนถึงประมาณแขนงที่23 เพื่อนำอากาศเข้าสู่ถุงลม
4.3. แบ่งเป็น 2️⃣ ส่วน
4.3.1. C͟O͟N͟D͟U͟C͟T͟I͟N͟G͟ Z͟O͟N͟E͟
4.3.1.1. เริ่มจาก trachea มาสิ้นสุดที่ terminal bronchiole
4.3.1.2. ทำหน้าที่เป็นทางผ่านของอากาศ ช่วยให้อากาศที่หายใจเข้าไปอุ่นและชื้น
4.3.1.3. ทำหน้าที่เป็นตัวกรองสิ่งแปลกปลอมที่ปนมากับอากาศในขณะที่หายใจเข้า
4.3.1.4. เนื่องจากส่วนนี้ไม่มีการแลกเปลี่ยนก๊าซ จึงเรียกว่า “anatomical dead space”
4.3.2. R͟E͟S͟P͟I͟R͟A͟T͟O͟R͟Y͟ Z͟O͟N͟E͟
4.3.2.1. เริ่มจาก respiratory bronchiole ซึ่งมีเยื้อบุผิวบางๆ แตกแขนงเป็น alveolar ducts ซึ่งเป็นท่อบางๆต่อกับ alveolar sac
4.3.2.2. โดย alveolar sac จะประกอบไปด้วยถุงลมเล็กๆ เรียกว่า “alveoli“
4.3.2.3. ที่ผนังของ alveoli จะมีหลอดเลือดฝอยกระจายอยู่ เพื่อทำหน้าที่แลกเปลี่ยนก๊าซ
4.3.2.4. ส่วนที่ไม่มีการแลกเปลี่ยนก๊าซ เรียกว่า “alveolar dead space”
5. ALVEOLUS
5.1. Alveoli เป็นกลุ่มถุงลมที่เป็น Functional units ของปอด
5.2. ปอดแต่ละข้างจะประกอบด้วย 350ล้านalveoli ซึ่งล้อมรอบด้วยcapillariesมากมาย และให้พื้นที่ผิวเพียงพอสำหรับการแลกเปลี่ยนก๊าซ พื้นที่ผิวทั้งหมดประมาณ60-70ตารางเมตร หรือประมาณ20เท่าของพื้นที่ผิวหนัง.
6. PLEURA
6.1. เยื่อหุ้มปอด เป็นเยื่อบางและละเอียดอ่อน เปียกชื้นและเป็นมันลื่นหุ้มผิวภายนอกของปอด
6.2. เยื่อหุ่มนี้ ไม่เพียงคลุมปอดเท่านั้น ยังไปบุผิวหนังด้านในของทรวงอกอีก หรือกล่าวได้อีกอย่างหนึ่งว่าเยื้อหุ้มปวดซึ่งมี2ชั้น ระหว่าง2ชั้นนี้มีของเหลวอยู่นิดหน่อย เพื่อลดแรงเสียดสีระหว่างเยื้อหุ้มมีโพรงว่าง เรียกว่า “ช่องระหว่างเยื่อหุ้ม”.
7. จมูก
7.1. เป็นทางผ่านของอากาศ ด่านแรกประกอบด้วยโครงสร้างรูปสามเหลี่ยมของกระดูกและกระดูอ่อน ผิวด้านนอกปกคลุมด้วยผิวหนัง ส่วนผิวด้านในบุด้วยเยื่อเมือก (Mucous membrane)ภาในเยื่อเมือกจะมีต่อมน้ำมันทำหน้าที่เป็นด่านป้องกันฝุ่นละอองไม่ให้ลงไปสู่ปอด
7.2. มีช่องเปิดของช่องจมูกอยู่ 2 ช่อง แยกจากกันโดยผนังกั้น (Septum)
7.2.1. ช่องจมูกในส่วนที่อยู่ลึกเข้าไปแบ่งออกเป็น 2 ส่วน
7.2.1.1. 1.ส่วนบนจะเป็นพื้นที่เกี่ยวกับการดมกลิ่น
7.2.1.2. 2.ส่วนล่างจะเป็นทางผ่านของอากาศ
8. PHARYNX
8.1. หลอดคอ หรือ คอหอย เป็นส่วนที่อยู่ต่อจากจมูกและปาก เป็นหลอดตั้งตรงยาวประมาณ 5 นิ้ว มีลักษณะคล้ายกรวย ->ในเด็ก และลักษณะคล้ายทรงกระบอก ->ในผู้ใหญ่
8.2. แบ่งออกเป็น 3 ส่วน
8.2.1. 1.Naso-pharynx เป็นทางผ่านของอากาศอย่างเดียว ที่ส่วนนี้จะมีช่องไปติดต่อกับหูส่วนกลาง เรียกช่องนี้ว่า”หลอดยูสเตเชียน”
8.2.2. 2.Oro-pharynx เป็นทางผ่านของอาหารและอากาศ
8.2.3. 3.Laryngo-pharynx เป็นทางผ่านของอากาศอย่างเดียว
9. LARYNX
9.1. หลอดเสียง หรือ กล่องเสียง เป็นอวัยวะพิเศษ ลักษณะเป็นหลอดยาวประมาณ 4.5 ในผู้ชาย และ 3.5 ในผู้หญิง
9.2. หลอดเสียงเจริญเติบโตขึ้นมาเรื่อยๆตามอายุ ในวัยที่เริ่มเป็นหนุ่มสาวหลอดเสียงเจริญขึ้นอย่างรวดเร็วโดยเฉพาะในผู้ชาย เนื่องจากสายเสียง(Vocal cord) ซึ่งอยู่ภายในหลอดเสียงนี้ยาวและหนาขึ้นอย่างรวดเร็วเกินไปจึงทำให้เสียงแตกพร่า การเปลี่ยนแปลงนี้ เกิดจากฮอร์โมนของเพศชาย.
9.3. ทำหน้าที่เป็นทางเดินอากาศ ตั้งอยู่บนด้านหน้าคือบริเวณลูกกระเดือก (Adam’s apple) ด้านหน้าของหลอดอาหาร
9.4. ประกอบด้วยกระดูกอ่อนทั้งชนิดใสและชนิดยืดหยุ่น 9 ชิ้นด้วยกัน ยึดติดกันด้วยเอ็นยึดข้อต่อและกล้ามเนื้อ
10. TRACHEA
10.1. หลอดลม อยู่ด้านหน้าของหลอดอาหาร ตอนบบนจะอยู่ติดกับกระดูกอ่อนคริคอยด์ ปลายล่างจะอยู่ในระดับกระดูกสันหลังรัดับอก ชิ้นที่5 (T5) หลอดลมยาวประมาณ 4.5 นิ้ว
10.2. ส่วนประกอบของหลอดลม ประกอบด้วยกระดูกอ่อนรูปครึ่งวงกลม16-20ชิ้น (C Shaped Hyaline cartilage rings) เพื่อป้องกันมิให้หลอดลมแฟบง่ายและทำให้อากาศผ่านเข้าออกได้สะดวก ฝาปิดกล่องเสียงก็สามารถขยายตัวได้สะดวกใกการกลืนอาหาร.
10.3. ทั้งกล่องเสียงและหลอดลมภายในจะบุด้วยเยื่อเมือกออกมาคอยดักฝุ่นละอองหรือสิ่งที่หายใจปนไปกับอากาศเอาไว้ที่หลอดลมขั้วปอด(Bronchi)
11. BRONCHI
11.1. เป็นส่วนที่อยู่ต่อจากหลอดลม แยกออกเป็น 2 ข้าง
11.1.1. คือ ซ้ายและขวา โดยที่ข้างขวาจะสั้นกว่า กว้างกว่า และอยู่ในแนวดิ่ง มากกว่าข้างซ้าย
11.1.1.1. โรคต่างๆ เช่น วัณโรค ปอดบวม จึงมักเกิดกับข้างขวามากกว่าข้างซ้าย