สร้างความสำเร็จให้ชีวิต ด้วยเทคนิคการตั้งเป้าหมาย

Начать. Это бесплатно
или регистрация c помощью Вашего email-адреса
สร้างความสำเร็จให้ชีวิต ด้วยเทคนิคการตั้งเป้าหมาย создатель Mind Map: สร้างความสำเร็จให้ชีวิต ด้วยเทคนิคการตั้งเป้าหมาย

1. ผู้เขียน

1.1. ไบรอัน เทรซี่

1.1.1. นักเขียนและนักพูดที่มีชื่อเสียงมากที่สุดคนหนึ่งของโลก

1.1.2. นักเขียนเจ้าของผลงานหนังสือมากกว่า 45 เล่ม

1.1.3. หนังสือชื่อดังอีกเล่มของไบรอันก็คือ Eat That Frog

1.1.4. ที่ปรึกษาให้กับบริษัทชื่อดังกว่า 1,000 แห่ง เช่น IBM Ford HW เป็นต้น

2. แนวคิดในหนังสือเล่มนี้จะช่วยเราสร้าง Productivity ได้อย่างไร?

2.1. ทุกคนล้วนมีความฝันและสิ่งที่อยากจะทำ แต่ถ้าเราไม่รู้จักตั้งเป้าหมาย เราจะไม่มีทางรู้เลยว่าจะเปลี่ยนความฝันนั้นให้กลายเป็นความจริงได้เมื่อไหร่และอย่างไร

2.2. หนังสือเล่มนี้จึงช่วยสอนขั้นตอนง่ายๆ ในการตั้งเป้าหมาย จากนั้นเราก็จะทำเป้าหมายนั้นให้สำเร็จง่ายขึ้นและเร็วขึ้นกว่าที่เราเคยคิดเอาไว้มาก

2.3. เรายังสามารถนำวิธีตั้งเป้าหมายนี้ไปใช้ได้กับทุกด้านในชีวิต ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงาน ครอบครัว การเงิน และสุขภาพด้วย

3. ถ้าอยากตั้งเป้าหมายให้ดีต้องมีอะไรบ้าง?

3.1. ต้องเขียนออกมาให้ชัดเจน เฉพาะเจาะจง และมีรายละเอียด

3.1.1. เราต้องนึกภาพเป้าหมายนั้นได้จริง

3.1.2. ฉันอยากมีความสุข

3.1.2.1. ไม่ใช่เป้าหมาย

3.1.3. ฉันอยากมีบ้านหนึ่งหลังที่มีสวนหลังบ้านไว้ให้ทำงานอดิเรกที่รักยามว่าง

3.1.3.1. เป็นเป้าหมาย

3.1.4. คนส่วนใหญ่ชอบตั้งเป้าหมายไว้ในใจ แต่ถ้าเราเขียนมันออกมา เราจะมองเห็นและรู้ตัวอยู่ตลอดว่าเป้าหมายของเราคืออะไร

3.2. ต้องวัดผลได้

3.2.1. คนอื่นต้องประเมินเป้าหมายนั้นของเราได้ด้วย

3.2.2. ฉันอยากหาเงินให้ได้เยอะๆ

3.2.2.1. ไม่ใช่เป้าหมาย

3.2.3. ฉันจะหาเงินให้ได้ 300,000 บาทภายในเดือนมิถุนายน

3.2.3.1. เป็นเป้าหมาย

3.3. ต้องมีเส้นตาย

3.3.1. ลองนึกถึงการเดินทางด้วยเครื่องบิน

3.3.2. นอกจากเราจะมีเป้าหมายในการเดินทางไปเมืองหนึ่งชัดเจน เรายังรู้ว่าจะใช้เวลาบินไปเมืองนั้นเท่าไหร่ด้วย

3.4. ต้องมีความท้าทาย

3.4.1. การตั้งเป้าหมายให้ง่ายเกินไปก็ไม่ได้ประโยชน์เท่าไหร่ ถ้าตั้งยากเกินไป เราก็อาจทำไม่สำเร็จ

3.4.2. เป้าหมายที่ดีควรตั้งอยู่ตรงกลาง ตรงจุดที่เรามีโอกาสทำมันสำเร็จ 50%

3.4.3. เป้าหมายนี้จะช่วยกดดันให้เราทำงานหนักและกระหายที่จะทำมันให้สำเร็จ

3.5. ต้องมีความสอดคล้องระหว่างเป้าหมายด้วยกัน

3.5.1. เราจะมีเป้าหมายที่ขัดแย้งกันเองไม่ได้

3.5.2. ฉันอยากทำธุรกิจร้านกาแฟให้ประสบความสำเร็จ

3.5.3. ฉันอยากมีเวลาเล่นเกมทุกวัน

3.5.4. 2 เป้าหมายนี้ขัดแย้งกันเองและเป็นไปไม่ได้ที่จะทำสำเร็จในเวลาเดียวกัน

3.6. ต้องมีความสมดุล

3.6.1. เป้าหมายต้องมีความสมดุลกันระหว่างด้านการงาน การเงิน ครอบครัว สุขภาพ และสังคมที่เราอยู่

3.6.2. Ex # เป้าหมายการเงินกับเป้าหมายส่วนตัว

3.6.2.1. เป้าหมายการเงินคือ คุณจะรับงานฟรีแลนซ์เพิ่มขึ้นเพื่อสร้างรายได้ให้มากขึ้น

3.6.2.2. เป้าหมายส่วนตัวคือ คุณอยากมีเวลาให้ครอบครัวมากขึ้นกว่าเดิม

3.6.2.3. Q # 2 เป้าหมายนี้ขัดแย้งกันหรือไม่?

3.7. ต้องมีเป้าหมายไปในทางเดียวกับความฝันสูงสุดในชีวิตคุณ

3.7.1. เราจะมีเป้าหมาย 3 กรอบเวลาด้วยกันคือ

3.7.1.1. เป้าหมายระยะสั้น

3.7.1.2. เป้าหมายระยะกลาง

3.7.1.3. เป้าหมายระยะยาว

3.7.2. ทุกเป้าหมายต้องเดินไปในทิศทางเดียวกันกับความฝันสูงสุดในชีวิต ไม่เช่นนั้นเราจะเสียเวลากับการทำให้เป้าหมายของคนอื่นสำเร็จแทน

4. ก้าวหน้าในชีวิตมากขึ้นด้วยการตั้งเป้าหมาย

4.1. การตั้งเป้าหมายคือการกำหนดเส้นชัยให้ชีวิต

4.1.1. ถ้าขับรถโดยไม่มีเป้าหมาย ต่อให้ขับนานเท่าไหร่เราก็ไปไม่ถึงที่หมายสักที

4.1.2. ต่อให้รู้ว่าจะขับรถไปที่ไหน แต่ถ้าเป้าหมายนั้นไม่ชัดเจน ก็เหมือนเราขับรถบนถนนที่เราไม่รู้จักจนเราหลงทาง

4.1.3. การตั้งเป้าหมายให้ชัดเจนจะช่วยให้เรามองเห็นเส้นทางไปสู่เส้นชัยของเรา แล้วจากนั้นเราจะค่อยหาเส้นทางที่ดีที่สุดไปสู่จุดหมายนั้นต่อไป

4.1.4. การตั้งเป้าหมายจึงช่วยให้เรารู้ว่าเราจะทำงานสำเร็จได้อย่างไร เมื่อไหร่ และสำเร็จออกมาแบบไหน

4.2. ทำไมคนส่วนใหญ่ถึงไม่ตั้งเป้าหมาย?

4.2.1. คิดว่าการตั้งเป้าหมายไม่สำคัญ

4.2.2. ไม่รู้ว่าจะตั้งเป้าหมายอย่างไร

4.2.2.1. ถ้าแย่กว่านั้นก็คือ คนส่วนใหญ่เข้าใจไปเองว่าสิ่งที่มีอยู่คือเป้าหมายแล้ว

4.2.2.2. ทั้งที่จริงแล้วมันเป็นได้แค่ "ความฝัน" เช่น

4.2.2.2.1. ฉันอยากมีความสุข

4.2.2.2.2. ฉันอยากมีครอบครัวที่ดี

4.2.3. กลัวความล้มเหลว

4.2.4. กลัวถูกมองไม่ดีจากคนรอบข้าง

4.3. คนที่ประสบความสำเร็จคือคนที่คิดถึงเป้าหมายตลอดเวลา

4.3.1. ทุกสิ่งในชีวิตเราล้วนมีจุดเริ่มต้นมาจากความคิด ความฝัน หรือความหวัง

4.3.2. คนที่ประสบความสำเร็จจะคิดอยู่เสมอว่า...

4.3.2.1. ความฝันของฉันคืออะไร เป้าหมายของฉันคืออะไร ฉันอยากได้อะไร

4.3.2.2. แล้วจากนั้นพวกเขาก็จะคิดต่อว่า แล้วต้องทำอะไร อย่างไร ความฝันหรือเป้าหมายนั้นถึงจะเป็นจริง

4.4. คนที่ประสบความสำเร็จคือคนที่รู้จักควบคุมตัวเอง

4.4.1. หลายคนมักเชื่อว่าชีวิตของพวกเขาถูกสถานการณ์รอบตัวควบคุม

4.4.2. แต่ความจริงแล้ว เราคือคนที่ควบคุมชีวิตของตัวเอง ทุกอย่างที่เกิดขึ้นเป็นผลมาจากทุกอย่างที่เราทำ

4.4.3. อุปสรรคใหญ่ที่สุดที่คอยขวางไม่ให้เราประสบความสำเร็จก็คือ ความรู้สึกด้านลบ

4.4.3.1. ความกลัว

4.4.3.2. ความเห็นแก่ตัว

4.4.3.3. ความอิจฉาริษยา

4.4.3.4. ความโลภ

4.4.4. คนที่จะประสบความสำเร็จได้จึงเป็นคนที่ควบคุมความรู้สึกด้านลบนี้ได้ วิธีก็คือ...

4.4.4.1. รู้จักยอมรับความพ่ายแพ้และใช้มันเป็นบทเรียน

4.4.4.2. หยุดหาเหตุผลใดๆ มาเข้าข้างตัวเอง

4.4.4.3. หยุดใช้ชีวิตตามที่คนอื่นอยากให้เป็น แล้วจงเป็นตัวของตัวเอง

4.4.4.4. รับผิดชอบชีวิตของตัวเอง คิดและตัดสินใจเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับตัวเอง

5. วิธีตั้งเป้าหมายให้ทำตามได้ง่ายและสำเร็จเร็วขึ้น

5.1. 1 # ค้นหาความปรารถนาในใจว่า "สิ่งที่ฉันต้องการจริงๆ คืออะไร?"

5.1.1. นี่คือสิ่งที่เราต้องการจริงๆ ไม่ใช่คนอื่นต้องการ

5.1.2. คำถามสำคัญที่เราต้องตอบตัวเองให้ได้ คือ...

5.1.2.1. สิ่งที่ฉันอยากจะทำจริงๆ ในชีวิตนี้คืออะไร?

5.1.2.2. ถ้าฉันสามารถทำได้แค่เป้าหมายเดียวในชีวิตนี้ให้สำเร็จ เป้าหมายนั้นคืออะไร?

5.2. 2 # จงเชื่อมั่นว่าเป้าหมายนั้นทำสำเร็จได้จริง

5.2.1. ความเชื่อมั่นจะช่วยให้เราอดทนมากขึ้นและตั้งใจมากขึ้น

5.2.2. แต่เป้าหมายนั้นต้องเป็นเป้าหมายที่เราสามารถเอื้อมถึงได้จริงด้วย

5.2.3. ฉันจะหนีจากความยากจนแล้วมีอิสรภาพทางการเงินใน 1 ปี

5.2.3.1. = เป้าหมายที่ทำให้เราพ่ายแพ้เพราะมันไกลเกินเอื้อม

5.2.4. เราต้องตั้งเป้าหมายที่เอื้อมถึงได้จริง

5.2.4.1. เชื่อมั่นว่าจะทำมันสำเร็จได้

5.2.4.1.1. ลงมือทำให้สำเร็จ

5.3. 3 # เขียนเป้าหมายออกมา

5.3.1. เป้าหมายที่ยังไม่ถูกเขียนออกมาจะเป็นแค่ความคิดในใจ มันยังไม่ใช่เป้าหมายที่สมบูรณ์

5.3.2. หลังเขียนเสร็จ เราควรนำเป้าหมายนั้นไปอยู่ตามจุดที่เรามองเห็นได้ง่ายๆ เพื่อคอยย้ำเตือนอยู่เสมอ เช่น

5.3.2.1. แปะไว้ที่ผนังห้องทำงาน ตู้เย็น หรือห้องแต่งตัว

5.3.2.2. ถ้าเขียนใส่สมุดก็เอาใส่กระเป๋าติดตัวไว้ทุกวัน

5.3.3. เราควรเขียนและปรับแก้เป้าหมายนั้นทุกวัน เพื่อช่วยให้เป้าหมายของเราฝังลึกลงไปในจิตใต้สำนึก

5.4. 4 # กำหนดจุดเริ่มต้น

5.4.1. เราต้องซื่อสัตย์ต่อตัวเองในการกำหนดจุดเริ่มต้นนี้ เป้าหมายนั้นถึงจะทำได้จริง

5.4.2. แจ็ค เวลช์ ซีอีโอชื่อดังกล่าวไว้ว่า "คุณสมบัติสำคัญของคนที่เป็นผู้นำคือ มองเห็นความจริง เราต้องมองโลกจากความเป็นจริงไม่ใช่จากสิ่งที่เราอยากให้เป็น"

5.4.3. Ex # เป้าหมายด้านการลดน้ำหนัก

5.4.3.1. คุณต้องชั่งน้ำหนักตัวเองตอนนี้ แล้วใช้เป็นจุดเริ่มต้น

5.4.4. Ex # เป้าหมายด้านการเงิน

5.4.4.1. คุณต้องตรวจสอบสถานะการเงินจริงๆ ในตอนนี้

5.4.4.1.1. รายรับต่อเดือนมีเท่าไหร่?

5.4.4.1.2. รายจ่ายต่อเดือนมีเท่าไหร่?

5.4.4.1.3. หนี้สินมีเท่าไหร่?

5.5. 5 # ค้นหาเหตุผลว่า "ทำไมถึงอยากทำเป้าหมายนี้?"

5.5.1. เหตุผลก็เปรียบเหมือนเชื้อเพลิงที่คอยเติมแรงจูงใจให้เราอยากลงมือทำเป้าหมายนั้น

5.5.2. ยิ่งหาเหตุผลได้มากเท่าไหร่ มันยิ่งช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นให้คุณได้มากเท่านั้น

5.6. 6 # สร้างเส้นตาย

5.6.1. ถ้าเป้าหมายของเราใหญ่มาก ให้แบ่งเส้นตายออกเป็น "เส้นตายย่อย"

5.6.2. เส้นตายคือปี ให้ย่อยเป็น

5.6.2.1. เดือน = เดือนนี้ต้องทำอะไรให้เสร็จบ้าง?

5.6.2.2. สัปดาห์ = สัปดาห์นี้ต้องทำอะไรให้เสร็จบ้าง?

5.6.2.3. วัน = แต่ละวันต้องทำอะไรให้เสร็จบ้าง?

5.7. 7 # ระบุอุปสรรคที่คอยขวางทาง

5.7.1. ก่อนเราจะคิดถึงสิ่งอื่นรอบตัว ให้ลองย้อนกลับมาถามตัวเองก่อนว่า...

5.7.2. สิ่งใดในตัวฉันที่ขวางไม่ให้ไปถึงเป้าหมายนี้?

5.7.3. ส่วนใหญ่แล้วอุปสรรคที่ขวางเราอยู่ก็คือ "ตัวเอง" เราเก่งพอหรือยัง? เรามีนิสัยที่ดีพอหรือยัง?

5.8. 8 # ค้นหาว่าความรู้ ข้อมูล หรือทักษะอะไรที่เราจำเป็นต้องมี

5.8.1. เราโชคดีมากที่อยู่ในยุคที่หาความรู้ใส่ตัวได้ง่ายมาก

5.8.2. ทุกเป้าหมายจะมีสิ่งใหม่ๆ รอให้เราได้เรียนรู้ ดังนั้นจงถามตัวเองว่า...

5.8.2.1. ถ้าฉันอยากออกแบบเสื้อผ้าเก่ง ทักษะสำคัญอย่างเดียวที่ฉันต้องมีคืออะไร?

5.8.2.2. ถ้าฉันอยากทำธุรกิจร้านกาแฟให้สำเร็จ ทักษะสำคัญอย่างเดียวที่ฉันต้องมีคืออะไร?

5.8.2.3. เมื่อได้คำตอบแล้ว ให้วางแผนพัฒนาทักษะนั้นจนกระทั่งเราเชี่ยวชาญมัน

5.9. 9 # ค้นหาคนที่จะมาร่วมมือหรือช่วยเหลือเรา

5.9.1. ลองเริ่มจากคนใกล้ตัว เช่น ครอบครัว หัวหน้า หรือเพื่อนร่วมงาน

5.9.2. แล้วค่อยกระจายไปคนอื่นๆ เช่น ลูกค้าที่รู้จัก พนักงานธนาคารที่รู้จัก เป็นต้น

5.9.3. ยิ่งเราพัฒนาความสัมพันธ์ได้ดีและมากเท่าไหร่ เราก็มีโอกาสทำเป้าหมายให้สำเร็จเร็วขึ้นเท่านั้น

5.10. 10 # วางแผน

5.10.1. จัดการวางแผนงานทั้งหมดที่คุณต้องทำให้สำเร็จถึงจะบรรลุเป้าหมายนั้นได้

5.10.2. เราต้องนำสิ่งที่คิดไว้ในขั้นตอนก่อนๆ ทั้งจุดเริ่มต้น เหตุผล คน อุปสรรค ทักษะที่ต้องเรียนรู้ เส้นตาย มารวมอยู่ในแผนของเราด้วย

5.10.3. จากนั้นค่อยสร้างลิสต์งานที่ต้องทำตามลำดับเวลาและความสำคัญ

5.10.3.1. สิ่งแรกที่ต้องลงมือทำคืออะไร

5.10.3.2. สิ่งที่สองที่ต้องลงมือทำคืออะไร

5.10.3.3. งานไหนสำคัญมาก งานไหนสำคัญน้อย

5.10.3.4. งานไหนที่ต้องทำเสร็จก่อนถึงจะทำตัวต่อไปได้

5.10.4. บิงโกขอแนะนำหนังสือ Eat That Frog ที่จะสอนให้เราเอาชนะนิสัยผัดวันประกันพรุ่งด้วยเทคนิคการทำงานในรูปแบบต่างๆ

5.10.4.1. จัดลำดับความสำคัญของงานด้วยเทคนิค ABCDE

5.11. 11 # จินตนาการเป้าหมายนั้นทุกวัน

5.11.1. ลองจินตนาการถึงภาพตัวเองตอนทำเป้าหมายนั้นสำเร็จ จินตนาการถึงความรู้สึกในตอนนั้น และทำซ้ำๆ ไปเรื่อยๆ

5.11.2. นอกจากการเขียนเป้าหมายออกมาจะเป็นวิธีช่วยย้ำเป้าหมายนั้นไปถึงจิตใต้สำนึกแล้ว การจินตนาการถึงเป้าหมายนั้นทุกวันก็ใช้ได้ผลเช่นกัน

5.12. 12 # ทำต่อไป อย่ายอมแพ้!!

5.12.1. จงใช้ความอดทนและความมุ่งมั่นทำเป้าหมายนั้นให้สำเร็จ

5.12.2. จิตใจที่ไม่ยอมแพ้นี้จะช่วยให้เราพร้อมสู้กับปัญหาและอุปสรรคที่กำลังจะมาถึงได้

6. วิธีสร้างแรงจูงใจในการทำงานให้บรรลุเป้าหมาย

6.1. สร้างความรู้สึกว่าตัวเองทำงานเสร็จ

6.1.1. เมื่อเราทำอะไรสักอย่างสำเร็จ สมองจะหลั่งสารเอ็นโดรฟินออกมาให้เรารู้สึกดี ซึ่งเราเสพติดความรู้สึกแบบนี้

6.1.2. ดังนั้นต่อให้เราจะเจองานชิ้นใหญ่แค่ไหน ถ้าเราอยากเสพติดความรุ้สึกว่าเราทำงานเสร็จ เราก็ต้อง...

6.1.2.1. ย่อยขั้นตอนการทำงานที่เล็กที่สุด

6.1.2.1.1. Ex # เป้าหมายคือการเขียนหนังสือ 1 เล่ม

6.1.2.1.2. ถ้ามีคนถามว่าเราจะกินช้างได้อย่างไร คำตอบก็คือ "กัดทีละคำ"

6.1.2.2. พอทำเสร็จ ก็ทำสัญลักษณ์ให้รู้ว่า "เสร็จแล้ว!"

6.1.2.2.1. Ex # การทำเช็คลิสต์

6.1.3. เทคนิคช่วยกระตุ้นให้รู้สึกว่า "ทำงานเสร็จ"

6.1.3.1. ใช้เช็คลิสต์

6.1.3.1.1. พอทำอะไรในลิสต์เสร็จก็ทำเครื่องหมายไว้

6.1.3.2. ใช้การจับเวลา

6.1.3.2.1. ลองจับเวลา 20 นาที แล้วลงมือทำงานให้เสร็จทันเวลาที่ตั้งไว้

6.1.3.3. ขีดฆ่าลงปฏิทินหรือตารางงาน

6.2. ทำให้ตัวเองมองเห็นความคืบหน้าของงาน

6.2.1. คนเราจะมีแรงจูงใจเพิ่มขึ้นเมื่อเป้าหมายที่ตั้งไว้ "คืบหน้า" ดังนั้นเราต้องหาวิธีให้ตัวเองรู้ว่า "ตอนนี้งานคืบหน้าไปถึงไหนแล้ว?"

6.2.2. 2 วิธีแนะนำสำหรับวัดความคืบหน้าของงาน

6.2.2.1. วัดผลโดยใช้เกณฑ์เดียว

6.2.2.1.1. อย่ามีหลายเกณฑ์ เพราะมันจะทำให้เราสับสนว่าจะเลือกใช้ตัวไหนกันแน่

6.2.2.2. วัดผลจาก "ความพยายาม" ที่ทำลงไป

6.2.2.2.1. เลือกจากการทำงานที่สำคัญที่สุดที่ส่งผลให้เราบรรลุเป้าหมายนั้น

6.2.2.3. Ex # Youtube channel

6.2.2.3.1. คุณกำลังสร้าง youtube channel คุณสามารถวัดความคืบหน้าได้โดย

6.2.2.3.2. วัดผลโดยใช้เกณฑ์เดียว

6.2.2.3.3. วัดผลจาก "ความพยายาม" ที่ทำลงไป

6.3. ใช้พลังของการจินตนาการถึงเป้าหมาย

6.3.1. คิดถึงเป้าหมายนั้นอยู่เสมอ แล้วพยายามหาวิธีทำเป้าหมายนั้นให้เป็นจริง

6.3.1.1. Ex # วอลต์ ดิสนีย์

6.3.1.1.1. ตั้งแต่สมัยที่ดิสนีย์เขียนการ์ตูน เขาฝันอยากสร้างสวนสนุกตัวการ์ตูนเสมอ

6.3.1.1.2. เขานึกถึงสวนสนุกที่ครอบครัวอยากมาใช้เวลาสนุกสนานไปด้วยกัน สวนสนุกที่เป็นมิตรกับทุกคน

6.3.2. 4 คำถามสำคัญสู่การใช้พลังของการจินตนาการถึงเป้าหมายให้เต็มที่

6.3.2.1. คุณจินตนาการถึงเป้าหมายบ่อยแค่ไหน?

6.3.2.2. คุณจินตนาการถึงเป้าหมายนานแค่ไหน?

6.3.2.3. คุณจินตนาการถึงเป้าหมายชัดเจนแค่ไหน?

6.3.2.4. คุณจินตนาการถึงเป้าหมายเข้มข้นแค่ไหน?

7. ตัวอย่างการตั้งเป้าหมายด้านการเงิน

7.1. 1 # ค้นหาความปรารถนาในใจว่า "สิ่งที่ฉันต้องการจริงๆ คืออะไร?"

7.1.1. ฉันจะตั้งเป้าหมายแยกเป็น 3 ระยะดังนี้

7.1.1.1. เป้าหมายระยะสั้น - ฉันจะใช้จ่ายไม่เกินรายรับและจะเคลียร์หนี้ทั้งหมด

7.1.1.2. เป้าหมายระยะกลาง - ฉันจะแบ่งเงิน 20% จากรายได้มาใช้ในการลงทุน ซื้อบ้านหลังใหม่ และสำรองไว้ตอนมีลูก

7.1.1.3. เป้าหมายระยะยาว - ฉันจะสร้างรายได้จากอสังหาริมทรัพย์และมีอิสรภาพทางการเงิน

7.2. 2 # จงเชื่อมั่นว่าเป้าหมายนั้นทำสำเร็จได้จริง

7.2.1. ฉันจะเพิ่มรายได้จากเดิมอีก 20-30% ภายใน 12 เดือนข้างหน้านี้

7.2.2. ฉันจะมีรายได้เป็น 2 เท่าภายใน 3 เดือนข้างหน้า

7.2.2.1. นี่เป็นเป้าหมายที่เกินจริงและไม่ตรงกับทักษะและความสามารถของเราตอนนี้

7.3. 3 # เขียนเป้าหมายออกมา

7.4. 4 # กำหนดจุดเริ่มต้น

7.4.1. สำรวจสภาพการเงินตอนนี้ของคุณให้ได้ครบถ้วน ลองจินตนาการถึงตอนที่คุณต้องย้ายบ้านไปอยู่ต่างเมืองหรือต่างประเทศ

7.4.2. ตอนนี้คุณมีเงินสดติดตัวอยู่เท่าไหร่?

7.4.3. ตอนนี้คุณมีทรัพย์สินเป็นของตัวเองเท่าไหร่?

7.5. 5 # ค้นหาเหตุผลว่า "ทำไมถึงอยากทำเป้าหมายนี้?"

7.5.1. ยิ่งคุณหาเหตุผลให้ตัวเองได้มาก คุณก็ยิ่งกล้าที่จะออกจาก comfort zone กล้าที่จะเสี่ยง และก้าวไปข้างหน้ามากขึ้น

7.5.2. ลองลิสต์เหตุผลต่างๆ ออกมาในหน้ากระดาษเหมือนตอนเขียนเป้าหมายด้วย

7.6. 6 # สร้างเส้นตาย

7.6.1. จากเป้าหมายทั้ง 3 ระยะในตอนแรก

7.6.1.1. เป้าหมายระยะสั้น - ฉันจะใช้จ่ายไม่เกินรายรับและจะเคลียร์หนี้ทั้งหมด

7.6.1.1.1. เคลียร์หนี้สินภายใน 1 ปี

7.6.1.2. เป้าหมายระยะกลาง - ฉันจะแบ่งเงิน 20% จากรายได้มาใช้ในการลงทุน ซื้อบ้านหลังใหม่ และสำรองไว้ตอนมีลูก

7.6.1.2.1. เริ่มลงทุนและเก็บเงินไว้ให้ลูกตั้งแต่ปลดหนี้ ซื้อบ้านในอีก 10 ปีข้างหน้า

7.6.1.3. เป้าหมายระยะยาว - ฉันจะสร้างรายได้จากอสังหาริมทรัพย์และมีอิสรภาพทางการเงิน

7.6.1.3.1. ภายใน 20 ปี

7.7. 7 # ระบุอุปสรรคที่คอยขวางทาง

7.7.1. ฉันขาดความรู้หรือทักษะอะไรหรือไม่?

7.7.2. ฉันขาดนิสัยหรือวินัยอะไรหรือไม่?

7.8. 8 # ค้นหาว่าความรู้ ข้อมูล หรือทักษะอะไรที่เราจำเป็นต้องมี

7.8.1. ถามตัวเองว่า ทักษะอะไรที่สำคัญที่สุด?

7.8.2. ถ้าคำตอบเป็น "การหาเงิน"

7.8.2.1. ลองมองไปรอบตัวว่าคนที่หาเงินเก่ง เขาทำอย่างไร?

7.8.2.2. ฉันแตกต่างกับคนเหล่านั้นตรงไหน?

7.8.2.3. ทักษะอะไรที่พวกเขามี แต่ฉันยังไม่มี

7.9. 9 # ค้นหาคนที่จะมาร่วมมือหรือช่วยเหลือเรา

7.9.1. ถ้าคุณอยากประสบความสำเร็จ คุณจำเป็นต้องมีความช่วยเหลือจากคนอื่น

7.9.2. ถ้าคุณอยากให้คนอื่นช่วย คุณก็ต้องรู้ก่อนว่าแล้วเขาจะได้ประโยชน์อะไรจากคุณบ้าง?

7.9.3. ถ้าคุณอยากได้ความช่วยเหลือและสนับสนุนจากคนในครอบครัวว่าคุณต้องการเวลาสำหรับทำงานหนัก ส่วนทุกคนก็ต้องช่วยกันประหยัด

7.9.3.1. อธิบายเหตุผลกับพวกเขา

7.9.3.2. เล่าถึงประโยชน์ที่พวกเขาจะได้รับ

7.9.3.3. หารางวัลตอบแทนเมื่อทำเป้าหมายสำเร็จ เช่น ทริปท่องเที่ยว

7.10. 10 # วางแผน

7.10.1. จัดลำดับงาน โดยลงมือทำงานที่สำคัญที่สุดก่อนเสมอ

7.10.2. อย่าลืมย่อยเป้าหมายใหญ่ๆ ให้เล็กลง ยิ่งเล็กลงได้เท่าไหร่ เราก็ยิ่งทำมันได้ง่ายขึ้นเท่านั้น

7.11. 11 # จินตนาการเป้าหมายนั้นทุกวัน

7.11.1. จินตนาการถึงภาพตัวคุณและครอบครัวเมื่อคุณมีอิสรภาพในการเงินในอีก 20 ปีข้างหน้า

7.11.2. จินตนาการถึงภาพตัวเองเมื่อเคลียร์หนี้สินทั้งหมดได้ภายใน 1 ปี

7.12. 12 # ทำต่อไป อย่ายอมแพ้!!