1. แนวคิดและทฤษฎีเกี่ยวกับการสร้างเสริมสุขภาพ
1.1. แนวคิดพฤฒพลัง(active aging)
1.1.1. สุขภาพ
1.1.2. การมีส่วนร่วม
1.1.3. หลักประกันและความมั่นคง
1.2. ทฤษฎีบทบาทสัง(role theory)
1.2.1. อายุเป็นองค์ประกอบในการกำหนดบทบาทของแต่ละบุคคล
1.3. ทฤษฎีการสร้างเสริมพลังอำนาจ(theory of empowerment)
1.3.1. บุคคลมีพลังในตนเอง สามารถวิเคราะห์ปัญหา เลือกวิธีการแก้ไขปัฃฃฃฃยหาสุขภาพเพื่อความเป็นอยู่ที่ดีของตน
1.4. ทฤษฎีความสามารถของตนเอง(the theory of self-efficary
1.4.1. ประสบการณ์ที่ปฏิบัติและประสบความสำเร็จ
1.4.2. การเห็นตัวแบบหรือประสบการของผู้อ่าน
1.4.3. การพูดชักจูง
1.4.4. สภาวะทางด้านร่างกายและอารมณ์
2. บทบาทพยาบาลในการสร้างเสริมสุขภาพ
2.1. ประเมินสุภาพของผู้สูงอายุ
2.2. ให้คำปรึกษา
2.3. สอนและให้ความรู้เกี่ยวกับการสร้างเสริมสุขภาพ
2.4. สร้างคุณค่าและแรงจูงใจ
2.5. ประสานความร่วมมือระหว่างทีมสุขภาพกับหน่วยงานรัฐและประชาชน
2.6. สร้างสัมพันธภาพ
3. กลวิธีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ
3.1. การสอนสุขภาพ(health education)
3.1.1. การประเมิน รวบรวมข้อมูล
3.1.2. พยาบาลและผู้สูงอายุร่วมกันวินิจฉัยปัญหาสุขภาพ
3.1.3. วางแผนกำหนดเป้าหมาย วางแผนให้ความรู้ ปรับเปลี่ยนความเชื่อ
3.1.4. การปฏิบัติกิจกรรมการเรียนรู้ตามแผนกำหนด
3.1.5. รวบรวมข้อมูลเพื่อประเมินผลการเรียนรู้
3.2. การเสริมสร้างการรับรู้ความสามารถตนเอง
3.2.1. ประสบการณ์ที่ปฏิบัติและประสบความสำคัญ
3.2.2. การเห็นตัวแบบหรือประสบการณ์ของผู้อื่น
3.2.3. การพูดชักจูง
3.2.4. สภาวะทางด้านร่างกายและอารมณ์
4. พฤติกรรมเสี่ยงที่เป็นอันตรายต่อภาวะสุขภาพ
4.1. การเคลื่อนไหวออกแรงและออกกำลังกายลดลง
4.2. บริโภคอาหารที่ไม่เหมาะสม
4.3. การจัดการความเครียดไม่เหมาะสม
4.4. ความรับผิดชอบต่อสุขภาพไม่เหมาะสม
5. ปัจจัยเกี่ยวข้องกับพฤติกรรมสุขภาพ
5.1. ปัจจัยด้านกระบวนการความชราและปัญหาสุขภาพ
5.2. ปัจจัยด้านสังคมที่เกี่ยวข้องหรือนโยบายสวัสดิการสังคม
6. ปัญหาสุขภาพและพฤติกรรมเสี่ยง
6.1. การเปลี่ยนแปลงอันเนื่องมาจากความชราที่มีผลต่อปัญหาสุขภาพ
6.1.1. การเปลี่ยนแปลงด้านจิตสังคม
6.1.1.1. ปัญหาความเจ็บป่วยเรื้อรัง
6.1.1.2. การปลดเกษียณหรือการออกจากงาน
6.1.1.3. การเปลี่ยนแปลงทางครอบครัวและสังคม
6.1.1.4. การเปลี่ยนแปลงทางเศรฐกิจสังคมและวัฒนธรรม
6.1.2. การเปลี่ยนแปลงด้านร่างกายทางกายวิภาคและสรีรวิทยาา
6.1.2.1. ผิวหนัง
6.1.2.1.1. แห้ง คันและแตกง่าย ตกกระ
6.1.2.2. กล้ามเนื้อ กระดูกและข้อ
6.1.2.2.1. ความแรงในการหดตัวและขนาดของกล้ามเนื้อลดลงมวลกระดูกลดลง โรคกระดูกพรุน โรคข้อเสื่อม
6.1.2.3. หัวใจและหลอดเลือด
6.1.2.3.1. อัตราการการเต้นหัวใจสูงสุดลดลง หน้าที่ของกล้ามเนื้อหัวใจ โลหิตต่ำจากการเปลี่ยนท่า วูบ หมดสติ ภาวะหัวใจวาย
6.1.2.4. ทางเดินหายใจ
6.1.2.4.1. น้ำหนักสมองลดลง กระตือรื้อร้นน้อยลง การเคลื่อนไหวและความคิดเชื่องช้า
6.1.2.4.2. พื้นที่สำหรับการแลกเปลี่ยนก๊าซลดลง เหนื่อยง่าย
6.1.2.5. ทางเดินอาหาร
6.1.2.5.1. ฟันหัก ฟันเปราะ ฟันผุง่าย ใส่ฟันเปราะ
6.1.2.6. ระบบประสาท
6.1.2.7. ระบบภูมิคุ้มกัน
6.1.2.7.1. มีปัญหาการติดเชื้อง่าย
6.1.2.8. ระบบขับถ่ายและระบบสืบพันธุ์
6.1.2.8.1. รังไข่ฝ่อเล็กลง ลำไส้มีการเคลื่อนไหวลดลง
6.1.2.9. ระบบต่อมไร้ท่อ
6.1.2.9.1. เกิดโรคเบาหวานได้
6.1.2.10. ระบบประสาทสัมผัส
6.1.2.10.1. หนังตาตก ตาเริ่มขุ่นมัว ลานสายตาแคบลง เกิดต้อกระจก สายตายาว
7. ปัญหาสุขภาพ
7.1. ปัญหาการเดินและการทรงตัว
7.2. ภาวะขาดสารอาหาร
7.3. ภาวะไขมันในเลือดผิดปกติ
7.4. ปัญหาการนอนหลับ
7.5. โรคกระดูกพรุน
7.6. โรคความดันโลหิตสูง
7.7. โรคเบาหวาน
7.8. ภาวะซึมเศร้า
7.9. ภาวะสมองเสื่อม
8. กลวิธีสร้างแรงจูงใจร่วมกับการพัฒนาทักษะ
8.1. การสอนสุขศึกษา(health education)
8.1.1. ขั้นตอนที่1การประเมิน รวบรวมข้อมูล
8.1.2. ขั้นตอนที่2พยาบาลและผู้สูงอายุร่วมกันวินิจฉัยปัญหาสุขภาพ
8.1.3. ขั้นตอนที่3วางแผน กำหนดปัญหา วางแผนให้ความรู้ ปรับเปลี่ยนตวามเชื่อ ตลอดจนการประเมินผล
8.1.4. ขั้นตอนที่4การปฏิบัติกิจกรรมการเรียนรู้ตามแผนกำหนด
8.1.5. ขั้นตอนที่5รวบรวมข้อมูลประเมินผลการเรียนรู้
8.2. การสร้างเสริมการรับรู้ความสามารถตนเอง
8.2.1. ประสบการณ์ที่ปฏิบัติและประสบความสำเร็จ
8.2.2. การเห็นตัวแบบหรือประสบการณ์ของผู้อื่น
8.2.3. การชักจูง
8.2.4. สภาวะทางด้านร่างกายและอารมณ์
8.3. การสร้างเสริมพลังอำนาจ(empowerment)
8.3.1. ระบุปัญหาหรือประเด็นสุขภาพที่ผ่านมา
8.3.2. ให้ผู้สูงอายุแสดงความรู้สึกและอธิบายปัญหาสุขภาพที่เกิดขึ้น
8.3.3. วางแผนการแก้ไขปัญหา
8.3.4. สร้างพันธสัญญาการปฏิบัติตามแผนที่กำหนด