มาตรฐานการเชื่อมต่อและสถาปัตยกรรมเครือข่าย

Jetzt loslegen. Gratis!
oder registrieren mit Ihrer E-Mail-Adresse
มาตรฐานการเชื่อมต่อและสถาปัตยกรรมเครือข่าย von Mind Map: มาตรฐานการเชื่อมต่อและสถาปัตยกรรมเครือข่าย

1. แบบอ้างอิง OSI (OSI Reference model)

1.1. เป็นแบบจำลองที่อธิบายถึงโครงสร้างการทำงานของเครือข่ายคอมพิวเตอร์ ที่แบ่งออกเป็น 7 เลเยอร์ที่ทำหน้าที่แตกต่างกัน

1.1.1. Layer 1:Physical Layer เป็นเลเยอร์ล่างสุดสําหรับ จัดเตรียมอุปกรณ์ เกี่ยวกับระบบไฟฟ้า และกลไก การทํางานใน การเชื่อมต่อของระบบเครือข่าย

1.1.2. Layer 2: Data Link Layer เป็นเลเยอร์สำหรับการจัดเตรียมหน้าที่ และ กระบวนการในการส่งผ่านข้อมูลระหว่างเครือข่าย และตรวจสอบความผิดพลาดใน Layer1

1.1.3. Layer 3: Network Layer เป็นเลเยอร์ที่จัดเตรียมหน้าที่และกระบวนการในการส่งข้อมูลจากต้นทาง ไปยังปลายทาง ภายในเครือข่าย

1.1.4. Layer 4: Transport Layer เป็นเลเยอร์ที่ทํา หน้าที่จัดเตรียมการส่งผ่านข้อมูล ระหว่างผู้ใช้งาน และจัดเตรียมข้อมูลที่เชื่อถือได้ ให้กับเลเยอร์ถัดไป

1.1.5. Layer 5: Session Layer เป็นเลเยอร์ที่ควบคุมเซสชั่นการเชื่อมต่อระหว่างเครื่องคอมพิวเตอร์ในเครือข่าย จัดการการสื่อสาร ระหว่างกัน โดยมีกระบวนการสร้างจุดตรวจสอบ การเคลื่อนย้ายเซสชั่น การจัดการ และการเริ่มต้นเซสชั่นใหม่

1.1.6. Layer 6: Presentation Layer เป็นเลเยอร์สํา หรับจัดเตรียมการรับและจัด โครงสร้างของข้อมูล เพื่อส่งต่อให้เลเยอร์ถัดไป โดยอาจมีการแปลข้อความที่ได้เป็นโค้ด หรือมีการ เข้ารหัส/ถอดรหัสข้อมูลตามคําสั่งที่ได้รับ

1.1.7. Layer 7: Application Layer เป็นเลเยอร์ชั้นบนสุด ซึ่งเป็นการจัดเตรียมแอปฟลิเคชันไว้ ให้คอยบริการใช้งาน รูปแบบต่างๆบนเครือข่าย

2. การแบ่งกลุ่มของเลเยอร์

2.1. แบ่งออกเป็น 2 กลุ่มตามลักษณะ ได้แก่

2.1.1. 1. Application-oriented Layers คือ เลเยอร์ ที่ 7, 6, 5 และ 4 ทําหน้าที่ เชื่อมต่อรับส่งข้อมูลระหว่าง ผู้ใช้ กับโปรแกรมประยุกต์ เกี่ยวข้องกับซอฟต์แวร์เป็นหลัก

2.1.2. 2.Network-dependent Layers คือ เลเยอร์ ที่1,2และ3 ทําหน้าที่เกี่ยวกับการรับส่งข้อมูล ผ่านสายส่ง และควบคุมการรับส่งข้อมูลตรวจ สอบ ข้อผิดพลาดรวมทั้งเลือกเส้นทางที่ใช้ ใน การรับส่งซึ่งจะเกี่ยวข้องกับฮาร์ดแวร์เป็นหลัก

3. หน่วยในการวัดปริมาณการส่งข้อมูล

3.1. ในระบบคอมพิวเตอร์ข้อมูลจะอยู่ในรูปแบบสถานะเปิด(ON)คือค่า 1และสถานะปิด(Off)คือ ค่า 0 โดย 1 สถานะเปิดปิดเราเรียกว่า 1 บิต (Bit) และถ้าเป็น 8 บิต เราเรียกว่า 1 ไบต์(Byte) เมื่อใช้อ้างอิง ความเร็วในการส่งข้อมูล จะเปรียบเทียบกับหน่วยวินาที เช่น 56 Kb/s คือสามารถส่งข้อมูล 56,000 บิตต่อวินาที หรือ 1 Mb/s คือสามารถส่งข้อมูล 1,000,000 บิตต่อวินาที เป็นต้น

4. เทคโนโลยี Wireless LAN

4.1. เครือข่ายแลนไร้สาย หรือ Wireless LAN หรือที่เรียกว่า Wi-Fi (ย่อมาจากคํา ว่า Wireless Fidelity) เป็นการเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์เข้าด้วยกันโดยใช้คลื่นวิทยุแทนการใช้สายในการรับส่ง ข้อมูลทํา ให้สามารถผ่านอากาศ ทะลุกําแพง เพดานหรือสิ่งก่อสร้างอื่นๆเนื่องจากไม่ต้อง เดินสายสัญญาณทํา ให้การเคลื่อนย้ายเครื่องคอมพิวเตอร์นั้นทํา ได้โดยสะดวก(โอภาสเอี่ยม สิริวงศ์และสมโภชน์ชื่นเอี่ยม,2558)

5. มาตรฐานการสื่อสารบนเครือข่ายคอมพิวเตอร์

5.1. มาตารฐานการสื่อสารเป็นข้อกำหนดเพื่อให้เกิดความแน่นอนของการสื่อสาร และยังช่วยให้เกิดข้อกำหนดที่ชัดเจนเกี่ยวกับเงื่อนไขเพื่อเชื่อมต่อเครือข่ายอีกด้วย

6. สถาปัตยกรรมเครือข่ายคอมพิวเตอร์

6.1. แบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลักๆได้แก่

6.1.1. 1.สถาปัตยกรรมเครือข่ายแบบ Peer-to-Peer หรืออาจเรียกว่า เวิร์คกรุ๊ป เครือข่ายแบบนี้จะเก็บไฟล์ และการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ ต่างๆ ไว้ที่เครื่อง คอมพิวเตอร์ของผู้ใช้แต่ละคน แต่สามารถเรียก ใช้ข้อมูลจากเครื่องอื่นได้ถ้ามีการแชร์ข้อมูลนั้นไว้ เหมาะสำหรับ องค์กรเล็กๆ

6.1.2. 2.สถาปัตยกรรมแบบ Cllient Server ระบบนี้จะทํา งานโดยมีเครื่อง Server ที่ให้บริการ เป็นศูนย์กลาง อย่างน้อย 1 เครื่อง และมีการบริหารจัดการทรัพยากร ต่างๆจากส่วนกลาง มีประสิทธิภาพสูง มีเครื่องลูกข่าย ได้เป็นจำนวนมาก

7. มาตรฐาน IEEE

7.1. มาตรฐานของ IEEE เป็นผู้นํา ในการสร้างมาตรฐาน ให้กับแวดวงอุตสาหกรรมต่างๆ อาทิด้าน พลังงาน เวชภัณฑ์ เทคโนโลยีการสื่อสาร และอื่นๆ สําหรับมาตรฐานที่ เกี่ยวข้องกับการสื่อสารข้อมูลที่คุ้นเคย เช่น IEEE 802 ที่ กําหนดมาตรฐานให้กับการเชื่อมต่อเครือข่ายแบบ LAN/MAN โดยมีIEEE 802.3 เป็นมาตรฐานให้กับเทคโนโลยี เครือข่าย Ethernet LAN และมาตรฐาน IEEE802.11 สําหรับเครือข่ายไร้สาย เป็นต้น

8. เทคโนโลยีเครือข่ายคอมพิวเตอร์

8.1. 1.เทคโนโลยีเครือข่ายคอมพิวเตอร์แบบ Ethernet LAN หรือเรียกว่าเครือข่าย แลนแบบมีสาย

8.2. 2. เทคโนโลยีเครือข่ายคอมพิวเตอร์แบบ Wireless LAN หรือเครือข่าย ไร้สายเป็นที่นิยมมากขึ้นในปัจจุบัน เนื่องจากสามารถลดค่าใช้จ่ายใน ส่วนอุปกรณ์ที่ใช้ในการเชื่อมต่อลงได้

9. เทคโนโลยี Ethernet LAN

9.1. เป็นเทคโนโลยีเครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่ได้รับความนิยม เนื่องจากติดตั้งง่ายและค่าใช้จ่ายไม่สูงมากนัก แบ่งเป็น 2 มาตรฐาน คือ

9.1.1. 1. มาตรฐาน Fast Ethernet Fast Ethernet ได้รับการพัฒนาให้สามารถเพิ่มความเร็วในการรับ/ส่งข้อมูลที่ 100 Mbps ซึ่งยังคงเป็นมาตรฐานหลักในปัจจุบัน เหมาะ สำหรับการติดตั้งเครือข่ายคอมพิวเตอร์ภายในบ้าน หรือ สำนักงานขนาดเล็กและขนาดกลาง

9.1.2. 2. มาตรฐาน Gigabit Ethernet เป็นชื่อเรียก เทคโนโลยีเครือข่ายแลน ตามความเร็วใน การรับ/ส่งข้อมูลที่ได้ คือ 1 Gbps (Gigabits per Second) หรือ 1,000 Mbps (Megabits per Second)