INFECTION & INFLAMMATION DISORDERS

Get Started. It's Free
or sign up with your email address
INFECTION & INFLAMMATION DISORDERS by Mind Map: INFECTION & INFLAMMATION DISORDERS

1. Herpes simplex virus

1.1. ติดต่อโดยการสัมผัส

1.2. ติดต่อทางเพศสัมพันธ์

1.3. อาการหลังจากติดเชื้อ 3-7 วัน

1.3.1. มีไข้

1.3.2. อ่อนเพลีย

1.3.3. ไม่สบายตัว

1.3.4. เกิดตุ่มใสเล็กๆ

1.4. HSV1

1.5. HSV2

1.6. การทดสอบ

1.6.1. Tzanck Test

1.6.1.1. นำมีดมาสกิดที่แผล

1.6.1.2. ได้เศษเซลล์จากแผลแล้ว

1.6.1.3. นำไปป้ายใส่ Slide ทดสอบ

1.6.1.4. นำไปย้อมสี

2. OVARAIN TUMORM เนื้องอกรังไข่

2.1. Disorders of Early Pregnancy (ความผิดปกติของการตั้งท้องอ่อนๆ)

2.1.1. 1. Spontaneous Abortion(การแท้งที่เกิดขึ้นเอง)

2.1.2. 2. Ectopic Pregnancy (การตั้งครรภ์นอกมดลูก)

2.1.3. Spontaneous Abortion

2.1.3.1. การสูญเสียการตั้งครรภ์ก่อน 20 สัปดาห์

2.1.3.2. ส่วนใหญ่เกิดขึ้นก่อน 12 สัปดาห์

2.1.3.2.1. ความผิดปกติของมดลูก

2.1.3.2.2. ความผิดปกติของระบบที่มีผลต่อเลือดมารดา

2.1.3.2.3. ปัจจัยต่อมไร้ท่อของมารดา

2.1.3.2.4. ความผิดปกติของโคโมโซมในรก

2.2. Disorders of Late Pregnancy (ความผิดปกติของการตั้งครรภ์ตอนปลาย)

2.2.1. Twin - twin transfusionsyndrome

2.2.2. 1. Twin Placentas

2.2.2.1. Fertilization of two ova→Dizygotic (ไข่ 2 ใบ)

2.2.2.2. Division of one fertilized ovum→Monozygotic (ไข่ใบเดียวแต่มีการแบ่งตัว)

2.2.3. 2. Abnormalities of Placental Implantation

2.2.3.1. ความผิดปกติของการปลูกถ่ายรถ

2.2.3.1.1. รกเกาะต่ำ

2.2.3.1.2. รกฝังลึก

2.2.3.1.3. การติดเชื้อจากรก มีโอกาสติดเชื้อในเลือดจากแม่สู่ลูก

2.2.4. 3. Preeclampsia and Eclampsia

2.2.4.1. ภาวะครรภ์เป็นพิษ

2.2.4.1.1. ความดันสูง

2.2.4.1.2. บวม

2.2.4.1.3. มีโปรตีนรั่วออกมากับปัสสาวะ

2.2.4.2. อาจทำให้ชักและเสียชีวิตได้

2.2.4.3. ไตวาย

2.2.4.4. ปอดบวมน้ำ

2.2.4.4.1. ส่วนมากผู้ป่วยจะเสียชีวิตเพระาภาวะนี้

3. BODY OF UTERUS AND ENDOMETRIUM

3.1. Abnormal Uterine Bleeding

3.1.1. Functional Endometrial Disorders (Dysfunctional Uterine Bleeding)

3.1.1.1. ENDOMETRIOSIS

3.1.1.1.1. Endometriosis and Adenomyosis

3.1.1.2. ADENOMYOSIS

3.1.1.2.1. Endometrial Polyps

3.1.1.2.2. Endometrial Hyperplasia

3.1.1.2.3. ENDOMETRIAL CARCINOMA

3.1.1.2.4. Tumors of the Myometrium

3.1.2. Uterine Leiomyomas

3.1.2.1. เนื้องอกกล้ามเนื้อมดลูก ( ไม่ร้ายแรง )

3.1.2.2. เบียดลำไส้ อุจจาระลำบาก ทำให้ท้องผูก

3.1.2.3. เบียดท่อปัสสาวะ ปัสสาวะไม่ออก ต้องสวนปัสสาวะ

3.1.2.4. ไม่ทำให้เกิดมะเร็ง

4. PATHOLOGIC OF MALE

4.1. Penis (องคชาต)

4.1.1. Congenital Anomalies (ความผิดปกติแต่กำเนิด)

4.1.1.1. Fhimosis (หนังหุ้มปลายtastis

4.1.1.2. การเปิดของท่อปัสสาวะที่ผิดปกติ

4.1.1.2.1. ก่อให้เกิด

4.1.2. Inflammation

4.1.2.1. การอักเสบแบบมีหนอง

4.1.2.2. เกิดจากเชื้อจุลชีพ

4.1.3. Malignant Tumor

4.1.3.1. เป็นSquamous cell

4.1.3.2. สาเหตุ -ไม่สวนล้างอวัยวะเพศ

4.1.3.3. ติดเชื้อHPV type 16&18

4.1.3.4. Smoking

4.1.4. Benign Tumors

4.1.4.1. Condyloma Acuminatum

4.1.4.2. (หูดหงอนไก่)

4.1.4.3. : เกิดจาการติดเชื้อ HPV type 6&11

4.2. Testis (อัณฑะ)

4.2.1. Congenital Anomalies (ความผิดปกติแต่กำเนิด)

4.2.1.1. Crytorchidism

4.2.1.2. (ทองแดง)

4.2.1.3. มีอัณฑะแค่ 1 อัน

4.2.1.4. สร้างอสุจิไม่ได้หรือได้ข้างเดียว

4.2.1.5. เป็นมะเร็งในช่องท้องได้

4.2.2. Testicular Tumors

4.2.2.1. Seminomas (มะเร็งอัณฑะ)

4.2.3. Inflammation

4.2.3.1. เกิดหนองใน

4.2.4. Torsion Testis

4.2.4.1. เกิดจาก vascular disorders

4.3. Prostate (ต่อมลูกหมาก)

4.3.1. Imflammation

4.3.1.1. Chronic bacterial

4.3.1.1.1. ทางเดินปัสสาวะติดเชื้อ แบคทีเรียเรื้อรัง

4.3.1.2. Acute bacterial

4.3.1.2.1. การติดเชื้อเฉียบพลันจากแบคทีเรีย ที่อยู่บริเวณUretha

4.3.2. Benign Prostate Hyperplasia (ต่อมลูกหมากโต) พบในผู้ป่วยอายุมากกว่า 50ปี

4.3.2.1. ทำให้เกิดการกดเบียดและเกิดการอุดกั้นทางเดินปัสสาวะ

4.3.2.1.1. อาการ -ปัสสาวะขัด

4.3.2.1.2. ปัสสาวะกระปริดกระปรอย

4.3.2.1.3. ทำให้เกิดการติดเชื้อแบคทีเรียในทางเดินปัสสาวะและไตได้

5. Vulva

5.1. Bartholin duct cyst

5.1.1. เป็นต่อมอยู่บริเวณแคมเล็ก ขนาด 3-5 ซม. มีหน้าที่สร้างเมือกมาหล่อลื่นช่องคลอด

5.1.2. ภาวะที่ต่อม Bartholin เกิดการอักเสบ เนื่องจากมีการอุดตันของต่อมสร้างเยื่อเมือก เพื่อหล่อลื่นช่องคลอด หรือ Bartholin abcess

5.2. Bartholin abcess

5.2.1. ภาวะต่อม Bartholin อักเสบ บวม และเป็นหนอง เนื่องจากการติดเชื้อ จากเชื้อโรคและ เชื้อแบคทีเรียที่ไปอุดตัน ของ Bartholin duct ภาวะนี้พบได้บ่อยในหญิงวัยเจริญพันธุ์

6. Pathology of female reproductive system

6.1. Overian blood vessls

6.2. Uterine ( fallopain ) tube

6.3. Ovary

6.4. Fundus of uterus

6.5. Lumen ( Cavity ) of uterus

6.6. Uterine tube

6.6.1. Ampulla

6.6.2. Isthmus

6.6.3. Infundibulum

6.6.4. Fimbriae

6.6.4.1. Oocyte

6.7. Oocyte

6.8. Wall of uterus

6.8.1. Endometrium

6.8.2. Myometium

6.8.3. Perimetium

6.9. Cervical canal

6.10. Cervix

6.11. Ureter

6.12. Uterine blood vessels

6.13. Body of uterus

7. Molluscum Contagiosum

7.1. MCV-1

7.1.1. ทำให้เกิดหูดได้ทุกตำแหน่ง

7.2. MCV-2

7.2.1. ทำให้เกิดหูดบริเวณอวัยวะเพศ

7.3. เป็นโรคติดเชื้อทางผิวหนัง

7.4. เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์

8. Endometritis

8.1. เป็นการติดเชื้อที่เยื่อบุโพรงหมดลูก

8.2. Acute endometritis

8.2.1. ส่วนมากเกิดหลังการทำแท้ง

8.2.2. เกิดหลังการคลอดบุตร

8.3. Chronic endometritis

9. Gardnerella vaginalis

9.1. มีกลิ่นเหม็นคล้ายปลาเน่า

9.2. ลักษณะตกขาวมีสีเขียวหรือเทา

9.3. หญิงตั้งครรภ์ถ้ามีภาวะนี้อาจทำให้เด็กคลอดก่อนกำหนด

9.4. ติดเชื้อแบคทีเรีย Bacterial vaginosis ( Vaginalis)

9.5. Gram-negative bacillus

9.6. ปัจจัยเสี่ยง

9.6.1. มีคู่นอนหลายคน

9.6.2. สวนล้างช่องคลอด

9.6.3. ใส่ห่วงอนามัย

9.6.4. สูบบุหรี่

10. Pelvic inflammation disease ( PID)

10.1. Acute gonococcal infection

10.1.1. ท่อนำไข่อุดตัน ไข่ไม่สามารถตกได้ อาจทำให้เป็นหมัน ถ้ารักษาหายแล้วจะเกิดเป็นพีงผืด

10.2. Chronic gonococcal infection

10.2.1. หนองในเรื้อรัง ติดเชื้อเฉพาะบริเวณผิว ทำให้มีหนองไหลออกมาจากอวัยวะเพศ แต่ไม่เป็นอันตรายถึงชีวิต

10.3. Non Chronic gonococcal infection

10.3.1. ไม่ใช่หนองใน แต่มีการติดเชื้อในชั้นกล้ามเนื้อ กระแสเลือด เช่น การทำแท้ง ที่มีการขูดมดลูก

10.4. Neisseria gonorrhoeae , Chlamydia infection

10.4.1. หนองในแท้ , หนองในเทียม

10.5. ผู้ป่วยมาด้วยอาการ ปวดหน่วงบริเวณท้องน้อย , มีไข้ และตกขาว

10.6. เป็นการติดเชื้อแบบเฉียบพลัน

11. Trichomonas vaginalis

11.1. ติดต่อทางเพศสัมพันธ์

11.2. ผิวของปากมดลูกมีลักษณะอักเสบเป็นจุดแดงๆ เรียกว่า strawbery

11.3. สารคัดหลั่งเป็นสีขาวมีฟอง

11.4. ติดต่อได้ทั้งชายและหญิงแต่ในชายจะไม่แสดงอาการ

11.5. เป็นการติดเชื้อโปรโตซัว

12. Fungal infection

12.1. candida

12.1.1. เป็นเชื้อประจำถิ่น

12.2. มีตกขาวรียกว่า curd-like

12.3. เกิดในภาวะที่ภูมิคุ้มกันลดลง

12.4. มีอาการคันช่องคลอด

13. Benign Exophyic Lesions

13.1. Condyloma Acuminatum (genital warts)

13.1.1. หูดหงอนไก่

13.1.2. Low oncogenic risk HPVs

13.1.3. (เชื้อสายพันธุ์ที่ไม่กระตุ้นให้เกิดมะเร็ง)

13.1.4. Mainly types 6 and 11

13.2. Endocervical Polyp

13.2.1. เป็นติ่งเนื้อ

13.2.2. มีโอกาสได้รับการเฉียดสี เกิดแผล

13.2.3. ทำให้มีเลือดออกกะปริบกะปรอย (ไม่ใช่ประจำเดือน)

13.3. Genital HPV infactions

13.3.1. โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์

13.3.2. อายุ 20 – 24 เป็นช่วงที่เริ่มีเพศสัมพันธ์ แต่ไม่มีการป้องกัน

13.3.3. การมีคู่นอนหลายคน

13.4. Cervical cancer (มะเร็งปากมดลูก)

13.4.1. ปากมดลูกมีก้อนขึ้นมาแล้วมีแผล

13.4.2. อาการ :

13.4.2.1. มีเลือดออกจาการมีเพศสัมพันธ์

13.4.2.2. หมดประจำเดือนแล้วแต่กลับมามีอีกครั้ง

13.4.2.3. คนที่ปวดท้องประจำเดือนนาน ๆ และเป็นมาก ๆ

13.4.2.4. เวลามีเพศสัมพันธ์จะเจ็บมาก

13.5. Cervical cancer

13.5.1. High rish HPVs การติดเชื้อ

13.5.2. High rish HPV ; 15 types

13.5.3. HPV- 16 : 60%

13.5.4. HPV-18 : 10%

13.6. Squamous Neoplastic Lesions

13.6.1. Basaloid & warty carcinomas

13.6.1.1. 30% of case

13.6.1.2. การติดเชื้อ HPV-16

13.6.2. Keratinizing squamous cell carcinomas

13.6.2.1. 70% of case

13.6.2.2. การอักเสบเรื้อรังของผิวหนัง แล้วกลายเป็นมะเร็ง