1. การตรวจต่อมไทรอยด์(thyroid gland)
1.1. การคลำ( Palpation)
1.1.1. ขนาดปกติประมาณ45กรัม ขนาดโตกว่าปกติประมาณ25-30 กรัม
1.2. การดู(Inspection)
1.2.1. การกลืนน้ำลายจะเห็นตำเเหน่งค่อมไทรอยด์เเละcricoid cartilage ซึ่งดูขณะกลืนจะเลื่อนขึ้นข้างบน
2. จมูก( Nose)
2.1. การดู( Inspection)
2.1.1. การขยายขยายของปีกจมูก ดูสันจมูก
2.1.2. การรับกลิ่น ให้ผู้ถูกตรวจหลับตาเเล้วใช้สบู่หรือวัตถุที่มีกลิ่นอ่อนมาทดสอบถ้าตอบได้ถูกเเสดงว่ามีการรับกลิ่นที่ปกติ
2.2. การคลำ( Palpation)
2.2.1. เปิดปลายจมูกด้วยนิ้วหัวเเม่มือใช้ไฟฉายส่องดู vestibule, nasal septum, turbinate ว่าบวม, เเดง, ซีด, มีริดสีดวงจมูก, มีน้ำมูก
2.2.2. คลำบริเวณสันจมูก, ปีกจมูก, เเละบริเวณข้างเคียงเเละตรวจโพรงอากาศบริเวณหร้าผาก โหนกเเก้ม ว่ากดเจ็บหรือไม่
3. เล็บ (Nail)
3.1. การดู ( Inspection)
3.1.1. สี ( Color)
3.1.1.1. ภาวะปกติ เล็บเป็นสีชมพู
3.1.2. รูปร่าง ( Shape)
3.1.2.1. clubbing finger ( นิ้วปุ้ม ) Spooning(เล็บรูปช้อน) ลักษณะโค้งเว้าของเล็บปกติประมาณ160องศา
3.2. การคลำ ( Palpation)
3.2.1. เล็บเเข็ง เล็บนุ่ม เล็บบางนูนไม่เท่ากัน
4. ศีรษะ (Head)
4.1. ศีรษะ (Head)
4.1.1. เเผล (lesion)
4.2. การคลำ ( Palpation)
4.2.1. คลำก้อนเเผลบริเวณศีรษะถ้าพบให้ทดสอบการกดเจ็บ
4.2.2. ความนุ่มเเข็ง
5. ผม( Hair)
5.1. การดู ( Inspection)
5.1.1. สี ( Color)
5.1.2. ลักษณะผม
5.1.2.1. Short/ long hair, Distribution ( การกระจาย) texture, Local hair loss , alopecia ( ผมร่วง ), Dandruff ( รังเเค )
6. กระโหลกศีรษะ( Skull)
6.1. การดู(Inspection)
6.1.1. รูปร่างสมมาตร ศีรษะเเละกระโหลกศีรษะไม่บิดเบี้ยวผิดรูป
6.1.2. รูปร่าง ลักษณะผม
7. ผิว( Skin)
7.1. การดู ( Inspection)
7.1.1. สี ( Color)
7.1.1.1. white , brown , yellow, pale ( ซีด ), hyperpigmentation( รอยดำ )
7.1.2. เเผลที่ผิวหนัง( skin lesion)
7.1.2.1. ตรวจดูสี, ชนิดประเภท, รูปร่าง, การรวมตัว, ตำเเหน่งเเละการกระจาย
7.1.3. จุดเลือดออก ( Bleeding lesien)
7.1.3.1. ภาวะผิดปกติจะพบ
7.1.3.1.1. Petechiaeจุดเลือดออก1-3มม. Purpuraเป็นรอย เบือดออกขนาดใหญ่ รูปร่างกลมเรียบ Ecchymosisรอยเลือดออกขนาดใหญ่เเละนูนขึ้นลักษณะฟกช้ำ Spider nerviเป็นจุดสีเเดงจัดลักษณะคล้ายใยเเมงมุม
7.2. การคลำ ( Palpation)
7.2.1. ความชุ่มชื้น( moisture)
7.2.1.1. ภาวะปกติ ผิวจะมีความชุ่มชื้นไม่เเห้งมาก
7.2.1.2. ภาวะผิดปกติ ผิวหนังจะมีเหงื่อออกมาก ผิวหนังเเห้งมากเเละขาดความชุ่มชื่นอาจเเสดงถึงการไหลเวียนเลือดที่ไม่ดี
7.2.2. อุณหภูมิ ( temperature)
7.2.2.1. ภาวะปกติ ผิวหนังจะอุ่นทั่วร่างกาย
7.2.2.2. ภาวะผิดปกติ ผิวหนังจะร้อนพบในรายที่มีไข้
7.2.3. ความตึงตัวของผิว ( skin turgor)
7.2.3.1. ภาวะปกติ ผิวหนังจะกลับสภาพเดิมทันที
7.2.3.2. ภาวะผิดปกติ ผิวหนังจะตั้งอยู่นาน2- 3 วินาที
7.2.4. อาการบวมน้ำ ( edema )
7.2.4.1. ภาวะผิดปกติ
7.2.4.1.1. 1+บวมเล็กน้อยกดบุ๋มลงไป2 mm 2+กดบุ๋มลงไป 4 mm 3+กดบุ๋มลงไป 6 mm 4+กดบุ๋มลงไป 8 mm คงอยู่นาน2-5นาที
7.2.5. ผิว ( skin texture)
7.2.5.1. smooth ( ผิวเรียบ), rough ( ผิวขรุขระ ), dry( ผิวเเห้ง )
7.2.6. เเผลที่ผิวหนัง(Skin lesion)
7.2.6.1. เเผลที่ผิวหนัง(Skin lesion)
7.2.6.1.1. Nodule ขนาดมากกว่า0.5-2ซม. Tumor คลำได้ก้อนนูนเเข็ง มากกว่า1-2ซม. Macule จุดเเดง คลำเรียบ Patch คลำเรียบขนาดมากกว่า1ซม. Papule ก้อนเเข็งเช่นไฝ ผด Wheal เป็นการบวมของผิวหนังชั้นตื้น Vesicle เป็นตุ่มใสมีน้ำอยู่ข้างใน
8. หน้า(Face)
8.1. การดู( Inspection)
8.1.1. รูปร่างสมมาตร
8.1.2. ลักษณะใบหน้ามีความผิดปกติหรือไม่เช่นDown's syndrome, Thalassemic face, Moon face, Butterfly rash( มีผื่นเเดงที่หน้า)
8.1.3. ตรวจดูความผิดปกติของการเคลื่อนไหวกล้ามเนื้อของเส้นประสาทสมองคู่ที่7(Facial nerve)
8.1.3.1. ให้เลิกคิ้ว, กัดฟัน, ย่นหน้าผาก, ยิงฟัน, เป่าลมให้เเก้มโป่ง.ปากจู๋
8.2. การคลำ(Palpation)
8.2.1. การกดเจ็บ(tenderness) บริเวณ frontal & maxillary sinuses
9. ตา(Eye)
9.1. การดู (Inspection)
9.1.1. กระจกตา( cornea) ปกติเรียบใส,ตาขาว( sclera) เหลืองหรือไม่,รูม่านตา(pupil) ปกติรูม่านตาขนาดประมาณ2-6มม., ลักษณะกลม, ขอบเรียบ, หดตัวเมื่อถูเเสงเเละหดตัวได้เท่ากันทั้ง2ข้าง,เลนส์(lens) ใส, สะท้อนกับเเสงไฟ
9.1.2. ช่องหน้าม่านตา(Anterion chamber) มีเลือด ( hyphema), มีหนอง ( hypopyon)หรือไม่
9.1.3. ตรวจการเคลื่อนไหวของลูกตา( Extraoccular movement:EOM ทั้ง6ทิศ
9.1.3.1. ขวา, ขวาบน, ขวาล่าง, ซ้าย, ซ้ายบน, ซ้ายล่าง
9.1.4. เยื่อบุตา( conjunctiva)
9.1.4.1. ตรวจส่วนที่คลุมเปลือกตาด้านใดอาจมีก้อน สีผิดปกติเเละสีที่คลุมเปลือกตาขาวว่าซีดหรือเเดง
9.1.4.2. ภาวะปกติ เยื่อบุตาส่วนpalpebral conjunctiva จะมีสีเเดง, ไม่มีตุ่มหีือเม็ด, เยื่อบุลูกตาจะใส
9.1.5. ต่อมน้ำตา( Lacrimal gland) มีอาการบวมที่หัวตาเเละดั้งจมูกหรือไม่ ถ้ามีอาจกดเเล้วมีหนอง
9.1.6. ตรวจตาเล่( accommodation)
9.1.6.1. ปกติตาดำจะเคลื่อนเข้าหากันเเละรูม่านตาหดเล็ก
9.1.6.2. ถ้าไม่เห็นเเสดงว่ามีความผิดปกติของเส้นประสาทคู่ที่ 3,4,6
9.1.7. ตาโปน( Exophthalmos)
9.1.7.1. สังเกตความสัมพันธ์ของลูกตากับเบ้าตา ผู้ที่เป็นตาโปนจะพบว่าเปลือกตาบนไม่คลุมขอบรูม่านตา
9.1.7.2. ตรวจโดยการมองดูตาของผูใช้บริการจากด้านศีรษะ ด้านคางหรือด้านข้างใบหน้า
9.1.8. หนังตาตก( ptosis)
9.1.9. การตรวจลานสายตา(Visual eye Field)
9.1.9.1. ผู้ถูกตรวจนั่งห่างประม่ณ2ฟุต ให็ผูถูกตรวจมองจมูกผู้ตรวจ ผู้ตรวจยื่นมือไปให้สุดเเขนจากนั้นก็กระดิกนิ้วเข้ามาให้ผู้ถูกตรวจเห็น
9.1.9.2. ถ้าไม่เห็นเเสดงว่าอาจเกิดจากความผิดปกติของเส้นประสาทคู่ที่2
10. หู( Ear)
10.1. การดู(Inspection)
10.1.1. รูหู( external auditory canal: EAC)
10.1.1.1. มีขี้หู, มีเเผลในช่องหู ฝี หรือไม่
10.1.2. เยื่อเเก้วหู( tympanic membrane)
10.1.3. การได้ยิน
10.1.3.1. ใบหู( pinna or auricle)
10.1.3.1.1. รูปร่าง, เเละสิ่งผิดปกติ เช่น ก้อนไขมัน, ถุงน้ำ, ฝี เป็นต้น
10.1.3.2. ใช้เสียงนาฬิกาวางห่างจากหู2-3ซม. หรือกระซิบในระยะห่าง1-2ฟุต ภาวะปกติจะได้ยิน
10.2. การคลำ(Palpation)
10.2.1. กระดูกmastiod อาจมีอาการบวมเเดง เจ็บ
11. ปาก( Mouth and Throat)
11.1. การดู( Inspection)
11.1.1. ริมฝีปาก( Lips)
11.1.1.1. ซีด, เเดง, เขียวหรือไม่
11.1.2. เหงือก( Gum)
11.1.2.1. บวมหรือไม่(swelling)
11.1.3. ฟัน(Teeth)
11.1.3.1. มีฟันผุ(dental caries), มีหินปูนเกาะ, ฟันหลอหรือบิ่น, เเตกหักผิดปกติหรือไม่
11.1.4. ต่อมทอนซิล( Tonsils)
11.1.4.1. บวมโตอักเสบ, บวมเเดง, มีกนอง, มีตุ่ม, มีเเผลหรือสิ่งคัดหลั่งที่ผิดปกติหรือไม่
11.1.5. กระทุ้งเเก้ม(Buccal mucosa)
11.1.5.1. มีสีชมพู, ซีด, เเดง
11.1.6. ลำคอ(Throat)
11.1.6.1. ลำคอตั้งตรง ขนาดปกติ เคลื่อนไหวได้ปกติ
11.1.7. ลิ้นไก่
11.1.7.1. อยู่ตรงกลาง ไม่มีฝ้า
12. หลอดลม(Trachea)
12.1. การคลำ(Palpation)
12.1.1. ภาวะปกติ หลอดลมคออยู่ตรงกลางคอ ช่องว่างระหว่างหลอดลมเเละกล้ามเนื้อsternocleimastoid
13. ต่อมน้ำเหลือง
13.1. การคลำ(Palpation)
13.1.1. ถ้าคลำพบขนาดมากกว่าหรือเท่ากับ1ซม.เเสดงว่าต่อมน้ำเหลืองโต เรียกว่า Lymphadenopathy