1. 1.ทักษะการฟัง
1.1. 1.1การฟังตามขั้นตอนชองการฟังอย่างมีประสิทธิภาพ
1.1.1. 1.1.1 ขั้นตอนการฟังอย่างมีประสิทธิภาพ
1.1.1.1. 1)ผู้ฟังเข้าใจเรื่อง
1.1.1.2. 2)ผู้ฟังจับประเด็นสำคัญของเรื่อง
1.1.1.3. 3) ผู้ฟังวิเคราะห์เรื่อง
1.1.1.4. 4)ผู้ฟังตีความเรื่อง
1.1.1.5. 5)ผู้ฟังประเมินค่าเรื่อง
1.1.1.6. 6)ผู้ฟังนำเรื่องหาเนื้อหาข้อคิดจากเรื่องที่ฟังไปใช้ประโยชน์
1.1.2. 1.1.2 ข้อควรปฏิบัติเพื่อให้เกิดการฟังอย่างมีประสิทธิภาพ
1.1.2.1. 1)ขั้นก่อนฟัง
1.1.2.1.1. 1.1) ผู้ฟังควรตระหนักถึงจุดมุ่งหมายการฟังให้ชัดเจน
1.1.2.1.2. 1.2) ผู้ฟังครั้งนี้จะต้องทราบว่าเป็นสารโดยตรงหรือผ่านสื่อบุคคลเพราะมีวิธีฟังแตกต่างกัน
1.1.2.1.3. 1.3) ผู้ฟังจะต้องเตรียมความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับเรื่องที่จะฟัง
1.1.2.1.4. 1.5 ) ผู้ฟังควรเตรียมอุปกรณ์ต่างๆ
1.1.2.1.5. 1.4) ผู้ฟังควรเลือกที่นั่งฟังที่เหมาะสม
1.1.2.2. 2) ขั้นขณะฟัง มีข้อแนะนำดังนี้
1.1.2.2.1. 2.1) ผู้ฟังต้องตั้งใจฟัง
1.1.2.2.2. 2.2) ผู้ฟังต้องมีสมาธิขณะฟัง
1.1.2.2.3. 2.3) ผู้ฟังต้องมีมารยาทขณะฟัง
1.1.2.2.4. 2.4) ผู้ฟังต้องมีปฏิกิริยาสัมพันธ์กับผู้พูด
1.1.2.2.5. 2.5) ผู้ฟังควรวางใจเป็นกลาง หลีกเลี่ยงอคติใดๆ
1.1.2.2.6. 2.6) ผู้ฟังควรจดบันทึกสาระสำคัญของคำบรรยาย
1.1.2.3. 3) ขั้นหลังการฟัง ใชมีข้อแนะนำดังนี้
1.1.2.3.1. 3.1) ผู้ฟังควรทบทวนเรื่องราวที่บันทึกขณะฟัง
1.1.2.3.2. 3.2) ผู้ฟังควรจะนำเนื้อหาสาระของเรื่องราวที่ได้ฟังไปใช้ให้เกิดประโยชน์
1.1.2.3.3. 3.3) ผู้ฟังควรจะนำเรื่องราวที่ได้ฟังไปสนทนาแลกเปลี่ยนความรู้กับเพื่อนๆ
1.2. 1.2 การฟังตามประเภทของสาร
1.2.1. 1.2.1การฟังสารประเภทให้ความรู้
1.2.1.1. 1) ผู้ฟังสารให้ความรู้นั้นโดนตลอดตั้งแต่ต้นจนจบเรื่อง
1.2.1.2. 2) ผู้ฟังควรใช้สติปัญญาไตร่ตรองเรื่องราว
1.2.1.3. 3) ผู้ฟังควรบันทึกสาระสำคัญของเรื่องราวเหล่านั้น
1.2.2. 1.2.2 การฟังประเภทโน้มน้าวใจ
1.2.2.1. 1) ผู้ฟังตั้งใจฟังสารโน้มน้าวใจโดยตลอดตั้งแต่ต้นจนจบ
1.2.2.2. 2) ผู้ฟังวิเคราะห์สารว่าเนื้อหาส่วนใดเป็นข้อเท็จจริง
1.2.2.3. 3) ผู้ฟังพิจารณาให้ได้ว่าเนื้อหาข้อเท็จจริงและเหตุผล
1.2.2.4. 4) ผู้ฟังไตร่ตรองให้ถี่ถ้วนว่าข้อปฏิบัติที่ผู้ส่งสารแนะนำให้ปฏิบัตินั้นถูกต้องเหมาะสมหรือไม่
1.2.2.5. 5) ผู้ฟังพิจารณาว่าผู้ส่งสารใช้วิธีใดในการโน้มน้าวใจ
1.2.2.6. 6) ผู้ฟังใช้วิจารณญาณตัดสินว่าสารที่ฟังสอดคล้องกับความคิดความเชื่อของผู้ฟังมากน้อยเพียงใด
1.2.3. 1.2.3 การฟังประเภทจรรโลงใจ
1.2.3.1. 1) ผู้ฟังตั้งใจฟังสารโดยตลอดตั้งแต่ต้นจนจบ
1.2.3.2. 2) ขณะที่ฟังสาร เทศนา ควรสร้างสมาธิขณะฟัง
1.2.3.3. 3) ขณะที่ฟังสาร เพลง บทร้อยกรอง ผู้ฟังควรสร้างจินตนาการตามถ้อยคำ
1.2.3.4. 4) การฟังสารประเภทจรรโลงใจ ผู้ฟังต้องใช้วิจารณญาณไตร่ตรองที่ฟังให้ถี่ถ้วน
1.3. 1.3 การฟังสารจากบุคคลและสื่ออิเล็กทรอนิกส์
1.3.1. 1.3.1 ประโยชน์ของการฟังสารจากบุคคลและจากสื่ออิเล็กทรอนิกส์
1.3.1.1. 1) ทำให้รับรู้เรื่องราวต่างๆ
1.3.1.2. 2)ทำให้รอบรู้เรื่องราวโดยเฉพาะเหตุการณ์บ้านเมือง
1.3.1.3. 3)ทำให้ได้รับความรู้ทางวิชาการสาขาต่างๆ
1.3.1.4. 4) ทำให้เกิดความบันเทิงใจ ผ่อนคลายความรู้สึกเครียด
1.3.1.5. 5) ทำให้ได้รับคติชีวิต นำพาชีวิตราบรื่นมีความสุข
1.3.1.6. 6)ทำให้เกิดความคิดริเริ่มสร้างสรรค์เพื่อประกอบดิจการต่างๆ
1.3.1.7. 7)ทำให้ได้แนวคิดแนวทางการแก้ไขปัญหาทั้งปัญหาจากการดำเนินชีวิตและการทำงาน
1.3.1.8. 8)ทำให้เกิดสัมพันธภาพที่ดีในสังคม
1.3.1.9. 9)ทำให้บุคคลพัฒนาบุคลิกภาพและพัฒนาจิตใจ
1.3.2. 1.3.2ข้อแนะนำวิธีการฟังสารจากบุคคลและสื่ออิเล็กทรอนิกส์
1.3.2.1. 1)ก่อนฟัง
1.3.2.1.1. 1.1)ผู้ฟังกำหนดจุดเป้าหมายการฟัง
1.3.2.1.2. 1.2)ผู้ฟังทำความเข้าใจขั้นตอนการฟังอย่างมีประสิทธิภาพ
1.3.2.1.3. 1.3)ผู้ฟังเลือกสารที่ต้องการฟัง
1.3.2.1.4. 1.4)กรณีที่ผู้ฟังเลือกฟังสารที่ต้องการฟังได้ ควรใช้วิจารณญาณเลือกสาร
1.3.2.1.5. 1.5)ผู้ฟังควรฟังสารทุกประเภทจากทุกช่องทางการสื่อสาร
1.3.2.2. 2)ขณะฟัง
1.3.2.2.1. 2.1)ผู้ฟังต้องมีความพร้อมขณะฟัง
1.3.2.2.2. 2.2)ผู้ฟังต้องสนใจฟังพร้อมกับใช้สติปัญญาพิจารณาตามสารที่ฟัง
1.3.2.2.3. 2.3)ผู้ฟังมีสติขณะฟัง
1.3.2.2.4. 2.4)ผู้ฟังต้องวางใจเป็นกลาง
1.3.2.2.5. 2.5)ผู้ฟังต้องตั้งใจฟังสารนั่นโดยตลอดตั้งแต่ต้นจนจบ
1.3.2.2.6. 2.6)ผู้ฟังต้องใช้วิจารณญาณในการฟัง
1.3.2.2.7. 2.7)การฟังสารจากบุคคลและจากสื่ออิเล็กทรอนิกส์แต่ละชนิด มีข้อควรคำนึงเฉพาะ
1.3.2.3. 3)หลังการฟัง
1.3.2.3.1. 3.1)กรณีฟังจากบุคคล
1.3.2.3.2. 3.2)หากผู้ฟังจดบันทึกสาระสำคัญขณะฟังหลังฟังควรทบทวน
1.3.2.3.3. 3.3)กรณีฟังผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ผู้ฟังไม่มีโอกาสปฏิสัมพันธ์กับผู้พูด
1.3.2.3.4. 3.4)ผู้ฟังควรประเมินผลการฟังตัวเอง