1. การสร้างทักษะการคิดวิเคราะห์ การคิดวิเคราะห์เป็นวิธีการสำคัญในการแก้ปัญหา การแก้ปัญหาที่หลากหลายทำให้เกิดการสังเคราะห์ความรู้ ดังนั้นจึงจำเป็นต้องสร้างทักษะการคิดวิเคราะห์ให้เกิดขึ้นในตนเองและบุคคลในความรับผิดชอบอย่างต่อเนื่อง
2. การวิเคราะห์และสังเคราะห์เพื่อสร้างความรู้
2.1. ความรู้
2.1.1. ความหมายของความรู้ ความรู้ คือสิ่งที่สั่งสมมาจากการศึกษาเล่าเรียน การค้นคว้าหรือประสบการณ์ รวมทั้งความสามารถเชิงปฏิบัติและทักษะความเข้าใจ หรือสารสนเทศที่ได้รับมาจากประสบการณ์ สิ่งที่ได้รับมาจากการได้ยิน ได้ฟัง การคิดหรือการปฏิบัติองค์วิชาในแต่ละสาขา
2.1.2. ประเภทของความรู้ มีอยู่ 2 ประเภท คือ
2.1.2.1. ความรู้ที่ฝังอยู่ในสมอง (Tacit Knowledge) อาจเรียกง่ายๆ ว่า “ความรู้ในตัวคน” ได้แก่ ความรู้ที่เป็นทักษะ ประสบการณ์ ความคิดริเริ่ม พรสวรรค์
2.1.2.2. ความรู้ที่ชัดแจ้ง (Explicit Knowledge) อาจเรียกว่า “ความรู้นอกตัวคน” เป็นความรู้ที่สามารถรวบรวม ถ่ายทอดได้ โดยผ่านวิธีต่างๆ เช่นการบันทึกเป็นลายลักษณ์อักษร เป็นหนังสือ ตำราเอกสาร
2.2. ความหมายของการคิดวิเคราะห์ สำนักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา ให้ความหมายของการคิดวิเคราะห์ว่าเป็นการระบุเรื่องหรือปัญหา จำแนกแยกแยะ เปรียบเทียบข้อมูลเพื่อจัดกลุ่มอย่างเป็นระบบ ระบุเหตุผลหรือเชื่อมโยงความสัมพันธ์ของข้อมูล และตรวจสอบข้อมูลหรือหาข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อให้เพียงพอในการตัดสินใจ/แก้ปัญหา/คิดสร้างสรรค์
2.3. การคิดวิเคราะห์
2.3.1. ลักษณะของการคิดวิเคราะห์ เกรียงศักดิ์ เจริญวงศ์ศักดิ์ กล่าวถึง ลักษณะของการคิดวิเคราะห์และกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการคิดวิเคราะห์ไว้ว่า การจัดกิจกรรมต่างๆ ที่ประกอบเป็นการคิดวิเคราะห์แตกต่างไปตามทฤษฎีการเรียนรู้ โดยทั่วไปสามารถแยกแยะกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการคิดวิเคราะห์ ได้ดังนี้ (1) การสังเกต จากการสังเกตข้อมูลมากๆ สามารถสร้างเป็นข้อเท็จจริงได้ (2) ข้อเท็จจริง จากกการรวบรวมข้อเท็จจริง และการเชื่อมโยงข้อเท็จจริงบางอย่างที่ขาดหายไป สามารถทำให้มีการตีความได้ (3) การตีความ เป็นการทดสอบความเที่ยงตรงของการอ้างอิง จึงทำให้เกิดการตั้งข้อตกลงเบื้องต้น (4) การตั้งข้อตกลงเบื้องต้น ทำให้สามารถมีความคิดเห็น (5) ความคิดเห็น เป็นการแสดงความคิดจะต้องมีหลักและเหตุผลเพื่อพัฒนาข้อวิเคราะห์
2.3.2. องค์ประกอบของการคิดวิเคราะห์
2.3.2.1. การตีความ ความเข้าใจ
2.3.2.2. การมีความรู้ความเข้าใจในเรื่องที่จะวิเคราะห์
2.3.2.3. การช่างสังเกต สงสัย ช่างถาม ขอบเขตของคำถาม ที่เกี่ยวข้องกับการคิดเชิงวิเคราะห์
2.3.2.4. การหาความสัมพันธ์เชิงเหตุผล (คำถาม) ค้นหาคำตอบได้ว่า อะไรเป็นสาเหตุให้เรื่องนั้นเชื่อมกับสิ่งนี้ได้อย่างไร
2.3.3. กระบวนการคิดวิเคราะห์
2.3.3.1. ขั้นที่ 1 ระบุหรือทำความเข้าใจกับประเด็นปัญหา
2.3.3.2. ขั้นที่ 2 รวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับปัญหา
2.3.3.3. ขั้นที่ 3 พิจารณาความน่าเชื่อถือของข้อมูล
2.3.3.4. ขั้นที่ 4 การจัดข้อมูลเข้าเป็นระบบ
2.3.3.5. ขั้นที่ 5 ตั้งสมมติฐาน
2.3.3.6. ขั้นที่ 6 การสรุป
2.3.3.7. ขั้นที่ 7 การประเมินข้อสรุป
3. วิธีการทางวิทยาศาสตร์ (Scientific method)
3.1. วิธีการอุปมานแบบไม่สมบูรณ์ (Imperfect inductive method) เป็นวิธีการเสาะแสวงหาความรู้โดยรวบรวมข้อเท็จจริงย่อย ๆ จากบางส่วนของกลุ่มประชากรแล้วสรุปรวมไปสู่ส่วนใหญ่
3.2. วิธีการอุปมานแบบสมบูรณ์ (perfect inductive method เป็นวิธีการเสาะแสวงหาความรู้โดยรวบรวมข้อเท็จจริงย่อย ๆ จากทุกหน่วยของกลุ่มประชากรก่อนแล้วจึงสรุปไปสู่ส่วนใหญ่
4. ปัจจัยแห่งความสำเร็จในการแสวงหาข้อมูลความรู้
4.1. แหล่งข้อมูลความรู้ การที่จะหาข้อมูลได้ต้องมีแหล่งข้อมูล ซึ่งผู้หาข้อมูลจะต้องพิจารณาได้ว่าควรหาข้อมูลจากแหล่งข้อมูลใด โดยต้องเป็นแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้ นอกจากนั้นในบางเรื่อง อาจจำเป็นต้องหาข้อมูลจากแหล่งข้อมูลมากกว่า 1 แหล่งข้อมูลเพื่อการยืนยันและการได้มาซึ่งข้อมูลอย่างรอบด้าน
4.1.1. บุคคล
4.1.2. สื่อมวลชน
4.1.3. สถาบัน
4.1.4. อินเทอร์เน็ต