โครงงานทางเทคโนโลยีสารสนเทศ

1. ตัวอย่างโครงงาน

1.1. การสร้างเว็บบล็อก (Webb log) ด้วย Word press

1.2. ทำขึ้นจัดโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อนำเอาความสามารถรู้ความเข้าใจไปใช้ในห้างหุ้นส่วนจำกัดหัวเรื่อง: การเรียน ทั้งนี้ได้ทาหัวเรื่อง: การศึกษาเป็นค้นคว้าเนื้อหาความสามารถรู้ที่สนใจเกี่ยวกับเรื่อง ซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์

1.3. โครงงานคอมพิวเตอร์เรื่อง ASEAN WORLD

1.4. เผยแพร่ความสามารถเพื่อรู้เกี่ยวกับประชาคมอาเซียนที่ประเทศไทยจะเข้าร่วมในห้างหุ้นส่วนจำกัด ปี พ.ศ. 2558

1.5. ก้าวไกลนำไทยสู่อาเซียน

1.6. มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างเว็บไซด์เกี่ยวกับประชาคมอาเซียน ศึกษาโปรมแกรมคอมพิวเตอร์ที่ใช้สร้างเว็บไซด์จากเว็บไซด์ทางอินเทอร์เน็ต ศึกษาจากสมุดจดบันทึกของวิชาคอมพิวเตอร์ชั้น ม.3 และขอคำแนะนำจากผู้ที่มีความรู้หรือผู้ที่มีความชำนาญในการสร้างเว็บไซด์ มาสร้างเว็บไซด์เพื่อการศึกษาการจัดทำโครงงานคอมพิวเตอร์

2. ประโยชน์

2.1. ช่วยในการจัดระบบข่าวสารจำนวนมหาศาลซึ่งผลิตออกมาในแต่ละวัน

2.2. ด้านการศึกษา เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารถูกนำมาใช้เพื่ออำนวยความสะดวกในการบริหารด้านการศึกษา เช่น ระบบการลงทะเบียน และระบบการจัดตารางสอน นอกจากนี้ยังใช้เป็นเครื่องมือในการเพิ่มโอก่สทางด้านการศึกษาและเพิ่มประสิทธิภาพการเรียนการสอนตัวอย่างเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในด้านการศึกษา

2.3. ด้านการแพทย์และสาธารณสุข เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารถูกนำมาใช้เริ่มต้งแต่การทำทะเบียนคนไข้ การรักษาพยาบาลทั่วไป ตลอดจนการวินิจฉัยและรักษาโรคต่างๆ ได้อย่ารวดเร็วและแม่นยำ นอกจากนี้ยังใช้ในห้องทดลอง การศึกษาและการวิจัยทางการแพทย์ รักษาคนไข้ด้วยระบบการรักษาทางไกลตลอดเวลาผ่านเครือข่ายการสื่อสาร เครื่องเอ็กซเรย์คอมพิวเตอร์ที่เรียกว่า อีเอ็มไอสแกนเนอร์ ( EMI scanner ) ถูกนำมาใช้ถ่ายภาพสมองมนุษย์เพื่อตรวจหาความผิดปกติในสมอง

2.4. ด้านวิศวกรรมและสถาปัตยกรรม มีการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการออกแบบ หรือจำลองสภาวการณ์ต่างๆ เช่น การรับแรงสั่นสะเทือนของอาคารเมื่อเกิดแผ่นดินไหว โดยการคำนวณและแสดงภาพสถานการณ์ใกล้เคียงความจริง ตัวอย่างซอฟแวร์การเกิดแผ่นดินไหว

2.5. ด้านวิศวกรรมและสถาปัตยกรรม มีการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการออกแบบ หรือจำลองสภาวการณ์ต่างๆ เช่น การรับแรงสั่นสะเทือนของอาคารเมื่อเกิดแผ่นดินไหว โดยการคำนวณและแสดงภาพสถานการณ์ใกล้เคียงความจริง ตัวอย่างซอฟแวร์การเกิดแผ่นดินไหว

2.6. ด้านความมั่นคง มีการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารกันอย่างแพร่หลาย เช่น ใช้ในการควบคุมประสานงานวงจรสื่อสารทหาร การแปลรหัสลับในงานจารกรรมระหว่างประเทศ การส่งดาวทียมและการคำนวณวิถีการโคจรของจรวดไปสู่อวกาศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติของประเทศไทยมีศูนย์ประมวลข่าวสาร มีระบบมีระบบจัดทำระเบียนปืน ทะเบียนประวัติอาชญากร ทำให้เกิดความสะดวกและรวดเร็วในการสืบค้นข้อมูลเพื่อการสืบสวนคดีต่างๆ

2.7. ด้านวิศวกรรมและสถาปัตยกรรม มีการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการออกแบบ หรือจำลองสภาวการณ์ต่างๆ เช่น การรับแรงสั่นสะเทือนของอาคารเมื่อเกิดแผ่นดินไหว โดยการคำนวณและแสดงภาพสถานการณ์ใกล้เคียงความจริง ตัวอย่างซอฟแวร์การเกิดแผ่นดินไหว

2.8. ด้านการพาณิชย์ องค์กรในภาคธุรกิจใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการบริหารจัดการ เพื่อช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับองค์กรในการทำงาน ทำให้การประสานงานหรือการทำกิจกรรมต่างๆ ของแต่ละหน่วยงานในองค์กร หรือระหว่างองค์กรเป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากนี้ยังสามารถนำมาใช้ปรับปรุงการให้บริการกับลูกค้าซึ่งเป็นการสร้างภาพพจน์ที่ดีขององค์กรต่อลูกค้าทั่วไป สิ่งเหล่านี้นับเป็นการสร้างโอกาสความได้เปรียบแช่งขันให้กับองค์กร ตัวอย่างของการนำเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารมาใช้ในด้านการพาณิชย์

2.9. ด้านการคมนาคม มีการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในส่วนที่เกี่ยวกับการเดินทาง เช่น การเดินทางโดยรถไฟ มีกรเชื่อมโยงข้อมูลการจองที่นั่งไปยังทุกสถานี ทำให้สะดวกต่อผู้โดยสาร

3. ความหมาย

3.1. โครงงานเทคโนโลยีสารสนเทศเป็นการพัฒนาผลงานที่เกิดจากการศึกษาค้นคว้าและดำเนินการพัฒนาตามความสนใจละความถนัดโดยใช้เทคโนโลยีสนเทศ เช่น การรวบรวมข้อมูลโดยสืบค้นจากอินเตอร์เน็ต ประมวลผลด้วยซอฟแวร์คอมพิมเตอร์และการนำเสนอโดยใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ

4. ขั้นตอนการทำโครงงาน

4.1. 1.การกำหนดปัญหา

4.1.1. หัวข้อโครงงานที่จะเลือกทำนั้นส่วนใหญ่มาจากความต้องการหรือความสนใจในการเลือกปัญหาและแก้ไขปัญหาสามารถนำมาประยุกต์ใช้ได้หรืออื่นๆตามเจตนารมณ์ของผู้จัดทำ

4.2. 2.การกำหนดรายละเอียดของโครงงาน

4.2.1. เมื่อเราได้หัวข้อโครงงานมาแล้ว หลังจากนั้นต้องค้นคว้าหาความรู้ที่เกี่ยวข้องมาเพิ่มเติมแหล่งข้อมูลควรมาจากแหล่งที่หลากหลาย เช่น จากหนังสือ วารสาร ผู้เชี่ยวชาญ

4.3. 3.การวางแผนและดำเนินโครงงาน

4.3.1. การจัดทำข้อเสนอโครงงานเป็นการกำหนดแนวคิดต่างๆและการวางแผนพัฒนาโครงงาน รวมถึงการทำตารางกำหนดการและระยะเวลาในการทำ เพื่อช่วยให้สามารถคาดการณ์ความเป็นไปได้ในการทำโครงงาน โดยที่ผู้จัดทำสามารถไปนำเสนอกับที่ปรึกษาหรือผู้ทรงคุณวุฒิที่เกี่ยวข้องให้ช่วยพิจารณางานให้

4.4. 4.การดำเนินโครงงาน

4.4.1. การจัดทำโครงงานถือเป็นภาคปฏิบัติที่สำคัญ จึงต้องเตรียมพร้อมในทุกๆด้าน เตรียมอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ ซอฟแวร์ และวัสดุที่ใช้ให้ครบถ้วน ควรคำนึงถึงความประหยัด คุ้มค่า และจิตสำนึกรับผิดชอบต่อสังคมเสมอระหว่างทำต้องบันทึกผลตลอดเพื่อติดตามความก้าวหน้า ปัญหาอุปสรรค วิธีแก้ไขและเพื่อควบคุมการปฏิบัติงานตามเวลาที่กำหนด

4.5. 5.การสรุปผลและการเผยแพร่งาน

4.5.1. สรุปผลและข้อเสนอแนะ หากในการทำงานมีการตั้งสมมติฐานไว้ ต้องมีการสนับสนุนหรือคัดค้านสมมติฐานที่ตังไว้ เพื่อให้รู้อุปสรรคในการทำงาน ข้อสังเกตที่สำคัญ ข้อผิดพลาดจากการทำงาน มีข้อเสนอแนะในการปรับปรุง รวมถึงบอกประโยชน์ที่ผู้จัดทำและผู้ศึกษาจะได้รับและข้อเสนอรูปแบบที่เหมาะสม ก่อนนำเสนอต้องวางแผนการนำเสนอ ฝึกสาธิตโครงงาน และฝึกำถาม ถาม-ตอบกันเสมอ