ทฤษฎีการให้คำปรึกษา

1. ทฤษฎีการเรียนรู้ของเกสตัลท์

1.1. เอาใจใส่ต่อสิ่งเร้าซึ่งมีลักษณะแปลกใหม่และซับซ้อน

1.2. ต้องการความสอดคล้องกันระหว่างความรู้ความเข้าใจ

1.3. ต้องการความเชื่อมั่นและความเที่ยงตรง

1.4. ต้องการแสวงหาความจริง

1.5. ต้องการควบคุมสิ่งแวดล้อม

2. ทฤษฎียึดบุคคลเป็นศูนย์กลาง

2.1. การรับฟังอย่างมีประสิทธิภาพ (Intensive Listening )และสร้างบรรยากาศที่อบอุ่นจริงใจ

2.2. การยอมรับฟังในเรื่องราวและความเป็นบุคคลของผู้รับการปรึกษาโดยไม่มีเงื่อนไข โดยไม่ตัดสิน

2.3. การสะท้อนความรู้สึก (Reflection of feeling)

2.4. การทำให้เกิดความเข้าใจที่กระจ่างชัด (Clarifying)

2.5. การสนับสนุน (Supportive)

3. ทฤษฎีจิตวิเคราะห์

3.1. 1.ดึงแรงจูงใจในระดับจิตไร้สำนึกมาสู่ระดับจิตสำนึก เป็นการทำให้ ego เข้มแข็งขึ้นทำให้ Client เข้าใจสาเหตุของพฤติกรรม นำไปสู่การปรับเปลี่ยนบุคลิกภาพ

3.2. 2.ลดความวิตกกังวลของ Client เพื่อใช้ระบบเหตุผลในการพิจารณาสิ่งต่างๆตามข้อเท็จจริง ลดการใช้กลไกป้องกันตัวเอง

3.3. 3. ช่วยให้ Client สามารถพึ่งพาตัวเองได้มากขึ้น รับผิดชอบและแก้ไขปัญหาได้ด้วย ตัวเอง ไม่ต้องพึ่งพาคนอื่น

3.4. 4.หลังจากที่ Client เข้าใจตัวเอง เข้าใจปัญหา ยอมรับและสามารถพึ่งพาตัวเองได้แล้ว Client จะมีสุขภาพจิตที่ดี มีมนุษยสัมพันธ์ดี มีความสุข

4. ทฤษฎีจิตวิทยาปัจเจกบุคคล ของ Alfred Adler

4.1. เน้นถึงความแตกต่างระหว่างบุคคล และเขาบอกว่าการดูคนต้องดูทั้งหมด ดูทุกแง่ทุกมุมและนำความรู้จากการดูนั้นมาทำความเข้าใจบุคคลนั้นทั้งหมด ( Person as a whole )

5. ทฤษฎีวิเคราะห์ติดต่อสัมพันธ์ (TA)

5.1. การวิเคราะห์โครงสร้าง (Structural Analysis) จะช่วยให้บุคคลเข้าใจถึงโครงสร้าง

5.2. การวิเคราะห์สัมพันธภาพ (Transactional Analysis) เพื่อช่วยให้ผู้รับการปรึกษา

5.3. การวิเคราะห์เกมทางจิตวิทยา (Games Analysis)เกมทางจิตวิทยา หมายถึง วิธีการที่บุคคลพยายามเอาประโยชน์จากบุคคลอื่น เพื่อให้ได้ความเอาใจใส่ (Stroke)