เครื่องมือพื้นฐาน

Get Started. It's Free
or sign up with your email address
เครื่องมือพื้นฐาน by Mind Map: เครื่องมือพื้นฐาน

1. ดอกสว่านสำหรับเจาะไม้

2. เครื่องมือสำหรับการตัด

2.1. คีม

2.1.1. คีมปากแหลม

2.1.1.1. เป็นคีมขนาดเล็ก มีปากเล็กยาวใช้สำหรับ บีบตัด หรือ งอวัสดุขนาดเล็กที่ไม่แข็งมาก

2.1.2. คีมตัดปากเฉียง

2.1.2.1. ใช้ตัดวัสดุชิ้นเล็กที่ไม่แข็ง

2.2. เลื่อยและปากกาตัด

2.2.1. เลื่อยรอ

2.2.1.1. ใช้ตัดแต่งไม้ที่มีฟันละเอียด

2.2.1.2. ใช้สำหรับตัดแต่งผิวหน้าไม้ที่ถูกตัดให้ผิวหน้าเรียบ

2.2.1.3. ใช้เลื่อยตัดแต่งผิวหน้า ปากไม้ระหว่างแนวต่อการเข้าไม้ให้มีแนวชนกันได้สนิท

2.2.2. เลื่อยจิ๊กซอ

2.2.2.1. ใช้ตัดไม้ที่ทำงานโดยใบเลื่อย

2.2.2.2. มีฟันละเอียดเคลื่อนที่ขึ้นและลงและตัดชิ้นงานไปตามแนวที่ต้องการ

2.2.2.3. สามารถใช้ตัดชิ้นงานทั้งแนวตรงและแนวโค้ง เนื่องจากใบเลื่อยมีขนาดเล็กและบาง

2.2.3. เลื่อยตัดเหล็ก

2.2.3.1. เป็นเลื่อนสำหรับตัดเหล็กหรือโลหะต่างๆได้โดยใช้ใบเลื่อยที่มีฟันละเอียด และมีน็อตหางปลาไว้สำหรับขันใบเลื่อยให้แน่นและตึงก่อนการใช้งาน

2.2.4. เลื่อยวงเดือน

2.2.4.1. เป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์มากในงานตัดทั้งแบบตัดตรงและตัดเอียง ตัดซอยและเซาะร่องชิ้นงาน ฟันเลื่อยทำจากวัสดุคาร์ไบด์ที่มีความแข็งแรงและช่วยรักษาคม ใช้ตัดวัสดุได้หลายชนิด

2.2.5. เลื่อยไฟเบอร์

2.2.5.1. เป็นเครื่องมือตัดความเร็วสูงที่นิยมใช้มากทั้งในงานซ่อมและงานผลิตเกือบทุกชนิด เนื่องจากมีความสะดวกและรวดเร็ว แผ่นใบเลื่อยทำจากหินเจียจึงเหมาะสมสำหรับตัดโลหะต่างๆ

2.2.6. ปากกาตัดกระจก

2.2.6.1. เป็นเครื่องมือที่มีลักษณะคล้ายปากกาแต้จะมีหัวที่ทำด้วยวัสดุที่มีองค์ประกอบของเพชรซึ่งมีความแข็งแกร่งมาก ใช้สำหรับตัดกระจกได้ด้วยการลากปากกาไปบนกระจกให้เกิดแนวตามที่ต้องการโดยไม่ลากซ้ำแล้วใช้มือค่อยๆแยกกระจกออกจากกันตามรอยที่เกิดขึ้น

3. เครื่องมือสำหรับการเจาะ

3.1. ในการออกแบบและสร้างชิ้นงานบางอย่างจำเป็นต้องใช้เครื่องมือสำหรับการเจาะ ในที่นี้จะแนะนำเครื่องมือสำหรับการเจาะ คือสว่านมือ ซึ่งสามารถแบ่งตามกลไกการทำงาน คือแบบธรรมดาและแบบโรตารี และแบ่งตามประเภทแหล่งพลังงาน คือ สว่านที่ใช้ไฟฟ้าและแบบแบตเตอรี่

3.2. สว่านมือ

3.2.1. เป็นเครื่องมือเจาะรูที่ใช้ร่วมกับดอกสว่านประเภทต่างๆ สว่านจะมีเฟืองเป็นตัวช่วยขับดอกสว่านให้หมุน ดอกสว่านจะเป็นตัวเจาะวัสดุและนำเศษวัสดุที่เกิดขึ้นออกไปจากรูเจาะ ซึ่งดอกสว่านสำหรับแต่ละประเภทจะมีลักษณะแตกต่่างกันและใช้เฉพาะงานนั้น หากใช้ดอกสว่านผิดประเภทจะทำให้ดอกสว่าน ตัวสว่านและชิ้นงานเสียหาย

3.2.2. แบบธรรมดา

3.2.2.1. ใช้สำหรับงานเจสะวัดุทั่วไป เช่นไม้ เหล็ก

3.2.3. แบบโรตารี

3.3. ดอกสว่าน

3.3.1. ดอกสว่านสำหรับเจาะปูน

3.3.2. ดอกสว่านสำหรับเจาะเหล็ก

3.3.3. มีรูปลักษณ์ภายนอกไม่ต่างจากแบบธรรมดา แต่จะมรกลไกพิเศษภายในสำหรับผ่อนแรง ส่วนใหญ๋จึงใช้สำหรับเจาะปูน

3.3.4. ดอกสว่านสำหรับเจาะกระเบื้อง

3.3.5. ดอกสว่านสำหรับเจาะแก้ว

3.3.6. ดอกสว่านอเนกประสงค์สำหรับเจาะวัสดุได้หลายประเภท

4. เครื่องมือสำหรับการวัดขนาด

4.1. ไมโครมิเตอร์ (Micrometer)

4.1.1. เครื่องมือพื้นฐานที่จำเป็นสำหรับการตัดมีอยู่หลายประเภทในการใช้งานต้องเลือกให้เหมาะสม โดยขึ้นอยู่กับประเภทของงานในที่นี้จะนำเสนอเครื่องมือสำหรับการตัดประเภทคีมขนาดเล็กเลื่อยรอเลื่อยจิ๊กซอเลื่อยตัดเหล็กเลื่อยวงเดือนเลื่อยไฟเบอร์และปากกาตัดกระจก

4.1.2. เป็นเครื่องมือวัดขนาดชิ้นงานขนาดเล็กที่มีความแม่นยำสูง สามารถแบ่งขนาด 1 เซนติเมตรได้ละเอียด 1, 000 เท่า หรือแบ่งขนาด 1 มิลลิเมตรได้ 100 เท่า จึงใช้วัดความหนาของวัสดุเช่นกระดาษหรือวัดเส้นผ่านศูนย์กลางของเส้นลวดได้ไมโครมิเตอร์ มีทั้งไมโครมิเตอร์วัดนอกไมโครมิเตอร์วัดในและไมโครมิเตอร์วัดลึก

4.2. เวอร์เนียร์คาลิเปอร์ (Vernier Caliper)

4.2.1. เป็นเครื่องมือวัดขนาดอย่างละเอียดที่ใช้หลักของเวอร์เนียร์สเกลและปากวัด (Caliper) 2 ชุด คือชุดปากวัดในและปากวัดนอกเวอร์เนียร์คาลิเปอร์จะมีทั้งสเกลหลักและสเกลรอง (ซึ่งเรียกชื่อเฉพาะว่าเวอร์เนียสเกล) การวัดต้องจัดให้ปากวัดทั้ง 2 ตรงกับขอบชิ้นงานทั้ง 2 ข้าง ทำให้สามารถอ่านสเกลวัดได้ทั้งขอบในและขอบนอกของชิ้นงานเวอร์เนียร์คาลิเปอร์ยังสามารถใช้วัดความลึกของชิ้นงานได้ โดยใช้ก้านวัดลึกเวอร์เนียร์คาลิเปอร์ที่ใช้อยู่ทั่วไปสามารถแบ่งได้เป็น 2 แบบ

4.3. ไม้บรรทัดวัดองศาหรือใบวัดมุม (Protraction)

4.3.1. เป็นเครื่องมือวัดขนาดมุมของชิ้นงานเป็นองศา ที่มีความละเอียดใบวัดมุมสามารถวัดมุมได้ตั้งแต่ 0-180 องศา โดยการทำงานของไม้บรรทัด 2 อันที่วางซ้อนกันและมีปลายข้างหนึ่งติดกัน ทำให้ส่วนปลายอีกข้างสามารถปรับแขน 2 ข้างที่ทำมุมกันสำหรับวัดมุมของชิ้นงาน ในขณะวัดมุมต้องกดแขนวัดมุมทั้ง 2 ข้างให้แนบกับชิ้นงานใบวัดมุม มีทั้งแบบธรรมดาและแบบดิจิทัล