ประวัติส่วนตัว

Get Started. It's Free
or sign up with your email address
ประวัติส่วนตัว by Mind Map: ประวัติส่วนตัว

1. ด

2. นักวิทยาศาสตร์ผู้ซึ่งเป็นเจ้าของฉายา "บิดาแห่งวิทยาศาสตร์ยุคใหม่" คนนี้ เกิดที่ประเทศอิตาลี เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1564 (พ.ศ. 2107) และมีชีวิตอยู่จนอายุ 77 ปี จนกระทั่งเสียชีวิตลงเมื่อวันที่ 8 มกราคม ค.ศ. 1642 (พ.ศ. 2185) โดยเขาเป็นผู้ที่สร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับแนวคิดของวิทยาศาสตร์ยุคก่อนอย่างสิ้นเชิง ด้วยการยึดมั่นในทฤษฎีของตัวเองว่าดาวเคราะห์เป็นฝ่ายหมุนรอบดวงอาทิตย์ ซึ่งขัดกับความเชื่อของชาวคริสต์ในสมัยก่อนที่สนับสนุนทฤษฎีของอริสโตเติล ที่เชื่อว่าพระอาทิตย์และดวงจันทร์เป็นฝ่ายหมุนรอบโลก จนทำให้เขาถูกห้ามไม่ให้สอนนักเรียนของเขาเกี่ยวกับทฤษฎีนี้อีก มิฉะนั้นจะถูกจับเผาทั้งเป็น เขาจึงได้ประดิษฐ์กล้องโทรทรรศน์ขึ้นมาด้วยตัวเองเพื่อศึกษาเพิ่มเติมและพิสูจน์ว่าทฤษฎีของเขาเป็นความจริงในที่สุด

3. FB: แอม'เวย์.

4. ชื่อ

4.1. นส.จุฑารัตน์ บริสุทธิ์

4.2. วันเกิด

4.3. วันที่ 1 ธันวาคม พ.ศ.2545

4.4. ชื่อเล่น

4.4.1. แอม

5. สถานที่ที่ชอบไป

6. ผลไม้ที่ชอบ

7. ขนมที่ชอบ

8. อาชีพที่อยากจะเป็น

9. ประวัติของนักวิทยาศาสตร์

9.1. เซอร์ไอแซก นิวตัน

9.2. (sir lsaac Newton)

9.3. แน่นอนว่าในบรรดานักวิทยาศาสตร์เก่ง ๆ จะขาดนักวิทยาศาสตร์ชาวอังกฤษอย่าง เซอร์ไอแซก นิวตัน ไม่ได้เด็ดขาด โดย เซอร์ไอแซก นิวตัน เกิดเมื่อวันที่ 25 ธันวาคม ค.ศ. 1642 (พ.ศ. 2185) และเสียชีวิตลงขณะอายุ 85 ปี ในวันที่ 20 มีนาคม ค.ศ. 1727 หรือ พ.ศ. 2270 (ตามปฏิทินจูเลียนของ จูเลียส ซีซาร์) ซึ่งเขาเป็นอัจฉริยะที่เก่งรอบด้านทั้งในฐานะนักฟิสิกส์ นักคณิตศาสตร์ นักดาราศาสตร์ นักปรัชญา นักเล่นแร่แปรธาตุ และนักเทววิทยา โดยผลงานเด่นที่สุดของเขาที่คนรู้จักกันดีที่สุดก็คือ กฎการเคลื่อนที่ของนิวตันและกฎแรงโน้มถ่วงสากล ที่เขาคิดขึ้นมาได้จากการสังเกตผลแอปเปิลที่ตกจากต้นนั่นเอง

9.4. กาลิเรโอ กาลอเราอี

9.5. (Galileo Galilei)

9.6. โทมัส อัลวา เอดิสัน

9.7. (Thomas Alva Edison)

9.8. เชื่อเถอะว่าในบ้านของเราต้องมีสิ่งประดิษฐ์ของโทมัส อัลวา เอดิสัน กันทุกคนแน่นอน เพราะนักวิทยาศาสตร์ชาวอังกฤษซึ่งเกิดเมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1847 (พ.ศ. 2390) และเสียชีวิตในวัย 84 ปี เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม ค.ศ. 1931 (พ.ศ. 2474) คนนี้ เป็นเจ้าของสิทธิบัตรสิ่งประดิษฐ์มากมายที่เราใช้กันในชีวิตประจำวันกว่า 1,000 ชิ้น โดยเฉพาะการคิดค้นหลอดไฟที่เป็นผลงานชิ้นเอก แม้ว่าเขาจะมีปัญหาเรื่องการเรียนรู้ทำให้อ่านหนังสือไม่ออกจนกระทั่งอายุ 12 ปี และบกพร่องเรื่องการฟังหลังประสบอุบัติเหตุบนรถไฟก็ตาม

10. Notepad เป็นเครื่องมือแก้ไขข้อความพื้นฐานที่เป็นส่วนหนึ่งของ Windows เป็นเวลานาน เป็นที่ยอดเยี่ยมสำหรับการเขียนเอกสารข้อความสั้น ๆ ที่คุณต้องการบันทึกเป็นข้อความล้วนและนั่นไม่ใช่สิ่งที่คุณสามารถทำได้ด้วย หากคุณยังไม่ได้ใช้ Notepad มากนักคุณอาจรู้สึกประหลาดใจกับวิธีการที่ง่ายต่อการใช้งาน ลองมาดูใหม่ที่แอปเดสก์ท็อปรุ่นเก่านี้สำหรับ Windows สิ่งที่เป็นและสิ่งที่: หมายเหตุ :: Notepad เป็นส่วนใหญ่เหมือนกันใน Windows 10, Windows 7 และ Windows 8.1 ดังนั้นส่วนมากของภาพประกอบในบทความนี้ถูกสร้างขึ้นใน Windows 10 ข้อแตกต่างเพียงอย่างเดียวคือวิธีที่คุณเปิดแอ็พพลิเคชันในแต่ละระบบปฏิบัติการ

10.1. สวงฝส

10.1.1. โปรแกรม USB Disk Security มันถูกพัฒนาขึ้นมาโดยทีมผู้พัฒนาจาก บริษัท Zbshareware Limited ประเทศฮ่องกง (Hong Kong) Ffpมีจุดมุ่งหมายสำคัญคือ เอาไว้ป้องกันไวรัส มัลแวร์ ที่อาจจะเกิดขึ้นจากการเสียบอุปกรณ์เก็บข้อมูลพกพา (Portable Storage Device) ในประเภทที่เชื่อมต่อกันโดยพอร์ต USB ซึ่งในปัจจุบันนี้กำลังเป็นที่นิยมอย่างสูง ไม่ว่าจะเป็น แฟลชไดร์ฟ (USB Flash Drive) ตัวอ่านข้อมูลจากการ์ดหน่วยความจำ เมมโมรี่การ์ด (Memory Card Reader) หรือแม้แต่ จาก ฮาร์ดดิสก์พกพา (Portable Harddisk) ฮาร์ดดิสก์ภายนอก (External Harddisk) เป็นต้น เพราะปัจจุบันนี้มีผู้ไม่หวังดี พัฒนาไวรัส หรือ ภัยคุกคามประเภทนี้ออกมาเยอะ จึงจำเป็นต้องมีโปรแกรม USB Disk Security นี้ออกมา พูดง่ายๆ เลยมันคือ โปรแกรมสแกนไวรัส บนแฟลชไดร์ฟ เมมโมรี่การ์ด หรือ ฮาร์ดดิสก์พกพา นั่นเอง

11. เครื่องพิมพ์ (Printer) คือ อุปกรณ์ที่ต่อพ่วงกับคอมพิวเตอร์ทำหน้าที่พิมพ์แฟ้มดิจิทอล (Soft Copy) ออกมาเป็นเอกสารในรูปกระดาษ (Hard Copy) แฟ้มดิจิทอลที่อยู่ในคอมพิวเตอร์อาจเป็นภาพ ตัวอักษร และมีสีที่แตกต่างกัน เครื่องพิมพ์ที่น่าใช้มีให้เลือกมากมายด้วยคุณสมบัติที่เพิ่มขึ้นกว่าในอดีตที่ใช้เพื่องานพิมพ์เท่านั้น เช่น คัดลอกเอกสารหรือเป็นเครื่องถ่ายเอกสาร แปลงข้อมูลจากเอกสารเป็นแฟ้มดิจิทอล พิมพ์เอกสารจากแฟ้มดิจิทอล เป็นเครื่องโทรสาร และโทรศัพท์ในเครื่องเดียวกัน เครื่องพิมพ์ที่นิยมใช้กันอยู่ในปัจจุบันมี 4 รุ่นคือ ด็อทเมทริกซ์ (Dotmatrix) อิงค์เจ็ท (Inkjet) เลเซอร์ (Laser) โซลิดอิงค์ (Solid Ink) สำหรับรุ่นที่มียอดขายสูงสุดคือ อิงค์เจ็ท ส่วนเครื่องพิมพ์เลเซอร์เหมาะกับองค์กรขนาดใหญ่ หรือต้องการคุณภาพของงานพิมพ์สูง

11.1. หลักการทำงาน ขั้นพื้นฐานของ กล้องถ่ายภาพนั้น หากอธิบายอย่างง่ายๆ ก็คือ การที่แสง สะท้อน จากวัตถุ แล้วเดิน ทางเป็นเส้นตรงผ่านช่องเล็กๆ ของกล่อง สี่เหลี่ยมเข้ามา จนเกิดเป็นภาพของวัตถุบน ฉากรองรับ ด้านตรงข้าม ซึ่งภาพที่ได้นั้นจะ เป็นภาพแบบหัวกลับ อันเป็นหลักการ ทำงาน ที่เป็น จุดกำเนิดของการสร้างกล้องรู เข็ม (Obscura) ในสมัยโบราณ หลังจากนั้น กล้องถ่ายภาพก็ได้ ถูกพัฒนามา โดยตลอด เช่น มีการนำเอา เลนส์นูนไปติดตั้ง ที่ช่องรับแสง ที่มีขนาดเล็ก เพื่อต้องการ รวมแสง เข้าไปภายในตัวกล้อง ให้มากขึ้น ทางด้านตรงกันข้าม ของเลนส์ เป็นตำแหน่งที่ตั้งของวัสดุไวแสงหรือฟิล์ม ซึ่งจะปรากฏภาพถ่ายของวัตถุนั้น แต่ภาพ ถ่ายที่ได้ในยุคแรกๆ มีคุณภาพที่ไม่ดีนัก ในยุคต่อๆ มา จึงมีการปรับปรุงให้สามารถ ปรับที่ตัวเลนส์ เพื่อให้เกิดภาพที่ชัดเจนบน ฟิล์มได้มากขึ้น มีการติดตั้งไดอะแฟรมซึ่ง เป็นกลีบโลหะมีลักษณะเป็นใบๆ ถูกนำมา ประกอบซ้อนกันจนเกิดเป็นลักษณะคล้าย รูปวงกลมปรับขนาดให้กว้างหรือแคบได้ เรียกว่า รูรับแสง รวมทั้งมีส่วนที่เรียกว่า ชัตเตอร์ ทำหน้าที่ควบคุมเวลาในการเปิด- ปิดม่านในการเปิดรับแสงตามเวลาที่ กำหนดเอาไว้ และยังมีการประดิษฐ์ช่อง มองภาพขึ้นมา เพื่อช่วยในการจัดองค์ประ- กอบของภาพถ่าย ซึ่งหลักการทำงานต่างๆ ทั้งหมด ที่ถูกคิดค้น ขึ้น จนมาเป็น กล้องถ่ายภาพ นั้น เปรียบได้ กับหลักการ ทำงานของ ดวงตามนุษย์เรา นั่นเอง

11.2. สแกนเนอร์ คืออุปกรณ์จับภาพและเปลี่ยนแปลงภาพ จากรูปแบบของแอนาลอกเป็นดิจิตอล ซึ่งคอมพิวเตอร์ สามารถแสดง, เรียบเรียง, เก็บรักษาและผลิตออกมาได้ ภาพนั้นอาจจะเป็นรูปถ่าย, ข้อความ, ภาพวาด หรือแม้แต่วัตถุสามมิติ สแกนเนอร์แบ่งป็น 3 ประเภทหลัก ๆ คือ 1. สแกนเนอร์ดึงกระดาษ (Sheet – Fed Scanner) 2. สแกนเนอร์แท่นเรียบ (Flatbed Scanner) 3. สแกนเนอร์มือถือ (Hand – Held Scanner) สแกนเนอร์ดึงกระดาษ (Sheet – Fed Scanner) สแกนเนอร์แบบนี้จะรับกระดาษแล้วค่อย ๆ เลื่อนหน้ากระดาษแผ่นนั้นให้ผ่านหัวสแกน ซึ่งอยู่กับที่ข้อจำกัดของสแกนเนอร์ แบบเลื่อนกระดาษ คือสามารถอ่านภาพที่เป็นแผ่นกระดาษได้เท่านั้น ไม่สามารถ อ่านภาพจากสมุดหรือหนังสือได้ สแกนเนอร์แท่นเรียบ (Flatbed Scanner) สแกนเนอร์แบบนี้จะมีกลไกคล้าย ๆ กับเครื่องถ่ายเอกสาร เราแค่วางหนังสือหรือภาพไว้ บนแผ่นกระจกใส และเมื่อทำการสแกน หัวสแกนก็จะเคลื่อนที่จากปลายด้านหนึ่งไปยังอีกด้านหนึ่ง ข้อจำกัดของสแกนเนอร์ แบบแท่นนอนคือแม้ว่าอ่านภาพจากหนังสือได้ แต่กลไกภายในต้องใช้ การสะท้อนแสงผ่านกระจกหลายแผ่น ทำให้ภาพมีคุณภาพไม่ดีเมื่อเทียบกับแบบแรก สแกนเนอร์มือถือ (Hand – Held Scanner) สแกนเนอร์แบบนี้ผู้ใช้ต้องเลื่อนหัวสแกนเนอร์ไป บนหนังสือหรือรูปภาพเอง สแกนเนอร์ แบบมือถือได้รวม เอาข้อดีของสแกนเนอร์ ทั้งสองแบบเข้าไว้ด้วยกันและมีราคาถูก เพราะกลไกที่ใช้ไม่ สลับซับซ้อน แต่ก็มีข้อจำกัด ตรงที่ว่าภาพที่ได้จะมีคุณภาพแค่ไหน ขึ้นอยู่กับความสม่ำเสมอ ในการเลื่อนหัวสแกนเนอร์ของผู้ใช้งาน นอกจากนี้หัวสแกนเนอร์แบบนี้ยังมีหัวสแกนที่มีขนาดสั้น ทำให้ อ่านภาพบนหน้าหนังสือขนาดใหญ่ได้ไม่ครบ 1 หน้า ทำให้ต้องอ่านหลายครั้งกว่าจะครบหนึ่งหน้า ซึ่งปัจจุบันมีซอฟต์แวร์หลายตัว ที่ใช้กับสแกนเนอร์ แบบมือถือ ซึ่งสามารถต่อภาพที่เกิดจากการสแกนหลายครั้งเข้าต่อกัน

12. งานที่4

13. ID:AM!!!!!

14. อาหารที่ชอบ

15. งานอดิเรก

16. เวลาว่าง

17. กีฬาที่่ชอบ

18. ปัจจุบัศึกษาอยู๋ที่โรงเรียนอู่ทอง

19. โทษของบุหร่

19.1. 1.ก่อให้เกิดมะเร็ง

19.2. 2.โรคหัวใจ

19.3. 3.โรคกระดูกกล้ามเนื้อ

19.4. 4.มีโอกาศตาบอด

19.5. 5.เสื่อมสภาพทางเพศ

19.6. 6.โรคทางกาารเดินหายใจ

19.7. 7.

20. งานที่ 6

21. งานที5

22. งานที่7

22.1. ประวัติการศึกษา

22.1.1. กิจกรรมที่เข้าร่วม

22.1.1.1. หลักฐานเเสดงตัวตน

23. งานที่ 9

23.1. YOYHUY

24. งานที่8

24.1. มาา

24.1.1. ยนวร

24.2. jfg