1. 3.การศึกษาในศตวรรษที่ 21
1.1. 1.Foundational Literacies กลุ่มทักษะพื้นฐานที่จำเป็นต้องใช้ใน ‘การปฏิสัมพันธ์กับบริบทที่แตกต่างกัน’ ซึ่งแปลง่ายๆก็คือ ‘อยู่ที่ไหนแล้วต้องใช้อะไรบ้าง’ นั่นเอง เพราะเทคโนโลยีและความรู้ใหม่ๆได้ก่อให้เกิดบริบทการใช้ชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม
1.2. 2.Competencies กลุ่มทักษะที่ต้องนำมาใช้ใน ‘การจัดการกับปัญหา’ หรือความท้าทายที่ต้องเจอในชีวิต ซึ่งความท้าทายเหล่านั้นจะมีความซับซ้อนขึ้นกว่าเมื่อเทียบกับความท้าทายในโลกเก่า โดยกลุ่มทักษะนี้จะเป็นทักษะสำคัญที่ใช้ร่วมกันในการวิเคราะห์ปัญหาให้ถูกจุด
1.3. 3.Character Qualities กลุ่มทักษะที่ใช้ใน ‘การจัดการตัวเองกับสภาพสังคม’ ที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว
2. 4.ทฤษฎี ความหมาย ขอบเขต แนวความคิด ทางนวัตกรรม เทคโนโลยีสารสนเทศ IT เพื่อการสื่อสาร FOR EDUCATION
2.1. ความหมาย
2.1.1. นวัตกรรม หมายถึง แนวความคิด การปฏิบัติหรือสิ่งประดิษฐ์ใหม่ๆ ที่ยังไม่เคยมีใช้มาก่อนหรือเป็นการพัฒนา ดัดแปลงจากของเดิมที่มีอยู่แล้วให้ทันสมัยและใช้ได้ผลดียิ่งขึ้น เมื่อนำนวัตกรรมมาใช้จะช่วยให้การทำงานนั้นได้ผลดี มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลสูงกว่าเดิม
2.2. แนวคิด
2.2.1. สามารถที่จะใช้แนวคิด เทคนิค วิธีการ รูปแบบการสอนต่างๆ หรือการนำสิ่งที่ไม่ใช่เทคโนโลยี มาประดิษฐ์เป็นอุปกรณ์ วิธีการสอน หรือสื่อใหม่ๆโดยไม่จำเป็นต้องพึ่งพาเทคโนโลยี เพื่อพัฒนาการสอนให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นได้
2.3. การยอมรับในสิ่งใหม่หรือการเปลี่ยนแปลงจากสิ่งที่เคยทำเป็นประจำของเทคโนโลยี
2.3.1. การยอมรับในสิ่งใหม่หรือการเปลี่ยนแปลงจากสิ่งที่เคยทำเป็นประจำ ไปสู่สิ่งใหม่ จะไม่ได้รับการยอมรับ จนกว่าผู้นั้นจะเห็นว่าสิ่งนั้นมีประโยชน์เหมาะสมกับการนำไปใช้ จึงจะเกิดการยอมรับ และค่อยๆ เปลี่ยนแปลงตนให้ยอมรับ และใช้แนวคิด การปฏิบัติ หรือสิ่งใหม่ๆ เหล่านั้น
2.3.2. กลุ่มแรกเราเรียกว่า กลุ่มคนแบบ Innovator หรือที่เราเรียกกันว่ากลุ่มนวัตกร กลุ่มคนเหล่านี้จะเป็นกลุ่มแรกๆ ที่ต้องการใช้หรืออยากลองนวัตกรรม แนวคิด วิธีการที่เกิดขึ้นใหม่ๆ แรงจูงใจสำคัญก็คือการคิดว่าตัวเองเป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลง คนกลุ่มนี้จะยินดีใช้นวัตกรรมหรือเทคโนโลยีใหม่ โดยยอมรับกับปัญหาและความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นในระยะแรกๆ ในการใช้สิ่งใหม่ๆ เหล่านั้น
2.3.3. กลุ่มที่ 2 เราเรียกว่ากลุ่ม Early Adopters คือกลุ่มคนที่พร้อมจะเปลี่ยนแปลงตนเองเมื่อเห็นคนอื่นเริ่มใช้ และมองเห็นประโยชน์จากนวัตกรรมหรือเทรนด์ใหม่ๆที่เกิดขึ้น มีความตระหนักถึงความจำเป็นที่จะต้องมีการเปลี่ยนแปลง ไม่จำเป็นต้องโน้มน้าวหรือชักจูงให้เปลี่ยนแปลง คิดเป็น 13.5%
2.3.4. กลุ่มคนกลุ่มที่ 3 เราจะเรียกว่า Early Majority คิดเป็นประมาณ 34% คนกลุ่มนี้มีความพร้อมที่จะเปลี่ยนแปลงตนเอง และมองเห็นประโยชน์จากนวัตกรรมหรือเทรนด์ใหม่ๆ ที่เกิดขึ้น แต่จะระมัดระวังและใช้เหตุผลในการตัดสินใจพอสมควร เพราะต้องการความมั่นใจว่าเทคโนโลยีนี้จะประสบความสำเร็จ โดยอาจจะดูจากกลุ่มคนที่ใช้เทคโนโลยีนี้แรกๆ ว่าใช้ได้ผล มีประโยชน์ จึงจะค่อยๆ เปลี่ยนแปลงตนเอง
2.3.5. กลุ่มที่ 4 เราเรียกว่า Late Majority คือคนส่วนใหญ่ กลุ่มมาทีหลัง คิดเป็นอีก 34% คนกลุ่มนี้จะเป็นกลุ่มคนที่จะเปลี่ยนแปลงตนเองช้าที่สุด หรืออาจจะเรียกว่าเปลี่ยนแปลงตนเองในนาทีสุดท้าย ถ้าไม่โดนสั่งหรือบังคั
3. 5.เครื่องมือบนโลกออนไลน์ (NEW MEDIA)
3.1. 1. AR Type คือเทคโนโลยีที่ผสมความเป็นจริงเข้ากับโลกเสมือน โดยใช้วิธีการซ้อนภาพ
3.2. 2.Infographi C Type นำเสนอข้อมูลที่ยากไปง่าย ทำให้เพิ่มสมรรถนะในการคิดและพัฒนาไอเดีย และยังทำให้ข้อมูลอยู่ได้นานแล้วยังดึงกลับมาใช้ใหม่ได้อีกด้วย
3.3. 3.Presentation Type เป็นสื่อที่เป็นการนำเสนอทำให้น่าสนใจ เรียนรู้ได้ง่าย
3.4. 4.Animation Type กราฟฟิคเคลื่อนไหวทำให้ง่ายต่อการเรียนรู้
3.5. 5.Game Type ใช้สิ่งที่ผู้เรียนได้เรียนรู้มาปรับใช้ให้เกิดประโยชน์ทางการเรียน
3.6. 6.Blog Type การนำ Log บนเว็บมาใช้เก็บข้อมูลนำเสนอต่างๆ และสามารถแบ่งข่าวสาร ความรู้ ประสบการณ์ รวมถึงเปิดโอกาศให้ผู้ที่เข้ามาอ่าานแสดงควมคิดเห็นได้อีกด้วย
3.7. 7.Encyclopedia Type คือ vikipedai เครื่องมือการทำงานร่วมกันแบบออนไลน์
3.8. 8.Personal Website Type เป็นเว็บที่เพื่อนำเสนอแก่ผู้เรียน
3.9. 9.Social Media Type เครื่องมือสร้างชุมชนของผู้คนบนโลกออนไลน์
3.10. 10.Curation Type
3.11. 11.Video based Sharing Type
3.12. 12.LMS Type
4. 7.ประโยชน์ของสื่อการเรีัยนรู้ทางเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการศึกษา
4.1. การใช้สื่อการเรียนรู้ทางเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการศึกษา ถือว่ามีความจำเป็นและเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง ในการจัดกิจกรรมกรเรียนการสอน เนื่องจากสื่อเหล่านี้นอกจากจะเป็นตัวกลางในการถ่ายทอดเนื้อหาจากผู้สอนไปสู้ผู้เรียนยังเป็นสื่อที่ผู้เรียนสามารถนำไปใช้เพื่อการเรียนรู้ด้วยตัวเองได้อีกด้วย
4.2. ประโยชน์ต่างๆของเทคโนโลยีเพื่อการสื่อสาร
4.2.1. 1.สามารถใช้สื่อการเรียนรู้เป็นสื่อเสริม หรือทบทวนการสอนปกติในชั้นเรียนได้
4.2.2. 2.ช่วยให้การเรียบนการสอนมีประสิทธิภาพเพราะถ่ายทอดเนื้อหาผ่านทางมัลติมีเดีย และสื่อประสม ได้แก่ ข้อความ ภาพนิ่ง ภาพกราฟฟิค ภาพเคลื่อนไหว วีดีทัศน์และเสียง รวมถึงการเชื่อมโยงแบบ Hyperlink อีกทั้งยังสนับสนุนการเรียนรู้เป็นอย่างดี
4.3. สื่อที่ออกแบบตามหลักการออกแบบสื่อการเรียนรู้ทางเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการศึกษา และทฤษฎีการเรียนรู้ สามารถสร้างแรงจูงใจ ให้ผู้เรียนเกิดความกระตือรือร้นในการเรียนรู้ได้ และผู้เรียนยังสนุกไปกับการเรียนตามแนวคิดของการเรียนรู้ในปัจจุบันที่ว่า "Learning is Fun" อีกด้วย
5. 1.ทฤษฎี ความหมาย ความสำคัญ ทางนวัตกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการศึกษา
5.1. ความหมายของนวัตกรรม
5.1.1. นวัตกรรมการศึกษา คือ การนำสิ่งใหม่ๆ ซึ่งอาจจะเป็นความคิด วิธีการ หรือการกระทำ หรือสิ่งประดิษฐ์ขึ้น ทั้งในส่วนที่ไม่เคยมีมาก่อน หรือเป็นการพัฒนาดัดแปลงจากสิ่งที่มีอยู่แต่เดิม ให้ดีขึ้น โดยอาศัยหลักการ ทฤษฎี ที่ได้ผ่านการทดลองวิจัยจนเชื่อถือได้นำมาใช้บังเกิดผลเพิ่มพูนประสิทธิภาพต่อการเรียนรู้
5.2. ความสำคัญของนวัตกรรม
5.2.1. นวัตกรรมมีความสำคัญต่อการศึกษาหลายประการ ทั้งนี้เนื่องจากในโลกยุคโลกาภิวัฒน์โลกมีการเปลี่ยนแปลงในทุกด้านอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ความก้าวหน้าทั้งด้านเทคโนโลยีและสารสนเทศ การศึกษาจึงจำเป็นต้องมีการพัฒนาเปลี่ยนแปลงจากระบบการศึกษาที่มีอยู่เดิม เพื่อให้ทันสมัยต่อการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี และสภาพสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป อีกทั้งเพื่อแก้ไขปัญหาทางด้านศึกษาบางอย่างที่เกิดขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพเช่นเดียวกัน
5.3. ทฤษฎี
5.3.1. 1.หลักการและทฤษฎีทางจิตวิทยาการศึกษา
5.3.1.1. 1.1 ทฤษฎีการเรียนรู้
5.3.1.2. 1.2 ทฤษฎีความแตกต่างระหว่างบุคคล
5.3.1.3. 1.3 ทฤษฎีการพัฒนาการ
5.3.2. 2. ทฤษฎีการสื่อสาร
5.3.3. 3. ทฤษฎีระบบ
5.3.4. 4. ทฤษฎีการเผยแพร่