ภาษาคอมพิวเตอร์
by อย่า เยอะกับผม
1. .ภาษา PHP
1.1. ภาษาคอมพิวเตอร์ในลักษณะเซิร์ฟเวอร์-ไซด์ สคริปต์ โดยลิขสิทธิ์อยู่ในลักษณะโอเพนซอร์ส ภาษาพีเอชพีใช้สำหรับจัดทำเว็บไซต์ และแสดงผลออกมาในรูปแบบ HTML โดยมีรากฐานโครงสร้างคำสั่งมาจากภาษา ภาษาซี ภาษาจาวา และ ภาษาเพิร์ล ซึ่ง ภาษาพีเอชพี นั้นง่ายต่อการเรียนรู้ ซึ่งเป้าหมายหลักของภาษานี้ คือให้นักพัฒนาเว็บไซต์สามารถเขียน เว็บเพจ ที่มีความตอบโต้ได้อย่างรวดเร็ว
1.2. <html> <head> <title>Example 1 </title> </head> <body> .<? 7. echo"Hi, I'm a PHP script!"; ?> </body> </html>
2. .ภาษา C++
2.1. ภาษา C programming language รุ่นใหม่ เป็นภาษาในการเขียนโปรแกรม ถูกพัฒนาโดย Dr.Bjarne Stroustrup
2.2. #include <iostream> int main() { std::cout << "Hello World"<< endl; return 0; }
3. .ภาษา Java
3.1. Java programming language คือภาษาโปรแกรมเชิงวัตถุ พัฒนาโดย เจมส์ กอสลิง และวิศวกรคนอื่นๆ ที่บริษัท ซัน ไมโครซิสเต็มส์ ภาษานี้มีจุดประสงค์เพื่อใช้แทนภาษาซีพลัสพลัส C++ โดยรูปแบบที่เพิ่มเติมขึ้นคล้ายกับภาษาอ็อบเจกต์ทีฟซี (Objective-C) แต่เดิมภาษานี้เรียกว่า ภาษาโอ๊ก (Oak) ซึ่งตั้งชื่อตามต้นโอ๊กใกล้ที่ทำงานของ เจมส์ กอสลิง แล้วภายหลังจึงเปลี่ยนไปใช้ชื่อ “จาวา” ซึ่งเป็นชื่อกาแฟแทน จุดเด่นของภาษา Java อยู่ที่ผู้เขียนโปรแกรมสามารถใช้หลักการของ Object-Oriented Programming มาพัฒนาโปรแกรมของตนด้วย Java ได้
3.2. // ประกาศ class public class MyClass { // ประกาศ Method ชื่อ main เพราะ java จะเรียกหา Method main เป็น Method แรก public static void main(String[] args) { System.out.println("Hello World!"); // แสดงข้อความว่า Hello World! System.out.println(5+3);//นำ 5+3 แล้วแสดงออกทางหน้าจอ } }
4. .ภาษา Python
4.1. ภาษาตัว นี้เป็น OpenSource เหมือนอย่าง PHP ทำให้ทุกคนสามารถที่จะนำ Python มาพัฒนาโปรแกรมของเราได้ฟรีๆโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย และความเป็น Open Source ทำให้มีคนเข้ามาช่วยกันพัฒนาให้ Python มีความสามารถสูงขึ้น และใช้งานได้ครบคุมกับทุกลักษณะงาน
4.2. #-*- coding: utf8 -*- print "ยินดีต้อนรับ" loop = 'true' while(loop == 'true'): # ทำการ ใช้ while เพื่อ ลูปหา username password ในระบบ username = raw_input("Enter User: ") password = raw_input("Enter Pass: ") if(username == "admin" and password == "1234"): print 'ล็อกอินสำเร็จ' + username loop = 'false' #เมื่อลูปเจอ username password ในระบบแล้ว จะเปลี่ยนตัวแปล loop = 'false' เพื่อ ออกจากลูป loop1 = 'true' while(loop1 == 'true'): #ทำการใช้ while อีกครั้งเพื่ออกจากระบบ command = raw_input(username + ">> ") if(command == "exit"): #ถ้ามีการพิมคำว่า 'exit' ก็จะออกจากระบบ โดย ใช้ break print 'ออกจากระบบสำเร็จ' break else: print "'" +command+ "' คำสั่งผิด!" else: print 'รหัสผ่านผิด'
5. .ภาษา Javascript
5.1. ภาษาคอมพิวเตอร์สำหรับการเขียนโปรแกรมบนระบบอินเทอร์เน็ตที่มีเป้าหมายในการ ออกแบบและพัฒนาโปรแกรมในระบบอินเทอร์เน็ต สำหรับผู้เขียนด้วยภาษา HTML สามารถทำงานข้ามแพลตฟอร์มได้ โดยทำงานร่วมกับ ภาษา HTML และภาษา
5.2. var x; //ประกาศตัวแปร x, โดยที่ยังไม่มีการใส่ค่า var y = 2; //ประกาศตัวแปร y ให้มีค่าเท่ากับ 2
6. .ภาษา C#
6.1. เป็นภาษาโปรแกรมคอมพิวเตอร์ระดับสูงที่ใช้สาหรับเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์
6.2. ตัวอย่างต่อไปนี้ คือตัวอย่างโปรแกรม Hello world ใน C#: public class ExampleClass { public static void Main() { System.Console.WriteLine("Hello, world!"); } }
7. .ภาษา C
7.1. ภาษาคอมพิวเตอร์ใช้สำหรับพัฒนาโปรแกรมทั่วไป
7.2. โครงสร้างของโปรแกรมภาษาซี และตัวอย่าง
7.2.1. 1. Function Heading ประกอบด้วยชื่อฟังก์ชัน และอาจมีรายการของ argument (บางคนเรียก parameter) อยู่ในวงเล็บ
7.2.2. 2. Variable Declaration ส่วนประกาศตัวแปร สำหรับภาษาซี ตัวแปรหรือค่าคงที่ทุกตัว ที่ใช้ในโปรแกรมจะต้องมีการประกาศก่อนว่าจะใช้งานอย่างไร จะเก็บค่าในรูปแบบใดเช่น interger หรือ real number
7.2.3. 3. Compound Statements ส่วนของประโยคคำสั่งต่างๆ ซึ่งแบ่งเป็นประโยคเชิงซ้อน (compound statement) กับ ประโยคนิพจน์ (expression statment) โดยประโยคเชิงซ้อนจะอยู่ภายในวงเล็บปีกกาคู่หนึ่ง { และ } โดยในหนึ่งประโยคเชิงซ้อน จะมีประโยคนิพจน์ที่แยกจากกันด้วยเครื่องหมาย semicolon (;) หลายๆ ประโยครวมกัน และ อาจมีวงเล็บปีกกาใส่ประโยคเชิงซ้อนย่อยเข้าไปอีกได้