1. สิ่งที่นักคิดควรจำแนกได้
1.1. ความจริง (truth) กับ ความเชื่อ (belief)
1.1.1. ความจริง
1.1.1.1. สภาวะที่เป็นอยู่จริงของสิ่งต่างๆ
1.1.1.2. พิสูจน์ได้ด้วยหลักฐาน
1.1.2. ความเชื่อ
1.1.2.1. ความรู้สึกมั่นใจและไว้วางใจในบางสิ่งบางอย่าง
1.1.2.2. ความเชื่ออาจเปลี่ยนเป็นความจริงได้ถ้าพิสูจน์ได้อย่างชัดเจน
1.2. ข้อเท็จจริง (fact) กับ ข้อคิดเห็น (opinion)
1.2.1. ข้อเท็จจริง
1.2.1.1. สิ่งที่รับรู้โดยทั่วไปและพิสูจน์ได้ว่าสิ่งนั้นขึ้นเกิดขึ้นและมีอยู่จริง
1.2.2. ข้อคิดเห็น
1.2.2.1. ข้อสรุปตามทัศนะของบุคคลเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้น
1.3. การกล่าวอ้าง (allusion หรือ assertion) กับ หลักฐาน (evidence)
1.3.1. การกล่าวอ้าง
1.3.1.1. คำพูดของคนที่อยู่ในเหตุการณ์
1.3.1.2. คำบอกเล่า
1.3.1.3. ความคิดเห็นของคนที่น่าเชื่อถือตามความคิดของผู้กล่าวอ้าง
1.3.2. หลักฐาน
1.3.2.1. เครื่องแสดงประกอบเพื่อยืนยัน
1.3.2.2. สิ่งที่ใช้พิสูจน์ความถูกต้องหรือความจริง
1.4. ความคุ้นเคย (familiarity) กับ ความสมเหตุสมผล (reasonability หรือ validity)
1.4.1. ความคุ้นเคย
1.4.1.1. การที่เคยเห็น เคยทำบ่อย ๆ จนเกิดเป็นความเคยชิน
1.4.2. ความสมเหตุสมผล
1.4.2.1. การมีเหตุผลสมควร
2. สุนทรียสนทนา
2.1. ความหมาย
2.1.1. การไหลเวียนของคำและประโยคในวงสนทนาของบุคคลที่ถือว่าเป็นกัลยาณมิตรของกันและกัน
2.2. แนวทางปฏิบัติในวงสุนทรียสนทนา
2.2.1. ฟังอย่างลึกซึ้ง
2.2.2. มีความอิสระ
2.2.3. ให้เกียรติทุกคนในวงสนทนาว่าทุกคนมีความเท่าเทียมกัน
2.3. หลักการจัดวงสุนทรียสนทนา
2.3.1. เข้าใจแนวคิดและปรัชญาของการสนทนาในครั้งนั้นให้ชัดเจน
2.3.2. เป็นกัลยาณมิตรกับทุกคน
2.3.3. รู้เท่าทันและติดตามความรู้สึกของตน
2.3.4. การจัดวงสุนทรียสนทนา
2.3.4.1. Setting
2.3.4.2. Process
2.3.4.3. Ends
2.3.4.4. Attitude
2.3.4.5. Key Actor
2.3.4.6. Instrument
2.3.4.7. Norms of Interaction
2.3.4.8. Genre