หลักการออกแบบสื่อ
by 05-ณิชนาถ พรฉัยยา
1. ทวนความรู้เดิม(Activate Prior Knowledge)
1.1. ไม่ควรคาดเดาเอาว่าผู้เรียนมีความรู้พื้นฐานก่อนแล้วจึงมาศึกษาเนื้อหาใหม่ควรมีการทดสอบหรือให้ความรู้เพื่อเป็นการทบทวนให้พร้อมที่จะรับความรู้ใหม่
1.2. การทดสอบหรือทบทวนควรให้กระชับและตรงตามวัตถุประสงค์
1.3. ควรเปิดโอกาสให้ผู้เรียนออกจากแบบทดสอบ หรือเนื้อหาใหม่ เพื่อไปทบทวนได้ตลอดเวลา
1.4. หากไม่มีการทดสอบควรมีการกระตุ้นให้ผู้เรียนกลับไปทบทวนหรือศึกษาในสิ่งที่เกี่ยวข้อง
2. การเสนอเนื้อหา (Present New Information)
2.1. ใช้ภาพนิ่งประกอบการเสนอเนื้อหาโดยเฉพาะส่วนเนื้อหาที่สำคัญ
2.2. พยายามใช้ภาพเคลื่อนไหวในเนื้อหาที่ยากและที่มีการเปลี่ยนแปลงตามลำดับใช้แผนภูมิแผนภาพ สถิติสัญลักษณ์หรือภาพเปรียบเทียบประกอบเนื้อหา
2.3. ในเนื้อหาที่ยากและซับซ้อนให้เน้นข้อความเป็นสำคัญซึ่งอาจเป็นการตีกรอบขีดเส้นใต้การกระพริบก็ทำสีให้เด่น
3. ชี้แนวทางการเรียนรู้ (Guide Learning)
3.1. แสดงให้ผู้เรียนได้เห็นถึงความสัมพันธ์ของเนื้อหาและช่วยให้เห็นสิงย่อยนั้นมีความสัมพันธ์กับสิ่งใหม่อย่างไร
3.2. แสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ของสิ่งใหม่กับสิ่งที่ผู้เรียนมีความรู้หรือมีประสบการณ์มาแล้ว
3.3. พยายามให้ตัวอย่างที่แตกต่างกันออกไปเพื่อช่วยอธิบายความคิดใหม่ให้ชัดเจนยิ่งขึ้น
4. ให้ข้อมูลย้อนกลับ(ProvideFeedback)
4.1. แบบไม่เคลื่อนไหวหมายถึงการเสริมแรงด้วยการแสดงคำหรือข้อความบอกความถูกหรือผิด และรวมถึงการเฉลย
4.2. แบบเคลื่อนไหวหมายถึงการเสริมแรงด้วยการแสดงกราฟฟิคเช่นภาพ หน้ายิ้มหน้าเสียใจหรือมีข้อความประกอบให้ชัดเจน
4.3. แบบ โต้ตอบหมายถึงการเสริมแรงด้วยการให้ผู้เรียนได้มีกิจกรรมเชิงโต้ตอบกับบทเรียนเป็นกิจกรรมที่จัเสริมหรือเพื่อเกิดการกระตุ้นแก่ผู้เรียนเช่นเกม
4.4. แบบทำเครื่องหมายหมายถึงการทำเครื่องหมายบนคำตอบของผู้เรียนเมื่อมีการตอบคำถามซึ่งอยู่ในรูปของวงกลมขีดเส้นใต้หรือใช้สีที่แตกต่าง
5. การจำและนำไปใช้ (Promote Retention and Transfer)
5.1. ทบทวนแนวคิดที่สำคัญและเนื้อหาที่เป็นสรุป
5.2. สรุปให้ผู้เรียนได้ทราบว่าความรู้ใหม่มีความสัมพันธ์กับความรู้เดิมหรือประสบการณ์ที่ผ่านมาอย่างไร
5.3. เสนอแนะเนื้อหาที่เป็นความรู้ใหม่ซึ่งจะนำไปใช้ประโยชน์ได้
6. เร้าความสนใจ (Gain Attention)
6.1. ใช้กราฟิกเก่ียวข้องกับส่วนเน้ือหาควรมีขนาดใหญ่ชัดเจนไม่ซับซ้อน
6.2. ใช้ภาพเคลื่อนไหว(Animation)หรือเทคนิคอื่นๆเพื่อแสดงการเคลื่อนไหวที่ควรสั้นและง่าย
6.3. ควรใช้สีเข้าช่วยโดยเฉพาะสีเขียวน้าเงินหรือสีเข้มอื่นๆท่ีตัดกับพื้นชัดเจน
6.4. ใช้เสียงให้สอดคล้องกับกราฟิก
6.5. กราฟิกควรจะใช้เทคนิคท่ีแสดงผลได้อย่างรวดเร็ว
6.6. กราฟิกที่ใช้ต้องเก่ียวข้องกับเน้ือหาและเหมาะสมกับวัย
7. บอกวัตถุประสงค์(SpecifyObjectives)
7.1. ใช้คำสั้นๆและเข้าใจได้ง่าย
7.2. หลีกเลี่ยงคำที่ยังไม่เป็นที่รู้จักและเป็นที่เข้าใจ โดยทั่วไป
7.3. ไม่ควรกำหนดวัตถุประสงค์หลายข้อเกินไปในเนื้อหาแต่ละส่วน
7.4. ผู้เรียนควรมีโอกาสที่จะทราบว่าหลังจบบทเรียนเขาสามารถนำไปใช้ทำอะไรได้บ้าง
7.5. หากบทเรียนนั้นยังมีบทเรียนย่อยๆ ควรบอกจุดประสงค์กว้างๆและบอกจุดประสงค์เฉพาะส่วนของบทเรียนย่อย
8. กระตุ้นการตอบสนอง (Elicit Responses)
8.1. พยายามให้ผู้เรียนได้ตอบสนองด้วยวิธีใดวิธีหนึ่งตลอดการเรียน
8.2. ควรให้ผู้เรียนได้มีโอกาสพิมพ์คำตอบหรือข้อความเพื่อเร้าความสนใจ แต่ก็ไม่ควรจะยาวเกินไป
8.3. ถามคำถามเป็นช่วงๆตามความเหมาะสมของเนื้อหาเพื่อเราความคิดและเจตนาการของผู้เรียน
9. ทดสอบความรู้ (Access Performance)
9.1. ต้องแน่ใจว่าสิ่งที่ต้องการวัดนั้นตรงกับจุดประสงค์
9.2. ข้อทดสอบคำตอบและฟิตแบคอยู่ในเฟรมเดียวกัน
9.3. หลีกเลี่ยงการให้พิมพ์คำตอบที่ยาวเกินไป
9.4. ให้ผู้เรียนตอบครั้งเดียวในแต่ละคำถาม
9.5. อธิบายให้ผู้เรียนทราบว่าควรจะตอบด้วยวิธีใด
9.6. ควรมีรูปภาพประกอบด้วยนอกจากข้อความ
9.7. คำนึงถึงความแม่นยำและความน่าเชื่อถือของแบบทดสอบด้วย