1. ความหมายของคอมพิวเตอร์
1.1. ชุดคํานวณอิเล็กทรอนิกส์โดยใช้วิธีทางคณิตศาสตร์ประกอบด้วยฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ สามารถทํางานคํานวณผลและเปรียบเทียบค่าตามชุดคําสั่งด้วยความเร็วสูงอย่างต่อเนื่องและอัตโนมัติ
1.2. เครื่องอิเล็กทรอนิกส์แบบอัตโนมัติทําหน้าที่เหมือนสมองกลใช้สําหรับแก้ปัญหาต่างๆที่ ง่ายและซับซ้อนโดยวิธีทางคณิตศาสตร์
2. ชนิดของคอมพิวเตอร์
2.1. คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล สามารถประมวลผลข้อมูลได้เร็ว ใช้กับธุรกิจขนาดเล็กเช่นโรงเรียนหรือที่บ้าน
2.2. คอมพิวเตอร์ Notebook หรือ laptop มีขนาดเล็กพกพาง่าย ออกแบบมาเพื่อรองรับการเชื่อมต่อแบบไร้สายสำหรับการสื่อสารข้อมูลและการเข้าถึงอินเทอร์เน็ต
2.3. Netbook มีขนาดเล็กกว่า laptop มีน้ำหนักเบาต้นทุนต่ำใช้พลังงานเท่าที่จำเป็นเหมาะสำหรับการใช้งานที่อาศัยอินเทอร์เน็ตเป็นพื้นฐานเช่นการอ่านเว็บหรือการใช้อีเมลมีหน้าจอขนาดเล็ก 7-10 นิ้วมีการเชื่อมต่อแบบไร้สาย แต่ไม่มีช่องสำหรับใส่ซีดีและมีแป้นพิมพ์ที่ค่อนข้างเล็ก
2.4. แท็บเล็ตมีลักษณะคล้ายกับโน๊ตบุ๊ค สะดวกสำหรับพกพาและการเชื่อมต่อข้อมูลหน้าจอสามารถหมุนหรือพักได้หน้าจอระบบสัมผัสเพื่อการป้องข้อมูลโดยใช้นิ้วมือประกาศหรือแป้นพิมพ์ที่อยู่ภายในเครื่อง
2.5. โทรศัพท์มือถือ ถือได้ว่าเป็นคอมพิวเตอร์อีกชนิดหนึ่งที่มีขนาดเล็กพกพาง่ายมีความสามารถหลายอย่างเช่นฟังเพลงถ่ายรูปอัดวีดีโอส่งข้อความอีเมล์ใช้งานอินเทอร์เน็ตใช้ระบบนำทาง ราคาแต่ละรุ่นขึ้นอยู่กับคุณสมบัติและความสามารถในการทำงาน
2.6. pda จัดเป็นคอมพิวเตอร์พกพาที่มีซอฟต์แวร์เฉพาะสำหรับการนัดหมายจะเก็บข้อมูลผู้ติดต่อหรือ เขียนบันทึกมีเทคโนโลยีที่เป็นหน้าจอแบบสัมผัส
2.7. อุปกรณ์เกมส์ เป็นส่วนประกอบที่อยู่ภายในเครื่องเล่นเกม ในรูปแบบของ ชิปประมวลผลขนาดเล็ก เครื่องเล่นหลายเครื่องมีตัวเลือกในการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตสำหรับเล่นเกมออนไลน์
2.8. หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ มีโปรแกรมสำหรับดาวน์โหลดและดูสำเนาเอกสารอิเล็กทรอนิกส์จะพบซอฟต์แวร์สำหรับอ่านหนังสือ
2.9. เครื่องคิดเลข ใช้ชิปชนิดเดียวกันกับการคำนวณบนคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่เป็นเครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้สำหรับดำเนินการทางคณิตศาสตร์พื้นฐาน หรืออาจจะซับซ้อนกว่านั้น
3. องค์ประกอบของคอมพิวเตอร์
3.1. 1. หน่วยรับเข้า inputทำหน้าที่เก็บข้อมูลหรือคำสั่งต่างๆจากผู้ใช้ผ่านอุปกรณ์รับข้อมูลซึ่งจะถูกส่งเข้าไปทำการประมวลผลต่อไป เช่นแป้นพิมพ์เมาส์ปากกาแสงการควบคุมเครื่องอ่านรหัสแท่ง
3.2. 2. หน่วยประมวลผลกลาง หรือ CPU เปรียบเสมือนสมองของคอมพิวเตอร์ทำหน้าที่ประมวลคำสั่งหรือข้อมูลที่รับเข้าไปซึ่งจะทำงานร่วมกับหน่วยอื่นๆ ยิ่งความเร็วของสัญญาณในการสูงความเร็ว ในแต่ละรอบการทำงาน ประมวลผลยิ่งเร็วขึ้น
3.3. 3. หน่วยความจำ 3.1 หน่วยความจำหลัก แบบอ่านได้อย่างเดียว มีโปรแกรมหรือข้อมูลอยู่แล้วพร้อมจะนำมาต่อกับไมโคร โพรเซสเซอร์ได้โดยตรง ซึ่งโปรแกรมหรือข้อมูลนั้นจะไม่ สูญหาย แม้ว่าจะไม่มีการจ่ายไฟเลี้ยง 3.2 หน่วยความจำหลักแบบแก้ไขได้ สามารถเก็บข้อมูลได้เฉพาะเวลาที่มีกระแสไฟฟ้า ทำหน้าที่เก็บชุดคำสั่งและข้อมูลระบบคอมพิวเตอร์กำลังทำงานอยู่
3.4. 4. หน่วยส่งออก แสดงหรือส่งข้อมูลที่ได้จากการประมวลจาก CPU มา ให้ผู้ใช้งานได้รับทราบ ประกอบด้วย Monitor speaker Printer แบ่งออกเป็น 3 ประเภท 1 แบบ Dot Matrix ลักษณะเป็นแบบหัวเข็ม เหมาะสำหรับงานพิมพ์ที่ต้องการซ้อนแผ่นก๊อปปี้หลายๆชั้น 2 แบบพ่นหมึก 3 แบบเลเซอร์ สามารถพิมพ์ตัวอักษรได้ทุกรูปแบบทุกขนาดสามารถพิมพ์งานกราฟิกที่คมชัดและติดทนนาน บนผิวกระดาษ
3.5. 5. หน่วยเก็บข้อมูล ทำหน้าที่เก็บข้อมูลแบบถาวรบนคอมพิวเตอร์ เช่น Hard Disk Drive เป็นอุปกรณ์เก็บข้อมูลที่สามารถเก็บได้อย่างถาวรโดยไม่ต้องมีไฟเลี้ยงตลอดเวลา เมื่อปิดเครื่องข้อมูลไม่สูญหาย
3.5.1. ชนิดของ Hard Disk Drive
3.5.1.1. แบบ ide เป็น Interface รุ่นเก่าที่มีการเชื่อมต่อโดยสายแพขนาด 40 เส้นสายแพ 1 เส้นสามารถเชื่อมต่อฮาร์ดดิสก์ได้ 2 ตัวบนเมนบอร์ด ทำให้สามารถพ่วงต่อ Harddisk ได้ถึง 4 ตัว ความเร็วสูงสุดในการถ่ายโอนข้อมูลอยู่ที่ 8.3 MB/S
3.5.1.2. แบบ SCSI มีการ์ดสำหรับควบคุมการทำงานโดยเฉพาะเรียกว่าการ์ด SC สามารถควบคุมการทำงานของอุปกรณ์ที่มีการทำงานแบบ SCSI ได้ถึง 7 ชิ้นผ่านสายแพร ความเร็วในการถ่ายโอนข้อมูลสูงสุด 320 เมกะไบต์ต่อวินาที รอบการหมุนของฮาร์ดดิสก์ปัจจุบันแบ่งเป็น 10,000 และ 15,000 รอบต่อวินาที เหมาะสำหรับนำมาใช้กับงานด้านเครือข่าย
3.5.1.3. แบบ eide พัฒนาจากประเภท ide ด้วยสายแพรขนาด 80 เส้นผ่าน connector 40 ขาเช่นเดียวกับ ide ช่วยเพิ่มศักยภาพในการทำงานโดยมีความเร็วในการถ่ายโอนข้อมูลถึง 133 เมกะไบต์ต่อวินาที
3.5.1.4. แบบ Serial ata นิยมมากในปัจจุบัน มีความเร็วสูงสุดถึง 150 เมกะไบต์ต่อวินาทีสามารถขยายช่องสัญญาณ แบนด์วิดธ์ ในการส่งผ่านข้อมูลได้เพิ่มขึ้น 2-3 เท่า และรองรับข้อมูลได้มากขึ้น