หย่าง Unit 4 + Course 39 plus เฉพาะเนื้อหาที่จะใช้

Get Started. It's Free
or sign up with your email address
หย่าง Unit 4 + Course 39 plus เฉพาะเนื้อหาที่จะใช้ by Mind Map: หย่าง Unit 4 + Course 39 plus เฉพาะเนื้อหาที่จะใช้

1. 14 - 6 คุณสมบัติ จาก David Ogilvey ค่าเขียนฉบับละ 7 หลัก

1.1. 1. Obsesive curiosity กระหายใคร่รู้ในสินค้า และผู้คน รู้กว่าเจ้าของด้วยซ้ำ เจาะลึกระดับธุรกิจ ขุดคุ้ยทุกสิ่งอย่างลึกซึ้ง

1.2. 2. A sense of human สัญชาติญาณความเป็นมนุษย์ รู้จิตวิทยาของมนุษย์ รู้ว่าคนซื้อเพราะอะไร

1.3. 3. A habit of hard work ทำงานหนัก เพื่อเจาะลึก แต่ได้เงินคุ้ม

1.4. 4. The ability to write interesting prose for printed media, and natural dialogue for television ความสามารถในการเขียนบทร้อยกลอนสำหรับสื่อมีเดีย และบทสนทนาที่เป็นธรรมชาติบนทีวี **รู้จักการใช้คำ**

1.5. 5. The ability to think visually, Television commercials depend more on pictrue than words เห็นเป็นภาพได้ดี **ใช้คำพูดให้คนเห็นภาพได้ดี** เพาาะการเห็นเป็นการรับรู้ที่ดีที่สุด

1.6. 6. The ambition to write better campaigns than anyone has ever written before ความทะเยอทะยานในการเขียนแคมเปญ ที่ดีกว่าใคร ๆ ที่เคยเขียนมา . ทุกครั้งที่เห็นแคมเปญคนอื่น จะหาทางทำให้ดีขึ้น

2. 18 - Module 5 Content Marketing คือ

2.1. สื่อ (งานเขียน) ที่เป็น**ประโยชน์** ที่ส่งออกไปถึง**กลุ่มเป้าหมาย**

2.2. เพื่อแลกเปลี่ยนสิ่งที่**คุณต้องการ** อย่างที่คุณตั้งใจ เช่นถ้าได้ like แต่ ขายไม่ได้ คือ Fail

2.3. และคุณสามารถ**วัดผลได้** ไม่ทางใดทางก็ทางหนึ่ง

2.4. และวันหนึ่งกลุ่มเป้าหมายจะเข้าหาสื่อของคุณ โดยที่คุณไม่จำเป็นต้องส่งออกไป **แต่กลับได้สิ่งที่คุณต้องการ**เฉกเช่นเดิม

2.5. **เป้าหมายเรา คือ เขียนให้คนอยากอ่าน บรรทัดต่อไป มากขึ้น มากขึ้น**

3. 19 - Module 06 - 3R เขียนให้เกิด**ประสิทธิผล** . สิ่งที่นักเขียนเงินล้านโฟกัส จุดแตกต่างที่ต่างจากนักเขียนทั่วไป . เพราะเผลอๆสิ่งที่คุณเขียน อาจมีค่าเท่ากับการไม่เขียน อยู่ก็เป็นได้

3.1. ##Respect## - ผู้อ่านเคารพเรา คือ ผู้อ่านเห็นเรามีอะไร ที่เหนือกว่า

3.1.1. **ความสม่ำเสมอ ของผลลัพธ์** Key success เขียนต่อเนื่อง 30 Post

3.2. ##Reliable## ความไว้ใจ

3.2.1. Post ตอบ Comment ไม่ใช่แค่ like หรือ sticker

3.2.1.1. ให้เปลี่ยน Like เป็นหัวใจ

3.2.1.2. ไม่ใช้หมีหัวใจใช้ ให้ใส่Emoji หน้ายิ้มแทน

3.2.1.3. อย่า Copy Paste ให้ใส่ชื่อ และ Emoji แทน

3.2.1.4. ตอบแบบพิมพ์เอง ด้วยความ หมายเห็นด้วยกับที่เขาคิด **ใช้ชื่อ+Emoji+ตอบด้วย keyword ที่เขา comment มา เช่น Comment :บทความที่เขียนมาสร้างแรงกำลังใจมากคะ ตอบ: พี่ดีใจมากที่บทความ พี่สร้างแรงบันคาลใจครับ

3.3. ##Result## อย่าลืมว่า Content ที่สร้างมา ต้องตรง จุดประสงค์ที่เราต้องการ

4. 20-Module 7 คำถามเหล่านี้ ผมเชื่อว่าคุณเองก็อยากรู้

4.1. อย่าด่าลูกค้าใน Facebook ทุกอย่างที่เขียน สะท้อนสิ่งที่คุณเป็น

4.2. ถ้าสินค้าหลายตัว ให้ Focus ตัวหลัก แล้วค่อยสลับตัวอื่น

4.3. ควรตอบ comment ลูกค้า ทุกอัน เพราะมันเพิ่มจำนวน comment ฟรีๆ

4.4. ตอบ comment คน share หรือ like เราให้มากที่สุด เพาาะสร้่งความประทับใจ

4.5. ลูกค้า comment ลบมา ควรตอบกลับแบบประนีประนอม เห็นใจและเข้าใจลูกค้า

4.6. ถ้าลูกค้าเยอะ แต่ของแพง อย่าใช้ chat bot ตอบ . แต่ถ้าของแมว ก็ใช้ chat bot ได้

4.7. 17 - Module 4 - โต๊ะ 4 ขา

4.7.1. Mission - เป้าหมายที่ไกลจากตัวเราออกไป . เช่น ให้ความรู้ เพื่อที่จะหลุด จากความเจ็บปวด

4.7.2. Culture - วัฒนธรรม ช่วยกันผลักดัน Content ของคนในกลุ่ม

4.7.3. Value - เขียนทุกมิติที่เราให้ ความสำคัญ ** Value คืออาวุธของ Mission** . แชร์ความรู้เรื่องสุขภาพ กาย ใจ จิต

4.7.4. Rule - สร้างกฎร่วมกัน . - มีส่วนร่วม 100% ไม่มีคำว่าคิดไม่ออก - บทลงโทษ - งดอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ - ลงมือทำ Wotkshop ทุกอย่าง . ** คนที่ Support เพื่อน จะได้ ร่วมงาน Meeting **

5. 3C สิ่งที่ต้องคิด ก่อนคิดที่จะเขียนคอนเทนต์

5.1. 3C สิ่งที่ต้องคิด **ก่อนเขียน Content**

5.1.1. 21-Module 8 **คนจะค้นหาเฉพาะสิ่งที่เขาสนใจ** ดังนั้นต่องจัดหน้าให้ดี ##Context## บริบท คนอ่านจะกด see more เพื่อดูภาพรวม . ##ดังนั้นการจัดหน้า คือสิ่งที่สำคัญ##

5.1.1.1. 22-Module 9 CONTEXT บริบทในการเขียน ที่จะทำให้ คุณเป็น Professional ได้เลย! . ถ้ากด Enter เฉยๆ ในคอมจะเหมือน ไม่ได้ขึ้นย่อหน้าใหม่

5.1.1.1.1. แบ่งโซนหลักไปของเนื้อหาเป็น - สรุป - Body - Intro

5.1.1.1.2. ใน Paragraph เดียวกันอย่า เคาะ Enter เองเพื่อจัดหน้า เพราะ แต่ละเครื่องจัดหน้า**ไม่เหมือนกัน**

5.1.1.1.3. แก้โดย ใช้หนึ่งจุด (Enter . Enter) . เพื่อให้มีการเว้นบรรทัด

5.1.1.1.4. แก้โดย ใช้สองจุด (Enter .Enter. Enter) . . เพื่อแบ่งโซนเนื้อหา

5.1.1.1.5. ใช้สองจุด คั่นบนล่าง (Enter .. Enter) . . เพื่อเน้น Key message . . บลาบลาบลา

5.1.2. 23-Module 10 การสื่อสารด้วย การเขียนของคุณจะเปลี่ยนไป คนอ่านจะเข้าใจง่ายขึ้น และคุณ เองก็เขียนง่ายขึ้น . ##Communication## Focus วิ่งที่ต้องการสื่อสาร ** แค่กลุ่มเป้าหมายเดียว เท่านั้น ** มากกว่านี้ จำไม่ได้ คือ จบ

5.1.2.1. สื่งแรกที่เห็นคือ **ภาพ กับพาดหัว** . ให้สองอย่างนี้ **สื่อสารคนละสิ่งกัน** เหมือนเป็นการ Hook ซ้าย ขวา

5.1.2.2. กลุ่มเป้าหมายเพียง 1 เดียว แก่นหลักที่จะสื่อสารเพียง 1 เดียว อารมณ์ที่ถ่ายทอดเพียง 1 เดียว เรื่องราวที่ร้อยเรียงเพียง 1 เดียว ประโยชน์ที่ชัดเจนเพียง 1 เดียว ประโยคที่ตราตรึงฝากไว้เพียง 1 เดียว CTA ที่ชัดเจนเพียง 1 เดียว

5.1.2.3. CTA ต้องมีเพื่อวัดจุดประสงค์ . CTA คือ Call to Action . บอกให้คนอ่าน **ทำอะไรต่อจากนั้น** ใช้**วัดผล** ของบทความ . **สิ่งที่ให้ทำต้องง่ายที่สุด** **สั้น และกระชับ** **ตอบโจทย์บทความด้วย** . เช่น คลิกซื้อของ เช่น ให้คอมเม้นท์ "สนใจครับ"

5.1.2.4. ทิ้งช่องทางการติดต่อ ไว้เพียงทางเดียว . เช่น สนใจ@line (มี@ด้วย) ทำเหมือนเขาไม่รู้เรื่อง . แต่ถ้าอยู่ใน Facebook ให้ส่งเข้า Inbox Facebook เลย อย่าออกนอก Platform

5.1.3. ##Content## - วางเนื้อหาที่จะเขียน

6. 24-Module 11 จิตวิทยาการเขียน ที่แค่มีเพียงแค่คำเดียว ก็สามารถ ดึงคนอ่านให้อยู่กับคุณได้จนจบแล้ว

6.1. วาง Headline / คำโปรย ให้เข้าถึงอารมณ์เหล่านี้ . ##5 + 1 อารมณ์พื้นฐาน## **กระตุ้นต่อมอยากรู้** หยุดคิดที่จะส่งต่อข้อมูลใด ๆ **หากคุณยังส่งตัวคุณไม่ถึง อารมณ์เหล่านี้** . **ทุกอารมณ์มีจุดประสงค์เดียว คือ สะกิดต่อมอยากรู้ ของผู้อ่าน**

6.1.1. 1. Funny - สนุก . 2. Touching - ซาบซึ้ง . 3. Motivation - ให้แรงบันดาลใจ ให้แค่ 2 อย่างนี้ 3.1 ความจริง 3.2 ผลลัพธ์ . 4. Wow - มีองค์ประกอบ 2 อย่าง 4.1 ใช้เรื่อง Common ที่คนรู้จักอยู่แล้ว (มีประสบการณ์ร่วม) 4.2 มีตัวเลข ทำให้จับต้องได้มากขึ้น เช่น ดื่มน้ำ 8 แก้ว อายุยืนขึ้น 20 ปี . 5. Curious - อยากรู้ อยากเห็น **ไม่บอกในสิ่งที่คุณจะบอก** . 6. Anger - โกรธ ** ดึงลูกค้าได้ แต่ไม่ให้ใช้**

7. 26-Module 13 โครงสร้างการเขียนที่ยึด ที่ความสนใจคนอ่าน . . ตำหรับลับเบื้องหลังคอนเทนต์ที่ประสบความสําเร็จ . **พื้นฐานที่ต่อยอดสู่ทุกเทคนิคการเขียน** . รูปแบบเดียวกับที่นักเขียนโบษณาระดับโลกยึดกัน . ##Know what get read## David Ogilvy

7.1. - 100% รูป ควรมีข้อความที่ ทำเพื่อจุดประสงค์ของเราด้วย ไม่ให้เสียพื้นที่ทางการตลาด . - ภาพเป็นแค่องค์ประกอบ ภาพไม่ต้องสวย แต่ต้องดึงความสนใจได้ - Wording ในภาพเป็นตัวขาย

7.2. - 80% Headline (ใช้ ## ... ##) ต้องมีวรรคด้วย

7.3. - 60% Caption - วรรคเกริ่น (เนื้อหา ก่อนกด see more)

7.4. - 40% หัวข้อย่อย (Sub head) ใช้ # ... # (ต้องมีวรรค ไม่งั้นจะเป็น hashtag) ที่เราใช้ # เพราะมันทำให้ดูแล้วสะกิด แต่ไม่ดึงความสนใจ แต่ถ้า sub head ไม่มีช่องว่าง ก็ใช้เป็น Hashtag เลยได้

7.5. - 25% Bottom page (CTA ,Contact , Hashtag ส่วนตัวของเรา) . ##Hashtag ส่วนตัวต้องมีทุก Post เพราะมันคือ Brand ของเรา##

7.6. - 5% Content (Ohhhh) ลูกค้าสนใจน้อย แต่มันคือ 100% ที่จะทำให้ขายได้

7.7. 16 - Module 3 5 หายนะที่ทำให้ Content ไม่น่าสนใจ **ห้ามมีแม้แต่ข้อเดียว**

7.7.1. 1.เป้าหมายไม่ชัดเจน

7.7.2. 2.เนื้อหาเป็นทางการ - มีคำเชื่อมเยอะๆ ลองอ่านให้เพื่อนฟัง ควรฟังแล้ว Friendly

7.7.3. 3.เต็มไปด้วยศัพท์เฉพาะ ฟังไม่เข้าใจ

7.7.4. 4.ไม่มีโครงสร้างที่ชัดเจน

7.7.5. 5.ภาษาไม่ลื่นไหล เขียนแล้วอ่านให้ตัวเองฟัง ฟังแล้วต้องลื่นไหล พูดยังไงเขียนอย่างนั้น

8. 25-Module 12 4 Step Present Script ที่ผม ใช้จริงทั้งออนไลน์ และออฟไลน์ . **Personal Positioning Branding** เอามาใช้เป็นประโยคนำในบทความได้?

8.1. เช่น 1. มีประสบการณ์มา 6 ปี 2. มีผลงานการเขียนมามากกว่า 1000 บทความ 3. หนึ่งในบทความที่ผมเขียน ให้นักธุรกิจท่านหนึ่ง ทำเงินมากกว่า 1 ล้านบาท ในระยะเวลา 1.5 เดือน 4. คุณสนใจที่จะให้ผมช่วยเขียน บทความให้ธุรกิจคุณไหมครับ

8.2. เช่น ช่างกล้อง ข้อ 3 สามารถเน้นผลงาน เชิงคุณค่าเป็นภาพแคนดิด ที่เห็นเมื่อไรก็ประทับใจ

8.3. 4 Step Present Script

8.3.1. 1. บอกจำนวนประสบการณ์ เพื่อเคลมเรื่อง Respect

8.3.2. 2. บอกจำนวนในประสบการณ์ บอก Reliable

8.3.3. 3. บอกผลลัพธ์เชิงคุณค่า **สำคัญสุด**บอก Result . ต้องเข้าใจผู้ฟังว่าต้องการผล ผลลัพธ์อะไร และต้องเป็น ผลลัพธ์ที่ลูกค้าคาดหวัง จะได้ขยี้ถูกที่

8.3.4. 4. ขอโอกาส **แต่ห้ามพูดขอ หรือคำที่ ำให้เราต่ำกว่า** แต่ต้องเป็นคำที่ทำให้เราสูงกว่า เช่น ให้ผมช่วยไหมครับ

9. ##7 จิตวิทยาซ่อนเร้น กระตุ้นคนซื้อ## . ไม่ว่าจะขายคอร์สหรือสินค้า คิดทุกครั้งในการเขียน W.I.I.F.M (What is it for me?) คือ เรื่องที่เขียน *มันมีประโยชน์อะไรกับเรา* เพราะคนสนใจเรื่องตัวเอง . เน้นมากๆสำหรับ Headline เพราะเป็นประโยค แรกที่เห็นในชั่วแวบเดียว ต้องดึงความสนใจให้ได้ในแวบนั้น

9.1. 44-7 จิตวิทยาซ้อนเร้น กระตุ้นคนซื้อ Part 1/7 . 1. ให้ใช้คำว่า "คุณ" อย่าใช้"เรา" เพราะเรื่องที่เขียน จะได้เป็นเรื่องของคุณ (ลูกค้า) ไม่ใช่เรื่องของเรา . **คุณ คุณ คุณ** ไม่ใช่เรา จำไว้

9.2. 45-7 จิตวิทยาซ้อนเร้น กระตุ้นคนซื้อ Part 2/7 . 2. คุณจะเลือกมีความสุขหรือไม่มีความทุกข์ เพราะคนส่วนใหญ่ เลือกไม่มีความทุกข์ **มีแรงกระตุ้นให้หนีออกจากความเจ็บปวดเสียมากกว่า** เช่น . #Negative#ซึ่งกระตุ้นได้ดี "ไม่ว่าคุณจะเลือกทางออกไหนมันก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับผมเลยครับ แต่ยิ่งคุณไม่ตัดสินใจตอนนี้ธุรกิจของคุณจะมี แต่ติดลบขึ้นเรื่อย ๆ " . #แต่ต่อด้วย Positive ได้# และผมรู้ว่าคุณไม่อยากปิดกิจการนี้ไปแน่ ๆ ครับคำ แนะนำเบื้องต้นเพียง 3 อย่างนี้จากพลิกให้คุณจากติดลบ ให้คุณกลับมาเท่าทุนและเทคนิคที่จากนั้นยอดขาย 10 เท่าคือโอกาส

9.3. 46-7 จิตวิทยาซ้อนเร้น กระตุ้นคนซื้อ Part 3/7 . 3. ต้องการเป็นคนสำคัญ เมื่อคุณทำให้เขารู้สึกเป็นคนพิเศษ เขาจะยอมจ่ายคุณ . เช่น สิทธิพิเศษเฉพาะ 10 ท่านแรกเท่านั้น . การที่ Sales เรียกเราว่าคุณผู้ชาย . จะได้ผลมากยิ่งขึ้น ถ้าทำให้มันเป็นการส่วนตัวมากที่สุด Make it personal เช่น การให้ส่วนลดพิเศษ หรือเงื่อนไขพิเศษ เป็นการส่วนตัว (เช่น Inbox) สามารถใช้ Upsell ได้

9.4. 47-7 จิตวิทยาซ้อนเร้น กระตุ้นคนซื้อ Part 4/7 . 4. จริงใจ โคตรๆ เป็นการเขียนขายแบบไม่ขาย . **พูดในสิ่งที่มันเป็นความจริง ด้วยความจริง** **กล้าเอาปัญหาสินค้าที่คนส่วนใหญ่รู้ มาเปลี่ยนมุมมองของลูกค้า" **เล่าข้อเสียของสินค้า แล้วเล่าข้อดีที่คาดไม่ถึง** แต่ไม่ใช่ด่าตัวเอง . เช่น **เอาจริง ๆ ผมโคตรหงุดหงิดกับไอ้ตะขอที่โผล่ ออกมาเลย แต่มันกลับทำให้ผมประทับใจจนกลับไปซื้อ เก็บไว้เองอีก 5 ชิ้นแล้วยังแจกให้คนใกล้ตัวผม ครอบครัวเพื่อน ๆ คร่าว ๆ อีก 2 โหล** . เป็นตัวอย่างการเอารีวิวที่เป็นปัญหา มาเขียนคอนเท้นท์ ที่พลิกมุมมอง

9.5. 48-7 จิตวิทยาซ้อนเร้น กระตุ้นคนซื้อ Part 5/7 . 5. เห็นอก เห็นใจ (Emphaty) กลไกการทำงานของจิตใต้สำนึก **คนเราชอบคนที่เหมือนกัน แม้กระทั่งเหตุการณ์ที่ผ่านมา จนไปถึงท่าทางกริยาที่แสดงออกมา** . เช่น “ ผมเข้าใจครับว่าคุณรู้สึกแย่างไรผมเคยผ่านเหตุการณ์นั้น มาก่อนและผมเข้าในความรู้สึกคุณเป็นอย่างมากและไม่ น้อยไปกว่าคุณอย่างแน่นอนเพราะเหตุการณ์นี้ทำให้ผม สูญเสียคนที่ผมรักไปและเธอไม่มีวันกลับมาได้อีก" . “ เชื่อผมสิครับผมรู้ว่าคุณกำลังพยายามกับอะไรอยู่ และผมรู้ว่าคุณเหนื่อยในการแก้ปัญหากับมันมามากแค่ ไหนคงไม่มีทางแก้ไหนที่ผมยังไม่ได้ลองแน่ ๆ ครับเพราะ ผมเคยอยู่จุดเดียวกับคุณผมทำทุกอย่างและทุกอย่างที่ผม ทำมันไม่ได้ผลอะไรเลยครับผมอยากจะบอกคุณด้วย ความจริงใจเลยครับว่าไม่มีอะไรที่มันได้ผลเลย แต่ผมมี ทางที่ง่ายกว่าที่ผมกำลังจะโชว์ให้คุณครับ "

9.6. 49-7 จิตวิทยาซ้อนเร้น กระตุ้นคนซื้อ Part 6/7 . 6. โลภ เช่น ซื้อ 1 แถม 10 แถม Bonus . และอย่าลืมให้บอกเหตุผลเสมอ เมื่อคุณลดราคาพิเศษ

9.7. 50-7 จิตวิทยาซ้อนเร้น กระตุ้นคนซื้อ Part 7/7 . 7. ขจัดความเสี่ยง *การันตีช่วยให้คุณขายง่ายขึ้น โดยไม่ต้องเปลี่ยนแปลงอะไรเลย* . แต่ต้องมั่นใจว่า ถ้าคืนจริง จะต้องไม่ขาดทุน . เช่น “ ถ้าคุณไม่ชอบสินค้าส่งมันกลับมาให้ผมและผมจะโอน เงินคืนโดยจะไม่มีการทะเลาะกันใด ๆ และถ้าคุณต้องการ ผมจะโอนเงินให้คุณ 50 บาทสำหรับค่าเสียเวลาของคุณ แบบนี้ดีไหมครับ? "

10. 42-26 เหตุผลที่ลูกค้าซื้อ 43-Workshop คิดคอนเทนต์ จาก 26 เหตุผลที่ลูกค้าซื้อ . ถ้าไม่มี 1 ใน 26 นี้ ไม่มีทางขายได้ **นี่คือจุดที่จะขยี้ให้ลูกค้า ตัดสินใจได้ง่ายขึ้น** มักมีมากกว่า 1 เหตุผลเสมอ Make it personal . หนึ่งเหตุผล คือหนึ่งคอนเท้นท์ ที่ตอบโจทย์ลูกค้าหนึ่งกลุ่ม ไม่จำเป็นว่าต้องยาว แค่สั้นๆแบบรีวิวก็ได้

10.1. 1. เพื่อหาเงิน - เช่นขายคอร์ส หรือซื้อไปขายต่อ

10.2. 2. เพื่อนประหยัดเงิน

10.3. 3. เพื่อประหยัดเวลา

10.4. 4. เพื่อเลี่ยงที่จะต้องพยายาม - ทำให้ชีวิตง่ายขึ้น

10.5. 5. เพื่อที่จะสะดวกสบายมากขึ้น

10.6. 6. เพื่อความสะอาดที่สูงขึ้น เช่น ฉีดแอลกอฮอล์

10.7. 7. เพื่อให้สุขภาพสมบูรณ์ เช่น อาหารเสริม

10.8. 8. เพื่อหนีความเจ็บปวดทางกาย

10.9. 9. เพื่อที่จะได้รับการยกย่อง ชื่นชม เช่น กระเป๋าแบรนด์เนม

10.10. 10. เพื่อที่จะได้รับความนิยม เช่น iPhone

10.11. 11. เพื่อดึงดูดเพศตรงข้าม เช่น แฟชั่น ศัลยกรรม

10.12. 12. เพื่อป้องกันทรัพย์สิน เช่น กล้องวงจรปิด ประกันภัย

10.13. 13. เพิ่มความบันเทิง เช่น โฮมเธียเตอร์ หูฟังขั้นเทพ

10.14. 14. เพื่อสนองความสงสัย ใคร่รู้ เช่น ธุรกิจให้ความรู้

10.15. 15. ป้องกันครอบครัว เช่น กล้องวงจรปิด

10.16. 16. เพื่อสไตล์ เช่น ที่นั่งโรงหนัง ที่ต่างกัน

10.17. 17. เพื่อครองครองสิ่งของสวยงาน เช่น รูปภาพ ของแต่งบ้าน

10.18. 18. สนองความอยากกิน เช่น อาหารจังค์ฟู้ด

10.19. 19. เพื่อเลียนแบบคนอื่น

10.20. 20. เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหา

10.21. 21. หลีกเลี่ยงวิกฤติ เช่น สินค้า new normal

10.22. 22. เพื่อเอกลักษณ์เฉพาะตัว

10.23. 23. เพื่อปกป้องชื่อเสียง เช่น ทนาย

10.24. 24. เพื่อฉวยโอกาส เช่น แมสแพงๆ หรือสินค้าตามเทรนด์

10.25. 25. เพื่อความปลอดภัย เช่น รถยุโรป

10.26. 26. เพื่อให้ทำงานได้ง่ายขึ้น

11. 40-Module (Update) 6 principles of persuasion 6 หลักการโน้มน้าว ที่คนยอม ให้ถูกโน้มน้าว แบบไม่รู้ตัว

11.1. 1 Reciprocity - การตอบแทน . เราต้องให้ความรู้แก่ลูกค้า จนวันที่เราจะขาย เขาจะ พร้อมที่จะซื้อของจากเรา . เมื่อคุณรู้สึกอยากตอบแทนใคร คุณจะถูกคนนั้นโน้มน้าวได้ง่าย . เพราะฉะนั้นคุณจะต้องให้คนอื่น จนคนอื่นรู้สึกอยากตอบแทนคุณ . ex. 30 days content

11.2. 2 Scarcity - การขาดแคลน . เมื่อเรารู้สึก Promotion จะหมดไป เราจะรู้สึกว่าต้องซื้อแล้ว . ต้องระบุระยะเวลาสิ้นสุด Promotion หรือระบุจำนวนจำกัด

11.3. 3 Authority - ความน่าเชื่อถือ . ความสม่ำเสมอคือ Key สำคัญ ทำ 30 days content ให้ได้ . จับแก่นที่เราจะเขียนให้แน่น !!!

11.4. 4 Consistency - ความสม่ำเสมอ ให้ลงคอนเท้นท์ต่อเนื่อง 30 วัน หนืออย่างมากเว้นวันก็เดียว ไม่ใช่ทำแล้วหาย . ทำเหมือนผู้ชาย จีบสาว

11.5. 5 Liking - ความชอบ เราชอบใคร เราจะเชื่อคนนั้น . ความชอบเกิดจาก 1. เหมือนเรา 2. ชื่นชมเรา 3. ร่วมมือกับเรา ในการทำเป้าหมายเดียวกัน . การสร้างเป้าหมาย ให้ส่งการบ้าน เป็นต้น

11.6. 6 Consensus - ความคิดเห็นคนส่วนใหญ่ . ทำ Product ให้ดีที่สุด เพื่อ Feedback ที่ดี อุปทานหมู่จะมาเอง Empower จะมาเอง

12. 39-Module (Update) 10 แก่นการเขียนคอร์ส ที่คุณ สามารถใช้ได้กับทุกสินค้าและบริการ

12.1. 1 คุณไม่ได้เขียนขายคอร์ส แต่คุณเขียนขายชีวิตที่ดีขึ้นของเค้า . อย่างน้อยต้องชัดเจน มั่นใจว่า ของนี้ทำให้ชีวิตเราดีขึ้น..จริงจริง . "อย่ามัว แต่รอจนไม่ได้เริ่ม จนคุณเห็นคนอื่นออกมาสอนในสิ่งเดียวกับคูณ แล้วคุณก็ปนกับตัวเองว่า ถ้าฉันสอนวันสอนได้ดีกว่านี้อีก"

12.2. 2 Tell The Truth พูดความจริง จากสิ่งที่ทำเท่านั้น . อย่าหลอกผู้อ่าน เพื่อหวังอะไรที่ฉาบฉวย . นำเสนอด้วยความมั่นใจในผลลัพธ์

12.3. 3 ไม่เกี่ยวว่าบทความสั้นหรือยาว สำคัญที่ความครบถ้วนสมบูรณ์

12.4. 4 สิ่งที่คุณเขียน ทำให้คนอ่านมั่นใจหรือยัง?

12.5. 5 ถ้าจะเขียนขายให้คนแชร์ คุณต้องให้ ความรู้หรือความสนุก ในการขายนั้น

12.6. 6 ให้รายละเอียด ให้ได้มากที่สุด เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ และ ทำให้รู้สึกว่ามันจำเป็นสำหรับเขา . เป็นองค์ประกอบ ที่สำคัญมากก

12.7. 7 ใส่ความเป็นตัวเองลงไป . เขียนให้เหมือนกับที่เราพูด ใช้จริตเดียวกับการพูด . แต่อย่าถึงกับผิดกาละเทศะ

12.8. 8 ให้ความสำคัญกับรูปภาพ ไม่ต้องอลังการ แต่ต้องสื่อความหมาย และใส่ใจลงไป . ยิ่งอลังการ ยิ่งห่างกับลูกค้า ทำให้รู้สึกว่าขายของ

12.9. 9 เจาะกลุ่มคนขายแค่กลุ่มเดียว Focus Focus Focus จับ Target ให้ชัด

12.10. 10 นำคำถามลูกค้า มาปรับคอนเท้นท์เสมอ ไม่ใช่เขียนครั้งเดียวจบ . Update ทุกคำถามลูกค้า หรือข้อมูลที่ได้ใหม่ นำไปเพิ่มในบทความ

13. 38-Module (Update) Copywriting เขียนขาย . Copywriting ไม่ได้เป็นแค่ศาสตร์ ในการเขียนขายที่ทรงพลัง มันมีพลังมากกว่านั้น

13.1. ##COPYWRITING## วิชาลับนัก[เขียน]ขาย ศาสตร์การเขียน ขั้นกว่าของการเขียนContent ทั่วไป ศาสตร์เดียวกับนักเขียนโฆษณาระดับโลก . เขียนเพื่อ ให้ลูกค้าเห็นภาพและ โฟกัสที่ความต้องการของ**กลุ่มเป้าหมาย**

13.2. Copywriting คือ การเขียนเพื่อ“ นำเสนอขาย " สินค้าหรือบริการ *เพื่อให้ลูกค้าเห็นภาพ* *ชีวิตที่ดีขึ้นเมื่อได้ครอบครองสินค้าหรือ บริการ* โดยโฟกัสที่*ความต้องการ* และ *ผลประโยชน์* *ที่กลุ่มเป้าหมายจะได้รับ*

13.2.1. ไม่ได้เขียน เพื่อ Like เพื่อโชว์ แต่เขียนเพื่อขายเท่านั้น

13.2.2. FOCUS ที่ความต้องการของลูกค้า ไม่ใช่ที่ตัวเรา คิดถึงลูกค้าตลอดเวลา

13.3. ตัวอย่าง Ads 1ฉบับ ที่ยอดขายทะลุล้าน . https://m.facebook.com/groups/write.yang.yang/permalink/1847212602080391/ . (1:44:11-2:10:03) - Ads โฆษณา1ฉบับที่สร้างยอดขายทะลุล้าน - ตัวอย่างการเขียนขาย

13.4. https://m.facebook.com/groups/write.yang.yang/permalink/1847212602080391/ ตัวอย่างที่ไว้ต้องฟังซ้ำ (2:17:04-2:31:56) - Copywriting เครื่องสำอาง - ตัวอย่างคอนเทนต์ . (2:31:57-2:53:30) - 4วันจาก Page 0 like ยอดออเดอร์สั่งเข้ามาทะลุ 100,000 - แกะคอนเทนท์ตัวอย่าง . (2:53:32-2:58:30) - 3 จุดที่ผมแก้ในคอนเทนต์ เพื่อทวียอดขาย 10 เท่า

14. 37-Module 20 ปิดให้ตราตรึง ปิดให้ตราตรึงได้คุณก็ได้ใจคนอ่าน . โพสขายไม่ต้องสนมาก

14.1. ปิดให้ตราตรึง . เอา Headline/SHINE มาขยี้อีกที . หรือเอาคำคมมาปิด . อย่าลืม CTA นะ . ##ถ้าเป็นโพสขาย ให้ปิดด้วย CTA เท่านั้น ไม่ต้องตราตรึง##

14.2. คำคม Brainyquote.com จบด้วยคำคม

15. 53-โครงสร้างการเขียน Level 3 (ใช้ Level 2+3 Killers)

15.1. ##Headline## ดึงความสนใจ นำเสนอ Pain ลูกค้า + W.I.I.F.M

15.2. ##Content## เนื้อหาที่ต้องสอดรับ Headline เพื่อขยี้ต่อ เรื่มด้วยการตอบ Pain ลูกค้า . + (ขยี้) หนีจากความทุกข์ เข้าหาความสุข + เห็นอกเห็นใจ + จริงใจโคตร ๆ

15.3. ##Benefit## - เอาคำถามลูกค้ามาทำหัวข้อด้วย - benefit อื่นนอก้หยือ Pain มาใส่ตรงนี้ . ++ Bullet Killers ให้ขยี้ลูกค้าด้วย Bullet killers

15.4. ##Proof## พิสูจน์ว่าดีจริง เช่น รีวิว ภาพ หรือ Story review ช่วยสร้างความมั่นใจ

15.5. ##Offer## เสนอข้อเสนอ/ส่งฟรี/โปรโมชั่น ** สำคัญมากถ้าสินค้ามีคู่แข่งราคาถูก - สินค้าที่ขายแค่ตัวเดียวจะขายยากขึ้น - ต้อง Addon สิ่งที่ต้นทุนต่ำ หรือไม่มีต้นทุน เช่น Ebook เอามาเพิ่มการแก้ Pain ลูกค้า - หรือเพิ่มบริการเข้าไป เพื่อเพิ่มคุณค่า . + ต้องการเป็นคนสำคัญ + กระตุ้นความโลภ + ขจัดความเสี่ยงการันตี

15.6. Bottom page (CTA ,Contact , Hashtag ส่วนตัวของเรา)

15.6.1. ##**CTA**## . CTA ของบทความให้ความรู้ ห้ามมีการขายของ หรือมี Link ไปสู่การขายโดยตรง แต่ควรมีการเชื่อมโยงไปยัง link เพิ่มเติม เพื่อนำไปสู่ Custom Audience ในอนาคต . *Action to CTA* ต้องคิดคำตอบ ที่สนับสนุน สิ่งที่เราต้องการให้เขาทำ CTA เช่น ถ้าดูแล้วมีกำลังใจพิมพ์ 1 เราควรตอบ เสริมการให้กำลังใจเขาอีกที . ถ้าเป็นขาย ให้ตอบสนใจ เราก็ Reply ว่า admin จะติดต่อไปนะค่ะ แล้ว IB ไปหา

15.6.2. ##Hashtag ส่วนตัวต้องมีทุก Post เพราะมันคือ Brand ของเรา## Hashtag ไม่ต้องเยอะ ถ้ามีเยอะให้ีวมเป็บรรทัดเดียวหลายๆอัน จะได้ไม่กินที่

15.6.3. ## Contact## เลือกช่องทางการติดต่อที่ลูกค้าติดต่อจริง ๆ ทิ้งช่องทางการติดอะไรบอกให้ลูกค้าด้วยว่าทิ้งให้ทำไม?

16. ##เนื่้อหาที่เราเขียน## เทคนิคการเขียน

16.1. 27-Module 14 จังหวะหายใจ ข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นมากที่สุด เป็นอันดับแรก ๆ เลยครับในการเขียน . เว้นวรรค คือ จังหวะหายใจ

16.2. 29-Module 15 แก่นในการเขียน Part 2 นี่คือการเสาะหาแก่นที่คุณ ต้องฝึกในยุคสมัยนี่

16.2.1. วิชาลับนักเขียนข่าว #ต้องอ่านแล้ว แตกออกมาเป็น What When Where Why How#

16.2.2. ##แต่ แต่ แต่## สิ่งที่นักเขียนทำในธุรกิจ คือ **ผู้อ่านต้องการอะไร แล้วนำเสนอสิ่งนั้น**

16.3. 28-Module 15 แก่นในการเขียน Part 1 แก่นในการเขียน ที่เมื่อคุณ เข้าถึงแล้ว การเขียนของคุณ จะง่ายขึ้นมาทันทีครับ

16.3.1. ถ้าเราใส่ทุกสิ่งที่เรารู้ อย่างไม่เป็นระเบียบ **คนดูจะไม่รู้อะไรเลย** . ให้ใส่ข้อมูล เฉพาะที่คนอ่านสนใจ อย่างเป็นระบบ เพียงประเด็นเดียว ##คนอ่านจะเข้าใจ##

16.4. 30-Module 16 เขียนอย่างไรให้น่าเชื่อถือ เพราะเป็น ไปไม่ได้เลยที่คุณจะขายได้ หากคน อ่านไม่เชื่อสิ่งที่คุณเขียน

16.4.1. เราไม่สามารถ รอให้เกิด 3R Content ต้องน่าเชื่อถือด้วยตัวมันเอง

16.4.2. องค์ประกอบ ที่มำให้น่าเชื่อถือแต่แรก - Refer ถึง คนที่มีอิทธิพล น่าเชื่อถือ หรือ - อ้างอิง หรือพูดถึง Influencer หรือ - ใส่รายละเอียดเยอะ ช่วยเพิ่มความมั่นใจ

16.5. 31-Module 17-1 เขียนเป็นช็อต เป็นตอน เป็นข้อ ๆ เป็นหนึ่งในเทคนิค ที่ผมใช้อยู่บ่อย ๆ ในการนำการนำ เสนอข้อมูลที่มีครับ

16.5.1. เขียนเป็นช็อต จบเป็นตอนๆ เขียนเป็นข้อๆ . แยกแต่ละส่วนด้วย . เพื่อนำสายตา แบบนี้ . 1) . 2)

16.6. 32-Module 17-2 เปรียบเทียบ Metaphor หนึ่งในเทคนิคิที่ผมยกขึ้น Hall of Fame เทคนิคในการเขียน ก็คือเจ้าการเปรียบเทียบนี่แหละครับ

16.6.1. เปรียบเทียบ สิ่งที่ยากหรือ เป็นนามธรรม ให้เปรียบเทียบ กับสิ่งที่กลุ่มเป้าหมายเข้าใจ

16.6.2. เช่น คอนเท้นท์คุณฉีดอิกไป ด้วยแรงดันเท่าไร (รูปถือปืน ฉีดน้ำ ในช่วงสงกรานต์) . ความหมายจริงคือให้ระวังคำพูด . แต่ถ้าบอกตรงๆ จะไม่น่าสนใจ

16.6.3. เช่น ถ้าคุณยังตามแฟชั่น คุณต้องตามไปตลอดชีวิต แต่ถ้าคุณคือแฟชั่น คุณไม่ต้องตามใครเลย . การเขียนก็เช่นเดียวกัน หากคุณไม่มีสไตล์เป็นของตัวเอง คุณก็ต้องตามคนอื่นชั่วชีวิต

16.7. 33-Module 17-3 ตัวเลข สถิติ ตัวเลขจะทำให้สิ่งที่คุณสื่อสาร จับต้องได้ และช่วยลดการตีความ

16.7.1. ** พยายามสื่อสารกับผู้อ่าน ผ่านตัวเลขสถิติที่เรามีอยู่จริง และ สอดคล้องกับกลุ่มเป้าหมาย** . แต่ระวัง ไม่ใช่ใส่ตัวเลขในทุกสิ่งที่เราเขียน

16.8. 34-Module 17-4 เขียนด้วยประสบการณ์ สิ่งที่คุณถ่ายทอดจะแตกต่าง เมื่อคุณ ถ่ายทอดผ่าน ประสบการณ์ ครับ

16.8.1. อยากเขียนพาดหัวให้มีเสน่ห์ ให้เขียนเริ่มด้วยสิ่งที่คนอ่านจะได้ โดยเล่าผ่านประสบการณ์ จริงของเรา

16.9. 35-Module 18 เล่าด้วยตัวอย่าง เล่าอย่างกับเล่านิยาย เล่าด้วยตัวอย่าง และสอดแทรกด้วยเครื่องหมาย สัญลักษณ์ เหล่านี้ สิ่งที่คุณเขียนจะมีชีวิต ชีวา ขึ้นมาทันทีครับ

16.9.1. เล่าเรื่องให้เหมือนเล่านิยาย ใช้สัญลักษณ์เหล่านี้ให้ชิน " " ! ... ~ ณ มากกกก . เช่น . "ข้อความ" เน้นความสำคัญ . ข้อความ! เพิ่มพลังข้อความ แต่อย่าบ่อย . ข้อความ... ใช้ให้คนอ่าน หยุดคิดตาม . ข้อความ? สร้างความสงสัยในหัวทันที . ข้อความ~ จะสร้างความรู้สึกลัลล้าขึ้นมาทันที . ณ... ใช้เมื่อต้องการดึงให้เปลี่ยนสถานที่ ในความคิดผู้อ่าน . มากกก เพิ่มความรู้สึกให้มากขึ้น ตามอารมณ์ ที่เราอยากสื่อ

17. 51-โครงสร้างการเขียน Level 2

17.1. ##โครงสร้างการเขียน## Level 1

17.1.1. ##Headline## ดึงความสนใจ นำเสนอ Pain ลูกค้า

17.1.2. ##Content## เนื้อหาที่ต้องสอดรับ Headline เพื่อขยี้ต่อ เรื่มด้วยการตอบ Pain ลูกค้า

17.1.3. ##Benefit## - เอาคำถามลูกค้ามาทำหัวข้อด้วย - benefit อื่นนอก้หยือ Pain มาใส่ตรงนี้

17.1.4. ##Proof## พิสูจน์ว่าดีจริง เช่น รีวิว ภาพ หรือ Story review ช่วยสร้างความมั่นใจ

17.1.5. ##Offer## เสนอข้อเสนอ/ส่งฟรี/โปรโมชั่น ** สำคัญมากถ้าสินค้ามีคู่แข่งราคาถูก - สินค้าที่ขายแค่ตัวเดียวจะขายยากขึ้น - ต้อง Addon สิ่งที่ต้นทุนต่ำ หรือไม่มีต้นทุน เช่น Ebook เอามาเพิ่มการแก้ Pain ลูกค้า - หรือเพิ่มบริการเข้าไป เพื่อเพิ่มคุณค่า

17.1.6. Bottom page (CTA ,Contact , Hashtag ส่วนตัวของเรา) . ##**CTA**## . CTA ของบทความให้ความรู้ ห้ามมีการขายของ หรือมี Link ไปสู่การขายโดยตรง แต่ควรมีการเชื่อมโยงไปยัง link เพิ่มเติม เพื่อนำไปสู่ Custom Audience ในอนาคต . *Action to CTA* ต้องคิดคำตอบ ที่สนับสนุน สิ่งที่เราต้องการให้เขาทำ CTA เช่น ถ้าดูแล้วมีกำลังใจพิมพ์ 1 เราควรตอบ เสริมการให้กำลังใจเขาอีกที . ถ้าเป็นขาย ให้ตอบสนใจ เราก็ Reply ว่า admin จะติดต่อไปนะค่ะ แล้ว IB ไปหา . ##Hashtag ส่วนตัวต้องมีทุก Post เพราะมันคือ Brand ของเรา## Hashtag ไม่ต้องเยอะ ถ้ามีเยอะให้ีวมเป็บรรทัดเดียวหลายๆอัน จะได้ไม่กินที่ . ## Contact## เลือกช่องทางการติดต่อที่ลูกค้าติดต่อจริง ๆ ทิ้งช่องทางการติดอะไรบอกให้ลูกค้าด้วยว่าทิ้งให้ทำไม?

17.2. ##โครงสร้างการเขียน Level 2## ใช้ Level 1+7จิตวิทยา

17.2.1. ##Headline## ดึงความสนใจ นำเสนอ Pain ลูกค้า + W.I.I.F.M

17.2.2. ##Content## เนื้อหาที่ต้องสอดรับ Headline เพื่อขยี้ต่อ เรื่มด้วยการตอบ Pain ลูกค้า . + (ขยี้) หนีจากความทุกข์ เข้าหาความสุข + เห็นอกเห็นใจ + จริงใจโคตร ๆ

17.2.3. # Benefit # # Proof #

17.2.4. ##Offer## เสนอข้อเสนอ/ส่งฟรี/โปรโมชั่น ** สำคัญมากถ้าสินค้ามีคู่แข่งราคาถูก - สินค้าที่ขายแค่ตัวเดียวจะขายยากขึ้น - ต้อง Addon สิ่งที่ต้นทุนต่ำ หรือไม่มีต้นทุน เช่น Ebook เอามาเพิ่มการแก้ Pain ลูกค้า - หรือเพิ่มบริการเข้าไป เพื่อเพิ่มคุณค่า . + ต้องการเป็นคนสำคัญ + กระตุ้นความโลภ + ขจัดความเสี่ยงการันตี

17.2.5. #Bottom page# (CTA ,Contact , Hashtag ส่วนตัวของเรา

18. 36-Module 19 เปิดให้เฉียบ Headline 80% แรก ที่ชี้วัดคอนเทนต์คุณ

18.1. S.H.I.N.E

18.1.1. หลักการ S.H.I.N.E

18.1.1.1. 1. Specificity กำหนดประเด็นแบบเฉพาะเจาะจง เลือกประเด็นที่ **น่าสนใจที่สุด **ขึ้นมาใช้ในพาดหัว

18.1.1.2. 2. Helpful เป็น **ประโยชน์ต่อผู้อ่าน**แค่พาดหัว ก็คาดเดาได้ทันทีว่าจะได้อะไรจากคอนเทนต์นี้

18.1.1.3. 3. Immediacy เลือกใช้คำที่ใกล้ชิดกับ กลุ่มเป้าหมายหรืออยู่ในความสนใจของพวกเขา

18.1.1.4. 4. Newsworthy = มี Story มีคุณค่าความเป็นข่าว

18.1.1.5. 5. Entertaining ให้ความรู้สึกเข้าถึงอารมณ์

18.1.2. Ex. นักเขียนระดับตำนานที่ได้รับขนานนาม จากนักเขียนชาวอเมริกันด้วยกันว่า “ เขา คือนักเขียนอเมริกันแท้ ๆ ท่านแรก ส่วนพวกเรานับจากนั้นมาเป็นทายาทของเขา " และเมื่อคุณอยากสืบทายาทด้วยนี่คือ 3R ด่านปราการเหล็กด่านแรก . . 1. Specific: เจาะกลุ่มนักเขียนตรง ๆ ด้วยคำว่า “ นักเขียนระดับตำนาน ... ” 2. Helpful ะ 3R คือประโยชน์ที่คนอ่านกำลังจะ ได้จากคอนเทนต์นี้ 3. Immediacy: สื่อสารกับวัยกลางคน (เด็กต่ำกว่า 20 ไม่ใช่เป้าหมายผม] ด้วยคำว่า“ คุณ” 4. Newsworthy: คุณค่าคือคือความรู้สึกที่สืบทอด เป็นทายาทของนักเขียนในตำนานท่านนี้ความรู้สึก ที่แตกต่างกับการอยู่ ๆ ดีมาบอกว่านักเขียนที่ดีมี 3R นี้แบบตรงไปตรงมาจริงไหมครับ? 5. Entertaining: อารมณ์ที่เลือกใช้คือ Wow + สงสัย

18.1.3. Ex. BTS เสียชาวกรุงโวยอีกแล้วหรอ! . แบบนี้อาจ Viral ดี แต่ไม่มีประโยชน์ อาจเน้นแต่ความโกรธ . . CEO ย่านอโศกให้สัมภาษณ์ BTS สายสีม่วงขัดข้องเช้านี้ ผมไม่เดือดร้อนเพราะปกติผม ออกเร็วกว่าคนทั่วไป 1 ชม. . ตัวอย่างที่ผ่าน SHINE (คนอโศก ได้ประโยชน์จากการสื่อสารนี้)

18.2. 9 Pattern my favourite headline

18.2.1. 1. Claim Benefit 2. Personalized 3. Testimonial 4. Guarantee 5. Promotion 6.With News 7. How-to 8. Offering Solution 9. Asking Question

18.2.2. 10 คำที่เร่าร้อน ใช้คำเหล่านี้ เป็นคำที่มักใช้ เพื่อให้เกิดผลข้างต้น 1. คุณ 2. ของคุณ 3. อย่างไร 4. ใหม่ 5. ใคร 6. เงิน 7. ทันที 8.คน 9. ต้องการ 10. ทำไม

18.2.2.1. คุณต้องการที่จะหยุดทำร้าย ก้นและหลังของคุณหรือยัง . มาดูกันว่าทำอย่างไร ถึงจะ เหมือนได้ก้นและหลังใหม่ภายใน 10 วัน เพียงแค่มีเบาะของเรา ก็ช่วยได้แล้ว

18.3. ** หากอยากสื่อสารให้น่าสนใจ ขึ้นมาอีกขั้น ต้องไม่พูดเรื่องนี้นตรงๆ** . ##สัญชาตญาณ## เขียนในมุมที่ คนทั่วไปไม่เขียน **พูดง่าย ทำยาก แต่ทำได้ ** เขียนให้แตกต่าง

18.3.1. ไม่สื่อสิ่งที่ต้องการตรงๆ . แต่ใช้คำเปรียบเทียบ เพื่อเข้าถึงสิ่งที่อยู่ในจิตใต้สำนึก

18.3.2. สื่อสารด้วยตัวเลข

18.3.3. Ex ที่ 60 ไมล์ต่อชั่วโมงเสียงรบกวนที่ดัง ที่สุดใน Rolls-Royce มาจากนาฬิกาอิเล็กทรอนิค By David Ogilvey

19. 41-Module (Update) 9 Step การเขียนขายคอร์ส

19.1. 1. Headline สำคัญมาก - การใส่ตัวเลขทำให้จับต้องได้ - จะต้องบอกว่าทำให้เขาดีขึ้นได้ไง

19.2. 2. Premium Content - เนื้อหาที่ต้องสอดรับ Headline เพื่อขยี้ต่อ - ต้องให้เนื้อหาที่ดีจริงๆ ยิ่งให้ยิ่งได้

19.3. 3. คอร์สคุณจะช่วยอะไรเค้าได้

19.4. 4. องค์ประกอบทั้งหมดที่คุณมี เพื่อช่วยเค้า บอกหัวข้อเนื้อหาทั้งหมด ยิ่งเยอะ ยิ่งดี

19.5. 5. ทำให้เค้ามั่นใจว่า ทั้งหมด ที่คุณบอก ช่วยเค้าได้จริง ##Reviews Testimonials##

19.6. 6. รูปแบบ รายละเอียดการเรียนทั้งหมด

19.7. 7. ราคา โปรโมชั่น สิทธิพิเศษ ใส่ Scarcity ในส่วนนี้ได้

19.8. 8. ขั้นตอน รายละเอียด การลงทะเบียน

19.9. 9. Bonus พิเศษที่คุณเตรียมไว้ให้ ยิ่งเยอะ ยิ่งคุ้ม ยิ่งตัดสินใจง่าย

20. 52-BULLET 3 Killer shots BULLET ที่พร้อมสังหารคนอ่าน!! . ปกติ Bullet ที่เราเขียน จะเขียนสั้นๆ กว้างๆ รวมๆ ไม่เจาะลึก ซึ่งนั่นไม่โดนใจคนอ่าน . ##ไม่จำเป็นต้องใช้ทั้งหมด ใช้แค่ 2 ใน 3 ก็พอแล้ว##

20.1. #Word Picture# เพราะคนอ่านไม่ได้อ่านและรับรู้ผ่านตัวหนังสือ แต่เป็นภาพที่ปรากฏออกมาเสมอ

20.1.1. ตัวอย่างเดิม แต่เปลี่ยนคำให้เห็นภาพ . ความจริงเกี่ยวกับการใช้“ ความสงสัย” อย่างไรให้ได้ผล ทำไมเด็กวัย 26 ปีจากสิงคโปร์ใช้เพียงแค่คำเดียวที่ สร้างเงินให้เขา **1 ล้านเหรียญใน 1 เดือน"" . เป็น . •ความจริงเกี่ยวกับการใช้“ ความสงสัย” ที่ทำให้เด็กวัย 26 ปีจากสิงคโปร์ที่ใช้เพียงแค่คำเดียวที่สร้างเงินให้เขา **ได้เท่ากับเขาทำงานประจำแบบเก็บหอมรอบริบ ชนิดที่กินข้าวในห้างแทบไม่ได้เลยเป็น ระยะเวลา 30 ปี แต่เขากับสร้างเงินก้อนนี้ได้ใน 1 เดือน**

20.2. #Mission Impossible# . ยิ่งน่าเหลือเชื่อ ยิ่งทำให้สงสัย ห้ามเกินจริงเด็ดขาด

20.3. Tips:: อย่าขึ้นต้น Bullet ด้วยคำเดียวกันทั้งหมดเพราะกระสุน ของคุณมนทู่ไปหมดแล้วคุณต้องมีกระสุนยางกระสุนเจาะ เกราะกระสุนยาสลบ ตัวอย่างคำที่ใช้กระตุ้น เช่น . •ขั้นตอนการ •สิ่งที่สำคัญที่สุด •ทำไม ... •อะไรที่ทำให้ •ทริคในการ • 5 องค์ประกอบที่ทำให้ •ความลับ •เผย ...

21. 54-สรุปทวนเนื้อหารุ่นที่ 29 (wrap up)

21.1. 1. โอกาสในงานเขียนทุกอย่างที่ทำให้เป็นโอกาสต่อยอดได้เสมอ 2. แนะนำเครื่องมือที่ผมใช้ทำภาพ 3. 26 เหตุผลที่ลูกค้าตัดสินใจซื้อ คือการตอบโจทย์ WIIFM 4. 7 จิตวิทยากระตุ้นคนซื้อ 5. โครงสร้างการเขียนขาย Level 3

22. The Zeigarnik Effect #ความค้างคาใจ# **ใช้ Story+ตัวเลขที่จับต้องได้+ Emotion+เปรียบเทียบกับ Common** สร้างความค้างคาใจ . **เทคนิคใช้ความสงสัย ในการเพิ่มยอดขาย** . ถ้าเป็นขายสินค้า อาจไม่ต้อง สร้างคงามคาใจขนาดนี้

22.1. ตัวอย่าง เช่น เดิม เทคนิคใช้ความสงสัย ในการเพิ่มยอดขาย . เปลี่ยนเป็น ความจริงเกี่ยวกับการใช้“ ความสงสัย” อย่างไรให้ได้ผล ทำไมเด็กวัย 26 ปีจากสิงคโปร์ใช้เพียงแค่คำเดียวที่ สร้างเงินให้เขา 1 ล้านเหรียญใน 1 เดือน

22.2. ตัวอย่าง การมี Progress ของเกมส์ หรือการกรอกข้อมูล เช่น "สำเร็จแล้ว 25%" สร้างความค้างคาใจ ให้คนเล่น