1. การเปลี่ยนแปลงของธรณีภาค ธรณีภาค คือ เปลือกโลกและเนื้อโลกชั้นนอกสุด มีการเปลี่ยนแปลงสภาพอยู่ตลอดเวลา โดยมี กระบวนการเปลี่ยนแปลง 2 กระบวนการ คือ กระบวนการเปลี่ยนแปลงจากแรงภายในโลก (endogenic process) และกระบวนการเปลี่ยนแปลงบนพื้นผิวโลก
2. กระบวนการเปลี่ยนแปลง บนพื้นผิวโลก
2.1. การผุพังอยู่กับที่ เป็นกระบวนการทำให้หินบนพื้นโลกผุพัง เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม โดยมี 3 ลักษณะคือ
2.1.1. 1.การผุพังอยู่กับที่ทางฟิสิกส์ เกิดจากอุณหภูมิและความชื้นที่ทำให้แร่ประกอบหิน เกิดการขยายตัวและหดตัว ทำให้ผิวของหินแตกแยกออก
2.1.2. 2.การผุพังอยู่กับที่ทางเคมี เป็นกระบวนการทางเคมีที่หินและแร่ได้รับ การทำปฏิกิริยาทางเคมีของกรดและด่าง ในรูปสารละลาย
2.1.3. 3.การผุพังอยู่กับที่ทางชีวภาพ เกิดจากการกระทำขอสิ่งมีชีวิต เช่นรากของพืชแทรกเข้าไปในซอกหิน ดันให้หินแตก
2.2. กระบวนการกร่อน เป็นกระบวนการที่ถูกกระทำด้วยตัวการ ทางธรรมชาติ ได้แก่ แม่น้ำ ลม ธารน้ำแข็ง และคลื่น ทำให้มวลสารของตัวถูกกระทำกร่อน ออกเป็นตะกอนขนาดต่าง ๆ กระบวนการกร่อน ที่สำคัญมีดังนี้
2.2.1. 1.การครูดถู
2.2.2. 2.การพัดกราด
2.2.3. 3.การกระทบกระแทกให้แตก
2.3. การพัดพาและทับถม เป็นกระบวนการที่เกิดคู่กันคือเมื่อพลังงานสิ้นสุดลง จะทำให้เกิด การทับถมในเวลาต่อมาลักษณะของตะกอนและสภาพแวดล้อม การพัดพาแฃะทับถมทำให้เกิดภูมิประเทศแตกต่างกันตามชนิด ของตะกอนและตัวกระทำนั้น ๆ
2.3.1. 1. การพัดพา -การพัดพาท้องธาร -การแขวนลอย -การกลิ้ง -การเลื่อน
2.3.2. 2.การทับถม -การทับถมโดยน้ำ -การทับถมโดยลม -การทับถมโดยธารน้ำแข็ง -การทับถมโดยคลื่น
2.4. การเคลื่อนที่ของมวล เป็นการเคลื่อนที่ของมวลหิน ดิน ทราย ภายใต้ แรงโน้มถ่วงลงสู่พื้นด้านล่าง โดยมีน้ำหนักหรือ แรงสั่นสะเทือนกระตุ้นให้เกิดการเคลื่อนที่ รูปแบบการเคลื่อนที่ของมวล มีดังนี้
2.4.1. 1.แผ่นดินถล่ม
2.4.2. 2.หินถล่ม
2.4.3. 3.ดินไหล
3. กระบวนการเปลี่ยนแปลง จากแรงภายในโลก
3.1. การแปรสัณฐานของเปลือกโลก เป็นการแปรสัณฐานของธรณีภาคอย่างช้า ๆ เป็นการเคลื่อนตัวของแผ่นเปลือกโลกที่ได้รับความร้อน ภายในโลกทำให้แมกมาเคลื่อนตัวอย่างช้าๆ เป็นผลทำให้ธรณีภาคที่เป้นของแข็งเกิดการเคลื่อนที่ และแตกออก ลักษณะการเคลื่อนที่ของแผ่นธรณีภาคมีการเคลื่อนเป็น 3 ลักษณะ ดังนี้
3.1.1. 1.แผ่นธรณีภาคเคลื่อนที่แบบชนกัน
3.1.2. 2.แผ่นธรณีภาคเคลื่อนที่แยกออกจากกัน
3.1.3. 3.แผ่นธรณีภาคเคลื่อนที่ผ่านกัน
3.2. รอยคดโค้ง เกิดจากการที่แผนธรณีภาคเคลื่อนที่ชนกัน รวมถึงแรงเค้นและแรงเครียดของเปลือกโลก ทำให้เปลือกโลกถูกดันให้โค้งงอและพับ เป็นรูปคดโค้งตามแรงดัน
3.3. การเกิดภูเขาไฟ เกิดจากแรงภายในโดยการดันตัวของหินหนืดขึ้นมาบนผิวโลก เมืออุณหภูมิและแรงดันสูงขึ้น หรืออาจมาจาเนิ้อโลกโดยตรง เมือหินหนืดดันตัวออกมาภายนอกแล้วจะไหลไปตามพื้น ที่ลาดเอียงของลักษณะภูมิประเทศ และเกิดการทบถมก่อให้เกิดภูมิประเทศใหม่ขึ้น เป็นการเพิ่มระดับบนพื้นผิวโลก
3.4. รอยเลื่อน เป็นรอยแตกของเปลือกโลกเกิดจาก แรงดันภายในโลกที่ทำให้เปลือกโลกขยับตัว โดยการเคลื่อนที่ของแผ่นเปลือกโลกตามแนว ระนาบรอยแตกของเปลือกโลก รอยเลื่อนจำแนกได้เป็น 3 แบบ คือ
3.4.1. 1.รอยเลือนปกติ
3.4.2. 2.รอยเลื่อนย้อน
3.4.3. 3.รอยเลื่อนตามแนวระนาบ