การพยาบาลสตรีตั้งครรภ์ที่เป็นซิฟิลิส

Get Started. It's Free
or sign up with your email address
การพยาบาลสตรีตั้งครรภ์ที่เป็นซิฟิลิส by Mind Map: การพยาบาลสตรีตั้งครรภ์ที่เป็นซิฟิลิส

1. การรักษา

1.1. ระยะต้น

1.1.1. ให้ยา Benzathine penicillin G 2.4 mU IM ครั้งเดียว แบ่งฉีดสะโพก ข้างละ 1.2 mU

1.1.2. อาจลดอาการปวดโดย ผสม 1% Lidocaine 0.5-1 ml

1.2. ระยะปลาย

1.2.1. ให้ยา Benzathine penicillin G 2.4 mU IM สัปดาห์ละครั้ง นาน 3 สัปดาห์ แบ่งฉีดที่สะโพก ข้างละ 1.2 mU

1.2.2. อาจลดอาการปวดโดยผสม 1% Lidocaine 0.5-1 ml

2. การพยาบาล

2.1. ระยะตั้งครรภ์

2.1.1. อธิบายความสำคัญของการคัดกรองความเสี่ยงของโรคต่อการตั้งครรภ์

2.1.2. ส่งคัดกรอง VDDL ครั้งแรกที่มาฝากครรภ์และตรวจซ้ำเมื่ออายุครรภ์ 28-32 สัปดาห์ หรือ อย่างน้อย 3 เดือน

2.1.3. แนะนำมาฝากครรภ์ตามนัดและติดตามผลการรักษาเมื่อครบ 6-12 เดือน

2.1.4. แนะนำรักษาความสะอาดและป้องกันการแพร่กระจายเชื้อ

2.1.5. แนะนำพาสามีมาตรวจคัดกรอง

2.1.6. ดูแลด้านจิตใจ

2.1.7. หากมีการติดเชื้อ ดูแลและให้ได้รับยาปฏิชีวนะตามแผนการรักษา

2.2. ระยะคลอด

2.2.1. ดูแลให้การพยาบาลผู้คลอดตามมาตรฐานเพื่อให้การคลอดเป็นไปตามปกติ

2.2.1.1. การประเมินความก้าวหน้าของการคลอด คลอด

2.2.1.2. การประเมินเสียงหัวใจทารกในครรภ์อย่างต่อเนื่อง

2.2.1.3. การใช้เทคนิคผ่อนคลายความเจ็บปวดจากการคลอด

2.2.1.4. การดูแลความสุขสบายทั่วไป

2.2.1.5. การส่งเสริมความก้าวหน้าของการคลอด

2.2.1.6. สังเกตอาการผิดปกติหรือภาวะแทรกซ้อน

2.2.2. ป้องการการแพร่กระจายเชื้อ โดยใช้หลัก Universal precaution

2.2.2.1. ระมัดระวังสิ่งคัดหลั่งหรือเลือดกระเด็นเข้าตา ปาก หรือบาดแผล

2.2.2.2. ล้างมือและสวมอุปกรณ์ป้องกันตนเองทุกครั้งขณะทำหัตถการ เช่นการเจาะเลือด การตรวจภายใน การทำคลอด เป็นต้น

2.2.3. การพิจารณาวิธีการคลอด

2.2.3.1. มีรอยโรคแผลริมแข็งบริเวณอวัยวะสืบพันธ์ุ

2.2.3.1.1. ดูแลย้ายผู้คลอดเข้าห้องคลอดซึ่งเป็นห้องแยกสำหรับผู้ติดเชื้อ

2.2.3.1.2. ดูแลทำคลอดปกติตามมาตรฐานโดยยึดหลักป้องกันการแพร่กระจายเชื้อ

2.2.4. การตรวจรก

2.2.4.1. รกของผู้คลอดที่ติดเชื้อซิฟิลิสจะมีลักษณะใหญ่ ซีด และ บวมน้ำ

2.2.5. การดูแลทารกแรกเกิด

2.2.5.1. เจาะเลือดจากสายสะดือทารกเพื่อส่งตรวจการติดเชื้อซิฟิลิส

2.2.5.2. เฝ้าระวังภาวะแทรกซ้อนของทารกที่เกิดจากมารดาติดเชื้อซิฟิลิส

2.2.5.3. ป้องกันการติดเชื้อโดยการดูดเมือกออกจากปากและจมูก

2.3. ระยะหลังคลอด

2.3.1. การประเมินภาวะสุขภาพของมารดาโดยใช้หลัก 13B

2.3.2. ส่งเสริมการปฏิบัติตัวหลังคลอด

2.3.2.1. การคลึงมดลูก การดูแลสุขวิทยา การรับประทานอาหาร การบริหารร่างกายหลังคลอด ภาวะทางจิตสังคม

2.3.3. การป้องกันการแพร่กระจายเชื้อสู่บุคคลอื้น

2.3.3.1. ให้มารดาแยกจากมารดาหลังคลอดรายอื่น

2.3.3.2. แยกอุปกรณ์เครื่องใช้หลังคลอดที่เสี่ยงต่อการแพร่กระจายเชื้อ เช่น เสื้อผ้า ผ้าปูที่นอน หม้อนอน ห้องน้ำ ถังขยะติดเชื้อ

2.3.4. การส่งเสริมการเลี้ยงลูกด้วยน้ำนำแม่ในมารดารติดเชื้อซิฟิลิส

2.3.4.1. สามารถให้นมได้ตามปกติ ล้างมือก่อนและหลังสัมผัสทารก

2.3.5. แนะนำการคุมกำเนิดที่เหมาะสมกับมารดาหลังคลอดและสามีหรือคู่เพศสัมพันธ์

2.3.6. แนะนำการมาตรวจตามนัด และติดตามผลการรักษา

3. ภาวะแทรกซ้อน

3.1. การคลอดก่อนกำหนด

3.2. ทารกในครรภ์โตช้า

3.3. ทารกบวมน้ำ

3.4. ทารกตาบอด

3.5. เสี่ยงต่อการแท้งหลังอายุครรภ์ 4 สัปดาห์

3.6. Congenital syphilis

3.6.1. ระยะแรก

3.6.1.1. พบตั้งแต่คลอดถึง 1 ปี

3.6.1.2. น้ำหนักตัวน้อย ตับม้ามโต ต่อมน้ำเหลืองโต ผิวหนัง ฝ่ามือฝ่าเท้าจะพองและลอก น้ำมูกมาก เสียงแหลม

3.6.1.3. wimberger’s sign ปลายส่วนบนกระดูก tibia กร่อนทั้งสองข้าง

3.6.2. ระยะหลัง

3.6.2.1. พบอายุมากกว่า 2 ปี

3.6.2.2. แก้วตาอักเสบ ฟันหน้าแหว่งเว้าคล้ายจอบ หูหนวก จมูกยุบ หน้าผากนูน

4. การติดเชื้อซิฟิลิส (Syphilis)

4.1. โรคติดเชื้อจากแบคทีเรียทรีโพนีมา แพลลิดัม (Treponema pallidum) ซึ่งติดต่อผ่านการมีเพศ สัมพันธ์กับผู้ป่วยที่ติดเชื้อซิฟิลิส การดำเนินโรคในขั้นต้น จะเร่ิมจากมีบาดแผล มักพบบริเวณอวัยวะเพศ บริเวณปาก หรือทวารหนัก ซึ่งผู้ป่วยจะไม่รู้สึกเจ็บแผล (Painless sore) หรือเรียกว่า แผลริมแข็ง (Chancre) การแพร่กระจายเชื้อสู่ ผู้อื่นผ่านการสัมผัสบาดแผลกับผิวหนังหรือเยื่อบุต่างๆ เมื่อ เข้าสู่ระยะแฝง จะไม่มีอาการแสดงและตรวจไม่พบรอยโรค เมื่อตรวจคัดกรองโรคซิฟิลิสให้ผลเป็นบวกร่วมกับมีผลตรวจ ยืนยันด้วย Treponemaltest ผิดปกติ

5. สตรีตั้งครรภ์ติดเชื้อซิฟิลิส

5.1. หญิงต้ังครรภ์ที่มีผลการตรวจคัดกรอง โรคซิฟิลิสเป็นบวก

5.2. ร่วมกับมีผลตรวจยืนยันด้วย Treponemal test ผิดปกติ ซึ่งอาจมีอาการแสดงหรือไม่มีอาการแสดงของโรคซิฟิลิส

6. อาการและอาการแสดง

6.1. Primary syphilis

6.1.1. แผลริมแข็งมีตุ่มแดง

6.2. Secondary syphilis

6.2.1. ผื่นสีน้ำตาลแดง ทั่วตัว ฝ่ามือ ฝ่าเท้า ไข้ ปวดตามข้อ ข้ออักเสบ ต่อมน้ำเหลืองโต

6.3. latent syphilis

6.3.1. ระยะนี้เกิดข้ึนหลังจากติดเชื้อซิฟิลิสระยะแรกและซิฟิลิสระยะที่สองแล้ว ไม่ไดรับการรักษาสามารถหายไปได้เองและตรวจไม่พบรอยโรค

6.4. Tertiary syphilis

6.4.1. ทำลายอวัยวะภายใน เช่น หัวใจ และหลอดเลือดสมอง ตาบอด

7. การวินิจฉัย

7.1. การตรวจเลือด

7.1.1. การตรวจ VDRL หรือ RP

7.1.2. FTA-AB

7.2. ส่งตรวจน้ำไขสันหลัง