ความผิดปกติของ การทำระบบกล้ามเนื้อ และการเคลื่อนไหว

Get Started. It's Free
or sign up with your email address
ความผิดปกติของ การทำระบบกล้ามเนื้อ และการเคลื่อนไหว by Mind Map: ความผิดปกติของ การทำระบบกล้ามเนื้อ และการเคลื่อนไหว

1. Amyotrophic Lateral Sclerosis : ALS

1.1. สาเหตุ

1.1.1. การปนเปื้อนของสารพิษเข้าร่างกาย

1.1.2. หายใจล้มเหลว

1.1.3. ติดเชื้อในปอดจากการสำลัก

1.2. ปัจจัย

1.2.1. พันธุกรรม

1.2.2. สิ่งเเวดล้อม

1.3. การตอบสนอง

1.3.1. กล้ามเนื้ออ่อนเเรง เเขนขาลีบ

1.3.2. เหนื่อยเวลานอนราบ หายใจไม่อิ่ม

1.3.3. สำลักเวลากลืนน้ำเเละอาหาร

1.3.4. ตื่นกลางดึก

1.3.5. พูดไม่ชัด ลิ้นเเข็ง

1.4. กลไล

1.4.1. Cell ประสาทในสมองเเละไขสันหลังนำคำสั่งผิดปกติ

1.4.2. Cell ประสาทในสมองเเละไขสันหลังเสื่อมเเละตายไป ทำให้ขาด cell ในการควบคุม

1.4.3. Gutamateเพิ่มขึ้นปฏิกิริยาตอบสนองภูมิคุ้มกันตนเอง ยีนกลายพันธ์ุ อนุมูลอิสระเข้าแทนที่โครโมโซมคู่ที่ 21

1.5. การวินิจฉัย

1.5.1. ซักประวัติ

1.5.2. ตรวจร่างกาย

1.5.3. การตรวจประสาทเเละกล้ามเนื้อด้วยคลื่นไฟฟ้า (EMG)

1.5.4. การตรวจประสาทเเละกล้ามเนื้อด้วยคลื่นไฟฟ้า (EMG)

2. ปวดหลังหรือปวดตามแนวกึ่งกลางหลัง

3. Huntington's disease

3.1. สาเหตุ

3.1.1. ความผิดปกติทางพันธุกรรม

3.2. ปัจจัย

3.2.1. คนในครอบครัวเคยมีคนเป็นโรคนี้

3.2.2. แต่งงานกับคนในครอบครัวที่มีคนเป็นโรคนี้

3.3. กลไกพยาธิสรีรวิทยาความผิดปกติ

3.3.1. ความผิดปกติของยีน (mhTT) บนโครโมโซมลำดับที่ 4

3.4. การตอบสนอง

3.4.1. ระยะแรก

3.4.1.1. ไม่ค่อยมีสมาธิ

3.4.1.2. เคลื่อนไหวช้าลง

3.4.1.3. อารมณ์เปลื่ยนแปลง

3.4.2. ระยะกลาง

3.4.2.1. อาจเกิดการหกล้ม

3.4.2.2. อาจทำของร่วงจากมือ

3.4.2.3. มีปัญหาเกี่ยวกับการพูด

3.4.3. ระยะสุดท้าย

3.4.3.1. อาการแขนขากระตุกหรืออยู่ไม่นิ่ง

3.4.3.2. มีปัญหาเกี่ยวกับการกลืน

3.4.3.3. อาจพูดไม่ได้

3.5. การวินิจฉัยโรค

3.5.1. ตรวจการทำงานของสมอง

3.5.2. ทดสอบสมรรถภาพทางความคิดและการเรียนรู้

3.5.3. ประเมินภาพจิตใจ

3.5.4. ตรวจความผิดปกติทางพันธุกรรม

4. Spinal shock

4.1. สาเหตุ

4.1.1. Spinal shock (ภาวะช็อคจากการบาดเจ็บ) ภาวะที่ไขสันหลังหยุดทํางานชั่วคราวภายหลังได้รับบาดเจ็บ เนื่องจากไขสันหลังที่ได้รับบาดเจ็บใหม่ๆ จะบวมมาก ใยประสาทจึงหยุดทํางานชั่วคราว เมื่อยุบบวม ใยประสาท จึงกลับมาทํางานได้ปกติ มักเกิดกับผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ ไขสันหลังระดับตั้งแต่กระดูกอกชิ้นที่ 6 (T6) ขึ้นไป

4.2. ปัจจัย

4.2.1. ระบบไหลเวียนโลหิตไม่เสถียร

4.2.2. เกิดการสูญเสียการทำงานชั่วคราวของไขสันหลัง

4.3. กลไกล

4.3.1. 1.การบาดเจ็บของสันหลัง

4.3.2. 2.สัญญาณระบบประสาทลดลง

4.3.3. 3.เส้นเลือดหดรัดตัวบกพร่อง

4.3.4. 4.เส้นเลือดขยายตัว

4.3.5. 5.เลือดออกจากหัวใจลดลง

4.3.6. 6.BP ต่ำ

4.3.7. 7.เกิดSpinal shock

4.4. การวินิจฉัย

4.4.1. การซักประวัติภายหลังเกิดอุบัติเหตุผู้ป่วยจะมีอาการปวดตึงต้นคอ

4.4.1.1. ความรู้สึกที่แขนขาลดลง

4.4.1.2. รู้สึกเหมือนมีไฟฟ้าวิ่งตามลำตัวและแขนขา

4.4.1.3. Pulse และ BP ช้า

4.4.2. การตรวจร่างกาย

4.4.2.1. ประเมินการเคลื่อนไหว Glasgow's coma score

4.4.2.2. การประเมินความรุนแรงของไขสันหลังบาดเจ็บ ASIA

4.4.2.3. การตรวจด้วยภาพรังสี

4.5. การตอบสนอง

4.5.1. อวัยวะที่อยู่ต่ำกว่าระดับไขสันหลังได้รับบาดเจ็บจะเป็นอัมพาต โดยสมบูรณ์อ่อนปวกเปียก

4.5.2. BP ต่ำา เนี่องจากหลอดเลือดขยาย -ปัสสาวะดังจาก Atonic bladder

4.5.3. ปัสสาวะคั่งจาก Atonic bladder อวัยวะเพศชายขยายตัว

4.5.4. ผิวหนังเย็นและแห้ง

4.5.5. ไม่มี reflex

4.5.6. เกิดอาการท้องอืดจาก bowel ileus

5. Parkinson’s Disease

5.1. สาเหตุ

5.1.1. การเสื่อมของเซลล์สมองบริเวณ แกนสมอง

5.1.1.1. การสร้างสารสื่อประสาท Dapamine ในสมองเสียสมดุล

5.2. ปัจจัย

5.2.1. อายุที่เพิ่มมากขึ้น

5.2.2. ผู้ที่ใช้ยาทางจิตเวชบางประเภท

5.2.3. ผู้ที่มีประวัติประสบอุบัติเหตุทางศีรษะ

5.2.4. อาชีพที่เสี่ยงต่อการกระทบกระเทือน ที่ศีรษะ

5.2.4.1. นักมวย🥊

5.2.4.2. นักฟุตบอล⚽️

5.2.5. พันธุกรรม (พบเป็นส่วนน้อย)

5.3. การตอบสนอง

5.3.1. ทางด้านร่างกาย🦵

5.3.1.1. สั่น

5.3.1.2. เคลื่อนไหวช้า เดินลำบาก เดินซอยเท้า

5.3.1.3. หน้านิ่ง น้ำลายไหลนิ่ง

5.3.1.4. พูดช้า เสียงค่อย

5.3.1.5. ร่างกายแข็งเกร็ง เท้าติดเวลาก้าวขา

5.3.2. ทางด้านจิตใจ💛

5.3.2.1. วิตกกังวล

5.3.2.2. ซึมเศร้า

5.3.3. ทางด้านอื่นๆ🧠

5.3.3.1. ความจำระยะสั้นไม่ดีในตอนต้น

5.3.3.2. ความจำเสื่อมในระยะท้าย

5.3.3.3. มึนศรีษะเวลาลุกขึ้นเนื่องจาก ความดันโลหิตต่ำ

5.4. การวินิจฉัย

5.4.1. 📝ซักประวัติ ตรวจอาการ และตรวจ ร่างกายทางระบบประสาท

5.4.2. 🩺MRI Brain เพื่อแยกโรคอื่นที่ อาการคล้าย Parkinson

5.4.3. 🧑‍⚕️ตรวจ PET Braine F-Dopa การตรวจการทำงานของสมองวัดความ ผิดปกติของสารโดปามีน

5.5. กลไกพยาธิ

5.5.1. การสูญเสียเซลล์ประสาท Dopamine ใน substantial nigra

5.5.2. ความเสื่อมของเส้นประสาท Terminal ใน Striatum

6. Sydenham's chorea

6.1. สาเหตุ

6.1.1. การติดเชื้อผ่านกลุ่ม beta-hemolytic streptococcus (GABHS)

6.2. กลไก

6.2.1. ทำให้เกิดการทำลายเซลล์ประสาทในบริเวณ corpus striatum และ Basal ganglia

6.3. อาการ

6.3.1. ชักแบบคลาสสิค

6.3.2. ลิ้นพัน

6.3.3. ขาจะหลุดและสบัดออก

6.3.4. อาการชักกระตุก

6.4. การวินิจฉัย

6.4.1. Anti-DNAse B titre

6.4.2. Anti-streptolysin O titre

6.4.3. * * การตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ

6.4.4. EEG

6.4.5. การเจาะเอว

6.4.6. การถ่ายภาพด้วยคลื่นสนามแม่เหล็ก

6.5. การรักษา

6.5.1. Haloperidol

6.5.2. Valproate

6.5.3. carbamazepine

7. Seizure

7.1. สาเหตุ

7.1.1. ขาดการนอนหลับใน🥱

7.1.2. ภาวะโซเดียมในเลือดต่ำ

7.1.3. ผลจากยา เช่น ยาแก้ปวด ยาต้านโรคซึมเศร้า 💊

7.1.4. การบาดเจ็บที่ศีรษะ 🤕

7.1.5. โรคหลอด🩸เลือดสมอง

7.1.6. เนื้องอกในสมอง 🧠

7.1.7. ยาเสพติดที่ผิดกฎหมาย เช่น โคเคน ยาบ้า

7.1.8. ผลกระทบจาก เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 🍺

7.2. กลไก

7.2.1. สมองบางส่วนหรือทั้งหมด มีความผิดปกติ

7.2.2. เกิดกระบวนการสร้างและ ปล่อยประจุไฟฟ้าที่ต่อเนื่องออกมา

7.2.3. ประจุไฟฟ้าที่เกิดขึ้นอย่างผิดปกติ เป็นตัวทำให้เกิดอาการชัก

7.3. การตอบสนอง

7.3.1. สูญเสียสติและการรับรู้

7.3.2. แขนและขากระตุก ควบคุมไม่ได้

7.3.3. สับสนชั่วคราว

7.3.4. อาการตาจ้องกว่าปกติ

7.4. ปัจจัย

7.4.1. มีไข้

7.4.2. ภาวะเจ็บป่วย เช่น อาเจียน ท้องเสีย 🤒

7.4.3. ภาวะอดนอนหรือเครียด 😪😬

7.4.4. ใกล้ช่วงมีประจำเดือนหรือ ฮอร์โมนผิดปกติ🫨

7.4.5. มีการกระตุ้นสายตามากเกินไป เช่น เล่นเกม ดูทีวีที่มีจอรูปกระพริบ👀📺

7.4.6. ลืมรับประทานยากันชัก หรือ รับประทานยาบางชนิด ที่มีผลต่อ ระดับยากันชัก

7.5. การวินิจฉัย

7.5.1. การตรวจระบบประสาท

7.5.2. การตรวจเลือด

7.5.3. การเจาะตรวจน้ำไขสันหลัง

7.5.4. การตรวจคลื่นไฟฟ้าสมอง

7.5.5. การตรวจเอกซเรย์คอมพิวเตอร์

7.5.6. การถ่ายภาพด้วยคลื่นสนามแม่เหล็ก

7.5.7. การตรวจทางเวชศาสตร์นิวเคลียร์