1. สักษณะของเสียง
1.1. เป็นพลังงานชนิดหนึ่ง
1.2. เกิดจากการสั่น
1.3. ตัวกลางการผ่านของเสียง
1.3.1. ของแข็ง
1.3.2. ของเหลว
1.3.3. อากาศ
1.4. เสียงที่มนุษย์ได้ยิน
1.4.1. ความถี่สูงกว่า 20,000 Hz
1.4.1.1. อัลตราโซนิก (ultrasonic)
1.4.2. 20-20,000 Hz
1.4.2.1. เสียงที่ปกติหูคนได้ยิน
1.4.3. ความถี่ต่ำกว่า 20 Hz
2. จุดมุ่งหมายในการฬช้เครื่องเสียง
2.1. 1. เพื่อให้เสียงดัง ชัดเจน ไม่มีเสียงแทรก
2.2. 2. เพื่อให้เสียงเหมือนธรรมชาติ
2.3. 3. เพื่อให้เสียงไพเราะ ระรื่นหู
3. เสียงกับการได้ยิน
3.1. 0 dB
3.1.1. เบาที่สุด
3.2. 10 dB
3.2.1. เสียงหายใจ
3.3. 20 dB
3.3.1. เสียงกระซิบ
3.4. 30-40 dB
3.4.1. เสียงดนตรีเบาๆ
3.5. 40-50 dB
3.5.1. เสียง ย่านที่อยู่อาศัย
3.6. 60-70 dB
3.6.1. เสียงคุยกันในห้อง
3.7. 70-80 dB
3.7.1. เสียงยวดญานพาหนะบนท้องถนน
3.8. 80-100 dB
3.8.1. เสียงรถไฟ
3.9. 110-115 dB
3.9.1. เสียงฟ้าผ่า
3.10. 120 dB
3.10.1. เสียงดิสโก้เทค
3.11. 140 dB
3.11.1. เสียงเครื่องบินไอพ่น
3.12. 180-200 dB
3.12.1. เสียงฐานยิงจรวจ
3.13. 210-220 dB
3.13.1. เสียงอาวุธนิวเคลียร์ขณะยิง
4. ระดับของเสียง
4.1. ความถี่มาก
4.1.1. เสียงแหลมและสูง (Treble)
4.2. ความถี่น้อย
4.2.1. เสียงทุ้มและต่ำ (Bass)
5. ระบบของเสียง
5.1. ระบบเสียงโมโน (Monophonic Sound System)
5.1.1. มีทิศทางของเสียงเพียงทางเดียว
5.1.2. ราคาถูก
5.2. ระบบเสียงสเตอริโอ(Stereophonic Sound System)
5.2.1. มีแหลงกําเนิดหลายทิศทาง
5.2.1.1. 2 ทาง
5.2.1.2. 4 ทาง
5.2.1.3. มากกว่า 4 ทาง
6. ระบบการขยายของเสียง
6.1. 1. สัญญาณเขา (Input)
6.1.1. ทําหนาที่รับสัญญาณตางๆ
6.2. 2. สวนขยายหรือระบบขยาย สัญญาณ (Amplifier)
6.2.1. ทําหนาที่ขยายสัญญาณไฟฟา
6.3. 3. สวนนําสัญญาณออก (Output)
6.3.1. KPI's
7. อุปกรณ์ขยายเสียง
7.1. ส่วนสัณญานเข้า
7.1.1. ไมโครโฟน
7.1.1.1. ชนิดของไมโครโฟน
7.1.1.1.1. 1. Carbon Mic.ใชระบบการอัดตัวของผงถาน
7.1.1.1.2. 2. Crystal Mic.ใชระบบการเปลี่ยนแปลงรูปโครงสรางภายในผลึกของสารกึ่งตัวนํา
7.1.1.1.3. 3. Dynamic Mic. ใชระบบขดลวดแมเหล็ก
7.1.1.1.4. 4. Condensor Mic. ใชระบบการเก็บประจุกระแสไฟฟา
7.1.1.2. การดูแลรักษา
7.1.1.2.1. 1.อยาใหไมโครโฟนไดรับการกระทบกระเทือน
7.1.1.2.2. 2.ขณะใชงานอยาหันหนาไมคเขาหาลําโพง เพราะจะทำให้เกิดเสียงหอน
7.1.1.2.3. 3. ควรพูดหางจากไมคในระยะพอควร
7.1.1.2.4. 4.ควรมีผาหรือฟองน้ําปองกันฝุนหรือลมหอหุม
7.1.1.2.5. 5. ควรเลือกใชไมโครโฟนใหเหมาะกับงาน
7.1.2. เครื่องรับวิทยุ(Radio)
7.1.2.1. ระบบ
7.1.2.1.1. 1. ระบบAM (Amplitude Modulation)
7.1.2.1.2. 2. ระบบFM (Frequency Modulation)
7.1.2.2. ลักษณะของเครื่องรับวิทยุที่ดี
7.1.2.2.1. 1. มีความไวในการรับสูง
7.1.2.2.2. 2.มีความสามารถในการแยกคลื่นไดอยางละเอียด
7.1.2.2.3. 3. มีคุณภาพเสียงสูง
7.1.2.3. การนําระบบเครื่องเสียงและวิทยุเขามาใชเพื่อการเรียนการสอน
7.1.2.3.1. 1.ใชเพื่อประกอบการเรียนการสอนโดยตรง
7.1.2.3.2. 2. ใชระบบเครื่องเสียงในหองปฏิบัติการ
7.1.2.3.3. 3. ใชเปนสื่อชวยในกรเรียนรายวิชาที่จําเปน
7.1.2.3.4. 4.ใชเปนเครื่องมือในการรับสัญญาณวิทยุและโทรทัศน
7.1.2.3.5. 5.ใชเปนสื่อสารประชาสัมพันธุกระจายขาว แจกิจกรรมตาง ๆ แกนักเรียน
7.1.2.4. ประโยชนของเรื่องรับวิทยุในการเรียนการสอน
7.1.2.4.1. 1. วิทยุเพื่อการศึกษาของมวลชน
7.1.2.4.2. 2. วิทยุเพื่อการศึกษาในระบบ
7.1.3. เครื่องบันทึกเสียง (Tape Recorder)
7.1.3.1. สวนประกอบที่สําคัญของเครื่องบันทึกเสียง
7.1.3.1.1. 1. หัวเทป หัวบันทึกและเลนกลับ
7.1.3.1.2. 2. ลูกกลิ้งดึงเทปและควบคุมความเร็ว
7.1.3.1.3. 3. ปุมกดเพื่อควบคุมกลไกการทํางาน
7.1.3.2. ประโยชนของเทปบันทึกเสียงในการเรียนการสอน
7.1.3.2.1. 1. ใชบันทึกเสียงเหตุการณตาง ๆ
7.1.3.2.2. 2. ใชบันทึกบทเรียนเพื่อนํามาใชสอน
7.1.3.2.3. 3. ใชบันทึกเสียงประกอบสไลด
7.1.3.2.4. 4. ใชบันทึกเสียงเพื่อฝกภาษา
7.1.3.2.5. 5.ใชบันทึกเสียงเพลงประอบการสอนวิชานาฏศิลปหรือดนตร
7.2. สวนขยายระบบสัญญาณ(Amplifier)
7.2.1. ภาคเตรียมขยาย(Pre Amplifier)
7.2.1.1. 1. Off – On Switch ทําหนาที่ปดเปดเครื่อง
7.2.1.2. 2. Volume ทําหนาที่ปรับเสียงดัง– เบา
7.2.1.3. 3. Balance เปนปุมสําหรับควบคุมระดับเสียงทางซายและขวาของเครื่องสเตอริโอ
7.2.1.4. 4. Tone เปนปุมทําหนาที่ปรับทุมแหลม
7.2.1.5. 5. Bass ทําหนาที่ปรับเสียงทุม
7.2.1.6. 6. Treble ทําหนาที่ปรับเสียงแหลม
7.2.2. ภาคขยาย(Main Amp or Power Amp)
7.2.2.1. ทําหนาที่ขยายสัญญาณที่ไดรับการปรับแตงแลวใหมีพลังมาก ตามที่ตองการ
7.2.3. ลําโพง(Speaker)
7.2.3.1. ชนิดของลำโพง
7.2.3.1.1. 1. ลําโพงชนิดกรวย(Cone Speaker)
7.2.3.1.2. 2. ลําโพงปากแตร(Horn Speaker)